“อลาเวอร์ดี” พร้อมเกินร้อย หวังเปิดซิง พิชิตชัยแรกในรายการ ONE ลุมพินี

731 ครั้ง

31 ส.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ONE Lumpinee : “อลาเวอร์ดี” พร้อมเกินร้อย หวังเป

“อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” นักสู้สไตล์มวยไทยนอกตำราชาวรัสเซีย แสดงความมั่นใจ พร้อมเกินร้อยทุกด้านในไฟต์ที่จะพบกับ “อเลสซานโดร ซารา” นักมวยชาวอิตาลี ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 - 145 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 31 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 1 ก.ย.นี้

“อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135 - 145 ป.) และอดีตผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ต้องเผชิญความผิดหวังสองครั้งติดต่อกัน จากการพลาดท่าแพ้คะแนนเอกฉันท์ต่อ “มาฟลุด ตูปิเยฟ” ในไฟต์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 8 เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้เพิ่งอกหักจากการพ่าย “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” ในไฟต์ท้าชิงบัลลังก์ ในศึก ONE ลุมพินี นัดปฐมฤกษ์ เมื่อช่วงต้นปี

“อลาเวอร์ดี” กล้าที่จะยอมรับตามตรงว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตนต้องพ่ายต่อ “มาฟลุด” อย่างพลิกความคาดหมายนั้น เป็นเพราะตนเลือกที่จะฝืนขึ้นสังเวียนด้วยสภาพร่างกายเพียงแค่ 60% เท่านั้น โดยยังมีอาการบาดเจ็บจากไฟต์ที่ผ่านมากับ “น้องโอ๋” หลงเหลืออยู่

“ไฟต์ที่แล้ว ผมขึ้นสู้ด้วยสภาพร่างกายแค่ 60% เท่านั้น ผมได้รับอาการบาดเจ็บจากไฟต์ที่ชกกับ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” ผมเข้ารับการรักษามาโดยตลอด จนคิดว่าผมรักษาจนหายดีแล้ว แต่สุดท้ายมันกลับไม่หายดี และผมเลือกที่จะฝืนขึ้นสังเวียนพร้อมกับอาการบาดเจ็บ นั่นคือข้อผิดพลาดของผมจากไฟต์ที่แล้ว”

สำหรับการพบกับคู่ชกที่มาพร้อมกับประสบการณ์มวยไทยที่เหนือกว่าอย่าง “อเลสซานโดร ซารา” แต่ถึงอย่างนั้น “อลาเวอร์ดี” ก็ยืนยันว่าสภาพร่างกายและจิตใจของเขากลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง หลังได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจนหายขาดแล้ว พร้อมประกาศลั่น ขอแสดงฟอร์มที่แท้จริงออกมาให้ทุกคนได้เห็น หวังประเดิมเก็บชัยชนะแรกในรายการ ONE ลุมพินี มาครองให้ได้

“หลังจบไฟต์ที่แล้ว ผมเดินทางกลับไปบ้านเกิดที่รัสเซีย และผมกลับมาเข้าแคมป์เก็บตัวซ้อมอย่างหนักเป็นเวลา 3 เดือน ผมซ้อมทุกอย่างเกี่ยวกับมวยไทย ตอนนี้ผมหายขาดจากอาการบาดเจ็บแล้ว ความพร้อมของผมทั้งในด้านความมั่นใจ และสภาพร่างกายตอนนี้ 100%”

“อเลสซานโดร เป็นเป็นนักสู้สไตล์มวยไทยขนานแท้ ผมชอบสู้กับนักมวยไทยจ๋า ๆ แบบนี้เสมอ เขามีทักษะการป้องกันที่ดีนะ แต่การป้องกันหมัดแบบมวยสากล เขายังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ และการกลับมาในไฟต์นี้ ผมต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของผม ผมจะเอาชนะไฟต์นี้ด้วยฟอร์มสวย ๆ ให้ได้ แล้วผมจะกลับไปพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านต่อไป”

แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) และทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.