ฉาวอีกแล้ววงการตำรวจไทย หลัง หนุ่มสายตำรวจ ออกมาแฉ แก๊งตำรวจ รีดเงินแก๊งค้ายามากว่า 10 ปี รีดเงินไปได้กว่า 10 ล้าน ซึ่งหลังจากช่วยกันรีดทรัพย์แก๊งค้ายา 5 แสน อ้างจะคุ้มครอง สุดท้ายบิดพ่อค้ายา และส่งคนตามล่าสายลามยันครอบครัว !
วันที่ 4 ก.ย. 66 ตั้ม (นามสมมติ) สายตำรวจ เล่าว่า ตนเป็นสายให้ตำรวจมาเกือบ 10 ปีแล้ว ที่มีปัญหากับกลุ่มตำรวจนั้น มาจากเคสเมื่อกลางปี 65 ที่ตนได้เป็นสายให้ตำรวจไปจับยาเสพติดมา 1 แสนเม็ด และจับกุมคนเฝ้ายาได้ 1 คน จากนั้นเจ้าของยาเสพติดได้ติดต่อตนมาให้เคลียร์กับตำรวจไม่ให้สาวถึงตัวเจ้าของ ทางด้านตำรวจจึงเรียกเงิน 1 ล้านบาท ก่อนจะต่อรองจนเหลือ 5 แสนบาท แต่หลังจากจ่ายเงิน มีตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้อำนาจในการขยายผลไม่ได้อยู่กับตำรวจท้องที่แล้ว เป็นผลให้ เจ้าของยาถูกจับในปี 66
ซึ่งหลังจากนั้นเครือข่ายของเจ้าของยา ติดต่อมาหาตนเพื่อจะขอเงิน 5 แสนคืน ตำรวจจึงนัดให้ตนไปคุยที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ทว่าตนสงหรณ์ใจไม่ดี จึงส่งเพื่อนไป สุดท้ายตำรวจรวบเพื่อนไว้และขู่ถามหาตน ตนจึงต้องนำคลิปเสียงที่มีการพูดคุยเรื่องการเรียกส่วยยาเสพติด 5 แสนบาท ขู่ให้เขาปล่อยตัวเพื่อนตน ทำให้ตนถูกกลุ่มตำรวจ และพ่อค้ายาตามล่าในคราวเดียวกัน แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตนมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจาก กลุ่มตำรวจมาคุกคามครอบครัวตนถึงที่บ้าน
ทั้งนี้ด้านพ่อค้ายาตนไม่กลัว แต่ตำรวจเขาถือกฎหมาย สามารถจับตนได้ จะออกหมายค้นบ้านตนเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมสำหรับขบวนการนี้มีตำรวจร่วมอยู่ด้วย 5 คน แต่ตำรวจ 2 คน เป็นชั้นผู้น้อยไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ นอกจากนี้ ยาเสพติดที่กลุ่มตำรวจเหล่านี้จับมาได้ เขาจะนำไปปล่อยต่อให้คนในพื้นที่ และจับกินส่วยใหม่
ฟาก เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า เรื่องนี้มันไม่ได้ตำรวจเกี่ยวข้องแค่ 3 คน มันมีนายตำรวจที่ระดับสูงมากกว่า 3 คนนี้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งบิ๊กโจ๊ก บอกว่า จะสาวเรื่องราวทั้งหมด เงินที่ถูกตำรวจรีดไถไปอยู่ในกระเป๋าใคร เตรียมตัวรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด ทว่า ในเรื่องนี้ไม่ใช่นายตั้มทำถูก แต่คนที่ผิดกว่าคือตำรวจ สำหรับเคสนี้ตนจะพาไปพบบิ๊กโจ๊ก และพบกับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ที่ท่านได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่
ด้าน ปรักมาศ พิมเสน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบและมาตรฐานการคุ้มครองพยาน สำนักงานคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ความเห็นว่า สำหรับเคสนี้ตัวนายตั้ม ได้ไปยื่นขอคุ้มครองพยานที่หน่วยงานแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ทางหน่วยงานจะทำการประเมินความไม่ปลอดภัยว่าเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามในระหว่างที่รอผลการพิจารณาจะมีการประสานให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ดูแลไปก่อน และถ้าหากผ่านการประเมิน เราจะจัดสถานที่ปลอดภัย แล้วเจ้าหน้าที่คอยคุ้มครอง ทั้งตัวเขาเองและครอบครัว
ขณะที่ นายตำรวจเอ ตำรวจที่ถูกอ้างว่ารีดเงิน กล่าวว่า ตนเป็นคนกลางที่กลุ่มฝั่งตำรวจ ให้ไปเคลียร์กับนายตั้ม ไม่ให้เอาเรื่องพวกเขา ซึ่งตนไม่ได้ยุ่งกับเรื่องค่าใช้จ่ายใด ๆ แค่มาคุยสัญญาใจให้เขาได้คุยกัน เรื่องเสนอผลประโยชน์อะไรตนไม่รู้เรื่องทั้งนี้ตนไม่ได้อยู่กับทีมจับกุมชุดนี้ ส่วนเรื่องที่ทีมนี้รับส่วยหรือไม่ ตนไม่ขอตอบ ถ้าตนตอบว่าไม่มีสังคมคงบอกว่าตนโกหก ให้สังคมเป็นคนตัดสินเองดีกว่า
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ตำรวจทุกวันนี้ต้องปรับตัว สังคมมีการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันอาจจะมีแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่ได้เป็นเรื่องขึ้นมา แต่ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว ผู้บังคับบัญชาจะต้องลงไปดูแลตัวนายตั้ม เรื่องความปลอดภัย ขณะที่ ฝั่งตำรวจเจ้าของเรื่อง จะต้องมีการเรียกมาสอบปากคำ ถ้าเป็นตามที่นายตั้มอ้างมา ยังไงก็ผิดอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้นตนได้นัดตัวผู้เสียหายมาพบตนวันที่ 6 ก.ย. 66
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35