เจ้าของรถร้อง ออกป้ายแดงปีกว่า โชว์รูมตุกติก บ่ให้ป้ายขาว ที่แท้ เอาไปจำนำ !

เจ้าของรถร้อง สายไหมต้องรอด หลังออกรถป้ายแดง ขับมาปีกว่ายังไม่ได้ป้ายทะเบียนขาว โชว์รูมตุกติก ทวงถามก็บ่ายเบี่ยง สุดท้ายเผย เอาเล่มทะเบียนไปจำนำหลายสิบคัน พร้อมเป็นหนี้ 40 ล้าน !

 

 

            วันที่ 30 ส.ค. 66 ณัฐ ฟองอ่อน (โฟร์) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้รับรถยนต์ตั้งแต่ 15 พ.ค. 65 โดยวางเงินดาวน์ 53,000 บาท ส่วนราตาเต็มของรถอยู่ที่ 699,000 บาท จากนั้นทางโชว์รูมบอกว่าจะจดทะเบียนป้ายขาวให้ภายใน 2 เดือน แต่เมื่อครบกำหนดก็ยังไม่ได้ ผ่านไปครึ่งปีก็ยังไม่ได้ อ้างว่าเอกสารยังไม่ครบ จนผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทะเบียนป้ายขาว ตอนนี้ยังขับป้ายแดงอยู่ ทั้งเซล์ ทั้งโชว์รูม ทั้งไฟแนนซ์ ติดต่อใครไปเขาจะบ่ายเบี่ยงกลับมาตลอด  

 

 

            ทว่าช่วงเดือน มี.ค. 66 ผู้บริหารของโชว์รูมโทรมาบอกกับตนว่า โชว์รูมมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่มีเงินไปจดทะเบียนป้ายขาวให้กับรถที่ออกจากโชว์รูมไปประมาณ 17-18 คัน ทั้งนี้การขับรถป้ายแดงมานานทำให้ตนเสียหาย เพราะถูกตำรวจเตือนหลายครั้งเนื่องจากขับรถป้ายแดงเกินเวลา อีกทั้งตนยังต้องจ่ายค่างวดอยู่งวดละ 9,988 บาท แถมยังต้องเสียดอกเบี้ยให้ไฟแนนซ์ด้วย ตนอยากให้มีคนมารับผิดชอบ 

 

 

            ด้าน วิชาญ หมุดสมาน (เอก) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนออกรถเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 65 วางเงินดาวน์ไป 100,000 บาท ทว่าจนตอนนี้ผ่านไปปีกว่าตนก็ยังไม่ได้ป้ายทะเบียนขาวเช่นกัน เมื่อต้นเดือน ส.ค. 66 ตนจึงได้เข้าไปที่โชว์รูม เพื่อทวงถาม แต่เขากลับบอกว่าเขาเป็นหนี้ 40 ล้านบาท ส่วนเล่มทะเบียนของผู้เสียหายรายต่าง ๆ รวมทั้งของตนเองด้วย เขาเอาไปจำนำกับธนาคารใหญ่เจ้าหนึ่ง และยังบอีกว่ากำลังหาทางออกให้อยู่ ให้ตนรอต่อไปอีกเช่นเคย เมื่อทราบแบบนั้นตนจึงได้ร้องเรียนไปทางเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ 

 

 

            สำหรับความเสียหาย ตั้งแต่ออกรถมาจนถึงปัจจุบัน ตนโดนปรับไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 500 บาท เพราะขับรถป้ายแดงออกจากพื้นที่ ไม่มีทะเบียนป้ายขาว อีกทั้งยังต้องส่งค่างวดอีกงวดละ 10,475 บาท ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีคนมารับผิดชอบ โดยการระงับค่างวดไปเลยจนกว่าตนจะได้รับป้ายทะเบียนขาว

 

 

            ฟาก อนุพงษ์ เจริญเวช นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ปัญหามันอยู่ที่ตัวแทนจัดจำหน่ายหรือดีลเลอร์ โดยพวกนี้จะไม่ได้มีเงินมากนัก เวลาจะหาสินค้ามาจำหน่าย เขาก็ต้องหาเงินไปให้เจ้าของแบรนด์รถต่าง ๆ เพื่อเอา รถแบรนด์นั้น ๆ เอาเอกสาร ชุดโอน มาจัดจำหน่ายต่อให้ผู้บริโภค ซึ่งในบางครั้งดีลเลอร์เหล่านี้จะไปกู้เงินมา โดยเอาเอกสารชุดซื้อขายรถแต่ละคันไปค้ำประกันเงินกู้ไว้ โดยเมื่อมีผู้บริโภคจ่ายเงินมา เขาก็มีหน้าที่เข้าไปเคลียร์หนี้ แต่ทีนี้เราไม่ทราบว่าในเคสนี้เขาจ่ายหนี้หรือไม่ หรือบางที นายทุนของเขาอาจจะให้เคลียร์ยอดเต็มเลย 40 ล้านบาท ทำให้มีปัญหาไม่สามารถเอาเอกสารออกมาได้ 

 

            ขณะเดียวกันในตอนนี้ ผู้เสียหาย ได้รับความเสียหาย เพราะยังต้องจ่ายค่างวดต่อไฟแนนซ์อยู่ อีกทั้งยังต้องเผื่อเงินไว้จ่ายค่าปรับต่อตำรวจด้วย เพราะมีโอกาสโดนเรียกปรับอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากใช้รถป้ายแดง สำหรับการรับผิดชอบต่อผู้เสียหายนั้น คือ ไฟแนนซ์ เพราะ ผู้บริโภคไปกู้เงินจากไฟแนนซ์มาซื้อรถ แต่ผู้บริโภคต้องจ่ายทั้งเงินต้น ทั้งดอกเบี้ยให้เขาด้วย ดังนั้นเขาจะปฏิเสธการรับผิดชอบโดยอ้างว่าดีลเลอร์ไม่ส่งเอกสารให้ไม่ได้ ส่วนเรื่องที่มีการจดเบียนซ้ำแล้วนำไปจำนำกับสถาบันการเงินนั้น ตนมองว่า ในทางการค้า ไฟแนนซ์กับดีลเลอร์ เขาค้าขายกันมานานเขาไว้ใจกัน ซึ่งดีลเลอร์อาจจะให้เป็นสำเนาเล่มจดทะเบียนแก่ไฟแนนซ์ ส่วนเล่มตัวจริงก็นำไปจำนำ ทว่าจริง ๆ แล้ว ไฟแนนซ์ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ ในเมื่อไม่ได้เอกสารตัวจริง เขาควรต้องเร่งรีบในการติดตามเอาเอกสารตัวจริงคืน 

 

            อย่างไรก็ตาม ทาง สคบ. ประจำจังหวัดนครราชสีมา จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งไฟแนนซ์ นายทุน ดีลเลอร์ เจ้าของแบรนด์ หาทางออกว่าพวกเขาจะช่วยผู้บริโภคได้อย่างไร เนื่องจาก มันไม่ได้มีแค่การตามเอกสาร ต้องดูแลเรื่องค่าเสียหายที่ผู้บริโภคขาดประโยชน์จากการใช้งานตามสัญญา ส่วนในผู้บริโภคที่ซื้อเงินสด เราก็ไล่เอาจากทางดีลเลอร์ ทั้งนี้ ตนแนะนำให้ผู้เสียหายเก็บเอกสารที่โดนค่าปรับเหล่านี้ไว้เรียกค่าเสียหาย

 

 

            ขณะที่ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ควรให้ผู้บริโภคมารับผิดชอบด้วย ในการที่โชว์รูมเป็นหนี้กว่า 40 ล้าน แล้วจดทะเบียนป้ายขาวให้พวกเขาไม่ได้ เมื่อผู้เสียหายมาร้องเรียน ตนจึงได้ตรวจสอบ พบว่า น่าจะมีการจดทะเบียนซ้อน โดยทางหนึ่งคือการจัดไฟแนนซ์ขายให้ผู้บริโภคตามปกติ ส่วนอีกทางคือการนำใบจัดจำหน่ายไปจำนำกับธนาคารแห่งหนึ่ง ทำให้เขาได้เงิน 2 ทาง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าทำใบจัดจำหน่ายขึ้นมา 2 ฉบับ ขณะเดียวกัน ตนก็ไม่แน่ใจว่าทางธนาคารมีการตรวจสอบหรือไม่ ตนจึงอยากฝากทาง สคบ. ลงมาตรวจสอบว่ามีขบวนการแบบนี้หรือไม่ 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/7-NcFR7QNow?si=7aNOWvrGzhTFBOIK