จากเส้นทางนักมวยไทย “แสตมป์” ฝึกแบบไหนถึงแกร่งได้ในสาย MMA

941 ครั้ง

24 ส.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ONE : จากเส้นทางนักมวยไทย “แสตมป์” ฝึกแบบไหนถึงแ

ย้อนเส้นทางสุดท้าทายของ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งและมวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง (105-115 ป.) ที่อาศัยพื้นฐานจากมวยไทยข้ามสายมาเอาดีในกติกาต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) จนสามารถก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง

เป็นที่รู้กันดีว่า “แสตมป์” เกิดมาจากมวยไทยและไม่เคยมีความรู้ด้านกีฬา MMA มาก่อนแม้แต่น้อย แต่เธอสามารถนำศาสตร์มวยไทยที่เธอมีมาปรับใช้ในการต่อสู้แบบผสมผสานจนกลายเป็นสไตล์การต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีพิษสงรอบด้านทั้งเกมยืนและเกมนอน จนปัจจุบัน “แสตมป์” ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาหญิง MMA แถวหน้าระดับโลก

วันนี้เราอาสาพาไปดูว่า “แสตมป์” ต้องฝึกหนักเพียงใดในการยกระดับฝีมือขึ้นมาเป็นนักสู้หญิงแถวหน้าแม้จะฝึกวิชาแขนงนี้มาไม่นานหากเทียบกับนักสู้คนอื่นของรุ่น

ในช่วงเริ่มแรกสาวน้อยจากระยองวัย 25 ปี มีความรู้ด้านการต่อสู้ MMA เป็นศูนย์ เธอจึงต้องนับหนึ่งตั้งแต่การเรียนรู้และทำความเข้าใจแต่ละท่าของศาสตร์มวยปล้ำและบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) ก่อน ซึ่งเธอได้โค้ชมืออาชีพเข้ามาดูแลด้านการฝึกซ้อม โดย “แสตมป์” ใช้เวลา 2 ปี ในการฝึก MMA อย่างจริงจังจนกระทั่งมีศักยภาพมากพอที่จะลงแข่งขันได้

โดยโปรแกรมที่ “แสตมป์” ต้องฝึกทั้งศาสตร์ MMA และ BJJ เป็นประจำวันทุกวัน แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงเช้าจะเป็นการฝึก MMA และในช่วงเย็นถึงค่ำจะเป็นคลาส BJJ

และหลังจากที่ฝึกฝนด้วยความอดทนและความเพียรพยายามในค่ายต้นสังกัดอย่างแฟร์เท็กซ์ จนสามารถพัฒนาทักษะ BJJ จากศูนย์จนได้เข็มขัดสีม่วงซึ่งเป็นขั้นที่ 3 จากทั้งหมด 5 ลำดับขั้นของ BJJ (ขาว, น้ำเงิน, ม่วง, น้ำตาล, ดำ)

ได้ชื่อว่าการต่อสู้แบบผสมผสาน แน่นอนว่าทักษะเกมยืนก็สำคัญไม่แพ้กันและ "แสตมป์" เองก็โตมากับมวยไทย เธอจึงหมั่นลับคมอาวุธมวยไทยเป็นประจำทุกวันเช่นกัน

"แสตมป์" มีโปรแกรมการซ้อมมวยไทยในช่วงบ่ายเป็นประจำทุกวัน โดยจะมีการฝึกการออกอาวุธมวยไทยรวมทั้งการซ้อมล่อเป้าเพื่อเสริมทักษะการชกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งไปในตัว

ทักษะต่าง ๆ จำเป็นต้องควบคู่กับร่างกายที่แข็งแรงซึ่งเป็นพื้นฐานของนักกีฬาทุกคน โดย “แสตมป์” จะต้องออกมาวิ่งออกกำลังกายร่วมกับเพื่อนนักกีฬาร่วมค่ายเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้าตรู่

และอีกหนึ่งการฝึกซ้อมที่ขาดไม่ได้ คือการออกกำลังเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือเรียกอีกอย่างว่า เวทเทรนนิง ซึ่ง “แสตมป์” จะทำเป็นประจำในช่วงเช้าของวันพุธ และวันเสาร์ โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ วันพุธ เล่นเวต ยกน้ำหนัก เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อทุกส่วน และวันเสาร์ จะเน้นบริหารร่างกายโดยรวม ทั้งแขน-ขา และการกระโดด

ทั้งหมดนี้คือโปรแกรมการฝึกของสาวแกร่งทำเป็นประจำในทุก ๆ สัปดาห์ และเมื่อเข้าใกล้ช่วงที่มีกำหนดการแข่งขัน การฝึกซ้อมทั้งหมดนี้ก็จะเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเป็นสองเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเพื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งสายแข็ง "ฮาม ซอ ฮี" นักสู้ซูเปอร์สตาร์จากเกาหลีใต้ ในไฟต์ชิงแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวตหญิง เฉพาะกาล ที่จะมีขึ้นในศึก ONE Fight Night 14 โดยจะถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 30 ก.ย.66

แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง TICKETMASTER และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh

แชร์ข่าวไปที่

แสตมป์ แฟร์เท็กซ์

ONE Fight Night 14

ONE Champioship thailand

วัน แชมเปียนชิพ

MMA