“ทรงชัยน้อย” อดีตคู่ปรับเก่า “เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” ในวัยเด็ก ขอสานต่อความสำเร็จจากสองไฟต์ที่ผ่านมา ด้วยการเดินหน้าปิดบัญชี “โชคดี แม็กจันดี” ที่จะขอกลับมากู้ชื่อในศึก ONE ลุมพินี อีกครั้ง
“ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์” จอมบุกตะลุย วัย 22 ปี จากสมุทรปราการ มีคิวตามล่าชัยไฟต์ที่สาม โดยครั้งนี้ต้องโคจรมาพบกับมวยรุ่นพี่อย่าง “โชคดี แม็กจันดี” ยอดฝีมือ วัย 25 ในกติกามวยไทย รุ่นแคตช์เวต พิกัด 116 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 30 ถ่ายทอดสดจากเวทีลุมพินี (รามอินทรา) คืนวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้
สำหรับ “ทรงชัยน้อย” ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเมืองหน้าด่านชายทะเล เกิดเมื่อ 27 ส.ค.43 โดยจุดเริ่มต้นในการชกมวยเกิดจากที่ตามผู้เป็นพ่อไปดูมวย หลังจากนั้นก็รู้สึกชอบจนพ่อพาไปฝากฝังที่ค่ายมวยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นเจ้าตัววัยเพียง 9 ขวบ และด้วยความที่เป็นมวยที่มีสรีระค่อนข้างเล็ก พกความสูงมา 156 ซม. เจ้าตัวจึงมักสวมจิตวิญญาณนักสู้ใช้สไตล์บู๊บ้าระห่ำเพื่อชดเชยช่วงชกที่เสียเปรียบคู่แข่งแทบทุกคน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่านี่อาจเป็นวิธีที่จะสามารถคว้าชัยได้
“ทุกครั้งที่ชกส่วนมากจะดูเรื่องสรีระคู่ชกก่อนเป็นอันดับแรกแล้วมาแก้ทางมวยครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมเป็นมวยเดินบู๊ใจเด็ด อาวุธครบเครื่องโดยเฉพาะเตะขา ต่อยหมัดครับ นี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้ผมคว้าชัยเหนือคู่ชกได้ครับ”
“ทรงชัยน้อย” เปิดตัวด้วยการเอาชนะคะแนน “ยอดดอย แก้วสัมฤทธิ์” ในศึก ONE ลุมพินี 2 เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะสานต่อความสำเร็จด้วยการกระโดดเข่าลอยน็อก “มังกร บูนเด็กเซียน” พร้อมกับคว้าโบนัสมูลค่า 3.5 แสนบาท ไปครองเป็นก้อนแรก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยอมรับว่ายังต้องปรับตัวยู่ตลอด โดยเฉพาะไฟต์แรกที่ความตื่นเต้นรบกวนสมาธิอยู่ไม่น้อย
“ตอนมาชกศึก ONE ลุมพินี ไฟต์แรกรู้สึกตื่นเต้นมากครับ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะปรับตัวยังไง เพราะเป็นการชกนวมเล็กด้วย และเป็นเวทีใหญ่ครั้งแรกในชีวิตด้วยครับ แต่พอมาไฟต์ที่สองก็เริ่มปรับตัวจนเอาชนะน็อกได้ครับ”
“วินาทีที่ได้โบนัสตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกมึน ๆ อยู่ครับ แต่ก็ดีใจมาก เงินก้อนนี้ส่วนหนึ่งก็จะเอาไปช่วยเหลือครอบครัวเพราะผมก็ถือว่าเป็นเสาหลักของบ้านคนหนึ่ง อีกส่วนก็จะแบ่งไว้เป็นทุนการศึกษาครับ”
“ทรงชัยน้อย” กำลังจะมีคิวจะขึ้นเวที ONE ลุมพินี เป็นไฟต์ที่สาม ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับ “โชคดี แม็กจันดี” ที่ถือว่าเป็นมวยชั้นเชิงดีอีกราย แต่ทว่าจอมดีเดือดตัวเล็กหัวใจใหญ่ก็เตรียมแผนเด็ดที่จะจัดการกับมวยรุ่นพี่รายนี้ไว้แล้ว นั่นก็คือการใช้ความเป็นมวยบู๊เข้าสู้ และหวังจะคว้าชัยแบบไม่ครบยกเป็นไฟต์ที่สองติดต่อกัน เพราะความฝันของเขาคือการได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬา ONE รายการใหญ่อย่างเต็มตัว
“คู่ชกของผม โชคดี มีอาวุธที่หนักและเร็ว ที่สำคัญพี่เขาเป็นมวยแรงดีขยันออกอาวุธ ไฟต์นี้ผมซ้อมมาเต็มที่กว่า 3 สัปดาห์ครับ ก็หวังว่าจะใช้ความฟิตและสไตล์เดินบู๊เข้าสู้ครับ และถ้ามีจังหวะที่พี่เขาพลาดโดนนับก็จะรีบปิดเกมทันทีครับ”
“ไฟต์นี้ก็จะพยายามชกให้ดีที่สุดครับ เพราะลึก ๆ ในใจก็หวังได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬาของ ONE มูลค่า 3.5 ล้านบาทเหมือนกันครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม