“อาลีฟ” ชีวิตอาชีพนักมวยอยู่ในช่วงพุ่งแรง หลังทำผลงานเด่นทั้ง 2 ไฟต์ในศึก ONE ลุมพินี ส่งผลให้ชื่อเสียงเริ่มติดตลาดได้ผลตอบรับดีทั้งที่ไทยและมาเลเซีย
“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” นักมวยจอมซ่าวัย 19 ปี ลูกครึ่งไทย-มาเลย์ แจ้งเกิดในศึก ONE ลุมพินี ด้วยฟอร์มร้อนแรง เก็บชัยแบบไม่ครบยก 2 ไฟต์ติด พร้อมคว้าโบนัสสองไฟต์ซ้อนรวมเป็นเงิน 7 แสนบาท ส่งผลให้ชีวิตพลิกผันดีขึ้นทันตา โดยได้โอกาสกลับมาบู๊ไฟต์ที่ 3 เจอกับ “ยางดำ สท.เหี่ยวบางแสน” ภายใต้กติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต 119 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 30 วันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้
“อาลีฟ” ผลงานร้อนแรงใน ONE ลุมพินี
สำหรับนักมวยลูกครึ่ง “อาลีฟ” เกิดที่มาเลเซีย มีคุณพ่อเป็นคนไทย ส่วนคุณแม่เป็นชาวมาเลเซีย ได้รับการถ่ายทอดวิชาหมัดมวยมาจากคุณพ่อ จนกระทั่งได้เริ่มชกมวยครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ก่อนได้มีโอกาสเดินทางข้ามประเทศขึ้นมาชกที่กรุงเทพฯ ทำให้เจ้าตัวเริ่มรู้สึกจริงจังกับอาชีพนักมวยมากขึ้น และได้โอกาสย้ายมาฝึกซ้อมที่ ค่าย ส.เดชะพันธ์
ในวัยเพียง 19 ปี “อาลีฟ” มีรางวัลการันตีฝีมือมากมาย โดยคว้าเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก รุ่น 54 กก. สองสมัยซ้อนในปี 2564 และ 2565, เหรียญทองมวยไทยสมัครเล่น รุ่น 54 กก.จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2564 รวมถึงเคยเป็นนักกีฬายอดเยี่ยมของมาเลเซียในปี 2565 ด้วย
ข่าวชัยชนะของ “อาลีฟ” ได้ลงสื่อที่มาเลเซีย
ผลงานล่าสุด “อาลีฟ” ใช้เวลาเพียง 50 วินาทีของยกแรกปิดเกมไว “ราชเดช ส.เพชรจำรัส” ในศึก ONE ลุมพินี 24 พร้อมรับโบนัส 3.5 แสนบาท ไปนอนกอดเป็นครั้งที่สอง ทำให้ชื่อเสียงของนักชกหนุ่มเชื้อสายไทย-มาเลย์รายนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างจนมีแฟนคลับทั้งชาวไทยและมาเลเซียแห่ติดตามมากขึ้น โดยเจ้าตัวเปิดใจถึงผลงานที่ผ่านมาว่า
“ผมรู้สึกดีใจมากครับที่เก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 ไฟต์ ถ้าให้คะแนนตัวเองได้ผมให้เต็ม 10 เลยครับ นอกจากนั้นยังทำให้มีแฟนมวยรู้จักผมมากขึ้นทั้งที่ไทยและมาเลเซีย ส่วนยอดผู้ติดตามทางโลกออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ ข่าวชนะไฟต์ล่าสุดของผมได้ลงหนังสือพิมพ์ที่มาเลเซียด้วย ซึ่งแฟนมวยที่นั่นติดตามการแข่งขันของ ONE เยอะมากครับ”
เมื่อได้โอกาสโชว์ผลงานในศึก ONE ลุมพินี อย่างต่อเนื่อง “อาลีฟ” จึงเริ่มวางเป้าหมายใหญ่ขึ้น โดยหากผ่าน “ยางดำ” ในไฟต์นี้ได้ ก็อยากมีโอกาสได้สัญญาไปลุย ONE รายการใหญ่ พร้อมล็อกเป้าขอเจอ “ทองพูน พีเค.แสนชัยฯ” สักครั้ง ก่อนบินสูงไปถึงการหยิบเข็มขัดแชมป์โลกมาพาดบ่าเป็นเป้าหมายสูงสุด
“ไฟต์ต่อไปได้เจอกับ ยางดำ ก็ดีใจครับ เพราะพี่เขาเป็นนักชกที่แข็งแรงและมีชื่อชั้นที่ดีกว่าผมด้วย ซึ่งผมยังหวังอยากเอาชนะน็อกคู่ชกได้อีกครั้งครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับจังหวะเกม ผมจะไม่ประมาทครับ”
“ส่วนเป้าหมายต่อไปของผมคืออยากได้ไปชกใน วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งถ้ามีโอกาสก็อยากเจอ พี่ทองพูน ครับ เพราะพี่เขาเป็นมวยที่เก่งและมีสไตล์ที่ชัดเจน ก่อนต่อยอดก้าวขึ้นไปคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มาครองให้ได้ครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม