“หยู เหยา ปุย” พอใจโชว์ฟอร์มดีที่สุดในชีวิต จากผลงานไล่ถลุงเอาชนะ “เซเลสต์ ฮันเซน” ในไฟต์ล่าสุด โดยเจ้าตัวยืนยันชัดเจน ขอพุ่งชนเป้าหมายใหญ่คือการคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองให้ได้
“หยู เหยา ปุย” สาวนักบู๊จากฮ่องกง ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติเก็บชัยชนะเป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังติดเครื่องตั้งแต่ยกแรก ไล่ออกอาวุธอัดนักกีฬา ONE ป้ายแดงอย่าง “เซเลสต์ ฮันเซน” สาวขาลุยจากแดนจิงโจ้ตลอดทั้ง 3 ยก จนเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE ลุมพินี 29 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยการชกของ “หยู เหยา ปุย” ในไฟต์นี้ เธอได้ปรับสไตล์การออกอาวุธแตกต่างจากไฟต์ที่ผ่าน ๆ มาอย่างชัดเจน โดยเน้นไปที่การเตะ ศอก และเข่า มากขึ้น ซึ่งเธอได้เปิดเผยหลังจบเกมว่าสาเหตุที่ต้องปรับสไตล์เป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากโค้ช พร้อมกับชื่นชม “เซเลสต์” ว่าเป็นคู่ต่อสู้เคี้ยวยากที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ามา
“โค้ชของฉัน บอกว่าฉันใช้แต่หมัดมากเกินไปในไฟต์ที่แล้ว พวกเขาจึงอยากให้ฉันใช้อาวุธอื่น ๆ ให้มากขึ้น ซึ่งนั่นจึงทำให้ทุกคนเห็นการใช้อาวุธมวยไทยที่หลากหลายกว่าเดิม ทั้งการเตะ ศอก และเข่ามากขึ้น เมื่อต้องเล่นเกมวงใน”
“นี่คือไฟต์ที่ยากที่สุดเท่าที่ฉันเคยชกมาเลยค่ะ เพราะ เซเลสต์ เป็นนักมวยที่ไม่ยอมถอยง่าย ๆ เธอออกหมัดอยู่ตลอด และฉันก็โดนเธอเล่นงานไปเยอะมาก แถมฉันก็ยังคงมีอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมหลงเหลืออยู่ แต่ฉันก็พยายามกัดฟันทน จนเอาชนะเธอไปได้ นี่คือผลตอบแทนจากการทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักของฉันค่ะ”
ส่วนเป้าหมายในไฟต์ต่อไป “หยู เหยา ปุย” ไม่ขอระบุว่าอยากจะขึ้นสังเวียนแลกเดือดกับใครคนไหนเป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะตนพร้อมปะทะกับคู่แข่งที่อยู่ตรงหน้าเสมอ โดยมีเป้าหมายเดียวที่ต้องการคือ การคว้าสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 3.5 ล้านบาท มาครอง
“แน่นอนว่าฉันพอใจกับฟอร์มในไฟต์นี้ แต่นี่ยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของฉัน ฉันยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ แต่โดยรวมแล้วถือว่านี่คือไฟต์ที่ฉันพอใจกับฟอร์มการชกมากที่สุด ตั้งแต่ขึ้นสังเวียนมาแล้วค่ะ ส่วนไฟต์ต่อไป ฉันตอบไม่ได้ว่าอยากจะเจอใคร ฉันรู้แค่ว่าเป้าหมายสูงสุดคือการคว้าสัญญานักกีฬาสังกัด ONE มาครองให้ได้เท่านั้น เพราะนั่นจะทำให้ฉันได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในอาชีพนักมวยไทยค่ะ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 30 ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้ คู่เอกนำรายการ นักกีฬา ONE อย่าง “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ขอเปิดซิงในรายการ ONE ลุมพินี ครั้งแรก ปะทะกับมวยเก๋ามากประสบการณ์ “ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ขณะที่คู่เอกภาคอินเตอร์ “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย” พบกับ “ซิลวิอู วิเตซ” จอมบู๊จากโรมาเนีย ในกติกามวยไทย พิกัดแคตช์เวต (139 ป.)
+ อ่านเพิ่มเติม