logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

บุกโรงพักชี้โต๊ะ ! พนักงานสอบสวน มือรีดเงินค่าทำคดีสามีถูกรถชน 5 แสน | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวานนี้ รายการถกไม่เถียงนำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามีถูกรถชนเสียชีวิต ซึ่งเธอต้ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

379 ครั้ง
|
30 ส.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวานนี้ รายการถกไม่เถียงนำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามีถูกรถชนเสียชีวิต ซึ่งเธอต้องได้เงินประกัน 1 ล้านบาท แต่ถูกพนักงานสอบสวนเรียกเงินค่าทำคดี 500,000 บาท จึงไปให้ทนายช่วย สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายตำรวจ และค่าทนายด้วยรวม 300,000 บาท จึงมาร้องถกไม่เถียงให้ช่วยเหลือ
 
วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวข่าวเย็นประเด็นร้อน เดินทางไปพบนางอารยา อายุ 50 ปี ที่อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา หญิงผู้เสียหายคนดังกล่าว ซึ่งเธอพาผู้สื่อข่าวไปที่สถานีตำรวจภูธรขามทะเลสอ และไปชี้โต๊ะทำงานของพนักงานสอบสวนคนที่เรียกเงินค่าทำคดี 500,000 บาท ซึ่งตอนนี้ย้ายไปอยู่โรงพักอื่นแล้ว นางอารยา เล่าว่า สามีของเธอ ประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งจะต้องได้เงินประกัน พ.ร.บ. 500,000 บาท และประกันชั้น 1 ของคู่กรณีอีก 500,000 บาท รวม 1,000,000 บาท
 
ขณะดำเนินการเรื่องคดีที่ สภ.ขามทะเลสอ พนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท. เรียกเธอมาสอบปากคำ 3-4 รอบ พยายามเรียกค่าทำคดี 500,000 บาท หลายต่อหลายครั้ง เธอจึงไปปรึกษาทนายความคนหนึ่งให้มาช่วยเหลือ ซึ่งทนายขอค่าจ้าง 10 เปอร์เซ็นต์จากเงิน 1,000,000 บาท คือ 100,000 บาท และค่าน้ำมันรถอีก 5,000 บาท จากนั้นทนายก็ไปเจรจากับพนักงานสอบสวน มีการต่อรองลดราคากัน จนสุดท้ายจบที่ 200,000 บาท เป็นค่าทำคดี
 
สุดท้าย วันที่ 25 ตุลาคม 2565 นางอารยาได้รับเช็คค่าสินไหมจากธนาคาร พนักงานสอบสวนคนดังกล่าว ขับรถตามไปถึงธนาคารเพื่อเบิกเงินสด แต่ไปธนาคารแรก ขึ้นเช็คไว้ได้ แต่เบิกเงินเลยไม่ได้ต้องรอ 3 วัน พนักงานสอบสวนจึงแนะนำไปให้ธนาคารที่ออกเช็ค และโทรศัพท์ให้ตำรวจที่เป็นลูกน้อง 2 คน ไปจองบัตรคิวที่ธนาคารไว้ และให้ไปรอประกบนางอารยา เพราะกลัวจะไม่ได้เงิน ส่วนตัวเธอก็นั่งรถของพนักงานสอบสวนไปด้วยกัน เมื่อเบิกเงินได้ นางอารยา นำเงิน 200,000 บาทใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล ให้ตำรวจลูกน้องของพนักงานสอบสวน 200,000 บาท โดยให้จ่ายเป็นเงินสด ไม่ยอมให้โอนเข้าบัญชี และจ่ายเงินสดให้ทนายอีก 100,000 บาท รวมเป็น 300,000 บาท เธอบอกว่า พยายามยกมือไหว้วิงวอนขอความเห็นใจจากตำรวจ ว่า อย่าเอาเงินก้อนนี้ไปเลย ขอให้ตนเองเอาเงินก้อนนี้ไปรักษาอาการป่วยเรื้อรัง และดูแลลูกอีก 2 คน เพราะต้องสูญเสียสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว แต่สุดท้ายตำรวจไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องได้เงิน จึงต้องยอมให้เงินไป
 
เบื้องหลังข่าวกับกายสวิตต์ติดต่อไปยังทนายความของนางอารยา คือ นายอภิสิทธิ์ ไชยโรจน์, นายอภิสิทธิ์ บอกว่า ตอนนั้นตนเองมีสำนักงานที่จังหวัดหนองคาย ส่วนผู้เสียหายเป็นคนจังหวัดหนองคาย แต่ไปอยู่ที่นครราชสีมา จึงติดต่อมาให้เจรจากับตำรวจ ซึ่งตอนติดต่อมา ได้บอกกับผู้เสียหายว่า พนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิ์มาเรียกเก็บเงินแบบนี้ได้ แต่ผู้เสียหายอยากให้เจรจาต่อรองเพื่อไม่จ่าย หรือถ้าต้องจ่ายก็ขอจ่ายให้น้อยที่สุด ส่วนค่าทนายได้เรียกค่าเดินทาง 5,000 บาท และเรียกค่าดำเนินการ 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงิน 1,000,000 บาท คือ 100,000 บาท
 
ทนายอภิสิทธิ์ บอกว่า จากนั้นจึงไปเจรจาต่อรองกับตำรวจ โดยผู้เสียหายรออยู่ตรงศาลาในโรงพัก ตำรวจลดให้เหลือ 200,000 บาท จึงมาบอกกับผู้เสียหายว่าตกลงไหม ซึ่งผู้เสียหายก็ยินยอม เพราะอยากได้เงินส่วนนี้เร็วด้วย ไม่อย่างนั้นคดีอาจยืดยาวออกไป จากนั้นจึงไปตกลงกันกับตำรวจที่โรงพัก และนัดไปเบิกเงินที่ธนาคาร โดยยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกับพนักงานสอบสวนคนนี้มาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงพักตั้งอยู่ตรงไหนของอำเภอ การไปเจรจา ก็เพื่อต่อรองให้ผู้เสียหายจ่ายน้อยที่สุด ส่วนค่าดำเนินการของตนเอง เป็นเรื่องของปกติของทนายความ ส่วนวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคาร ตนก็ไปด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของลูกความ และนั่งรถคันเดียวกันของพนักงานสอบสวนคนนั้นไป
 
เบื้องหลังข่าวกับกายสวิตต์ โทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของพนักงานสอบสวนคนที่ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงิน ครั้งแรกที่โทรไปไม่มีใครรับสาย แต่ว่ามีเบอร์โทรศัพท์หมายเลขอื่นโทรกลับมาถามผู้สื่อข่าวทำนองว่า นี่ใช่เบอร์ลาซาด้าที่จะมาส่งของหรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปว่า ใช่สารวัตรคนดังกล่าวหรือไม่ ปลายสายก็ตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่ พร้อมกับวางสายไป ผู้สื่อข่าวทิ้งระยะประมาณชั่วโมงกว่า จึงโทรกลับไปใหม่อีก 2 ครั้ง แต่ก็ถูกตัดสายทิ้งไปทั้ง 2 ครั้ง
 
ขณะที่ พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา บอกว่า เรื่องดังกล่าว กองบังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา มีคำสั่งมอบหมายให้รองผู้การ ที่ดูแลพื้นที่ขามทะเลสอ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 5 วัน ตอนนี้รู้ชื่อพนักงานสอบสวนนายดังกล่าวแล้ว และถ้าทำผิดจริงไม่มีละเว้น ดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 157 ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง