เช้านี้ที่หมอชิต - เหตุการณ์ในสภาล่มเมื่อวานนี้ จะเรียกว่าถอนแค้นหรือสั่งสอนเพื่อไทยก็แล้วแต่คนจะมอง เมื่อก้าวไกลขอนับองค์ประชุม ปรากฏว่า สส.ฝั่งว่าที่รัฐบาลเหลือบางตา นับแล้วองค์ไม่ครบ จนทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องสั่งปิดการประชุมก่อนกำหนด ถือว่าเป็นเหตุสภาล่มครั้งแรกนับตั้งแต่หลังเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ที่มองว่า สภาล่มครั้งนี้จะเป็นการแก้แค้นของพรรคก้าวไกลหรือเปล่า เนื่องมาจากเมื่อวันพุธ ก้าวไกลเสนอญัตติขอให้เลื่อนวาระเกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเคยแถลงหลายครั้งว่าให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่ในการโหวตกลับไม่สนับสนุนให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยให้เหตุผลว่าให้ความสำคัญกับญัตติปัญหาปากท้อง ทำให้เมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกลย้อนเกร็ดทันทีที่ญัตติเรื่องการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำเข้าสู่การพิจารณา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอนายวันมูหะมัดนอร์ให้นับองค์ประชุม เพื่อยืนยันว่าสมาชิกในสภาเห็นความสำคัญในเรื่องนี้จริง เนื่องจากเห็นว่าขณะนั้นจำนวน สส.ในห้องประชุมน้อยมาก หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้ลุกขึ้นประท้วงกันไปมา
ต่อมา นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ให้มีการนับองค์ประชุม ผลคือมีผู้แสดงตัวเพียง 98 ราย ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ประกาศปิดประชุม
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลังสภาล่ม ทาง สส.พรรคร่วมรัฐบาล นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงทันที โดยได้กล่าวขออภัยพี่น้องประชาชน พร้อมกันนั้นยังให้เหตุผลที่สภาล่มว่าเกี่ยวข้องกับการที่พรรคก้าวไกลขอเลื่อนญัตติประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ คงเป็นเหตุให้ฝ่ายค้านอึดอัด ซึ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอนับองค์ประชุมก็ไม่ได้แสดงตนในที่ประชุมจนสภาล่ม ทั้งที่วันนี้ไม่ใช่ญัตติกฎหมาย แต่เป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชน จึงไม่ควรนำการเมืองมาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคราวนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล แล้วไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมได้ จึงทำให้โซเชียลขุดโพสต์เก่า ๆ สมัยเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านขึ้นมาทวนความทรงจำทันที เช่น ทวีตของ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สมัยที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา ระบุว่า การประชุมสภาเป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน แต่หน้าที่รักษาองค์ประชุม เป็นหน้าที่ของ สส.รัฐบาล ถ้า ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาไม่ได้ ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปครับ #สภาล่มกดดันประยุทธ์ยุบสภา
หรือทวีตเตอร์ทางการของพรรคเพื่อไทย ก็เคยมีความเห็นในเรื่องนี้ว่า น่าเสียดายที่พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับสภา กรณีสภาล่มก็ชัดเจนว่ารัฐบาลไม่รักษาหน้าที่การทำงานในสภา ทั้งที่องค์ประชุมเป็นหน้าที่รัฐบาล ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่พร้อมรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชน
ขณะเดียวกัน ทางพรรคก้าวไกลก็มีแถลงตอบโต้พรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากให้ความสำคัญจริงเราก็พร้อมรับฟัง แต่กลับไม่เห็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาเพียงพอจึงเสนอนับองค์ประชุม แบบนี้เป็นการโฆษณาหรือไม่ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจว่า ปากท้องสำคัญ แต่ความจริงแล้วสมาชิกเองที่ไม่ให้ความสำคัญ มีเพียงสมาชิกพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่มีจำนวนที่นั่งเกือบครบ
ตามด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่นั่งประชุม คือตัวสะท้อนความสำคัญกับญัตติ ไม่ใช่พูดแอ็กติงในสภาร้องห่มร้องไห้ ว่าเห็นความสำคัญแล้วไม่มาประชุม
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม