พ่อแม่เด็ก วัย 8 เดือน ร้องสายไหมต้องรอด หลังยกทารกน้อย ให้ครูเลี้ยง ด้วยเหตุความยากจน แต่สุดท้ายเลี้ยงได้ 2 วัน เด็กเสียชีวิตปริศนา พบรอยช้ำตามตัว เงื่อนงำเพียบ ด้านแม่เด็ก ปัด ไม่ได้ขายลูกกิน !
วันที่ 24 ส.ค. 66 ออม แม่ของทารกที่เสียชีวิต เล่าว่า ตนมีปัญหาด้านการเงิน อีกทั้งยังมีลูกอีก 1 คน จึงตัดสินใจหาคนอุปการะลูกสาววัย 8 เดือน จึงไปโพสต์ตามกลุ่มเฟซบุ๊กหาคนอุปการะเด็ก กระทั่งมีหญิงสาวคนหนึ่งติดต่อมา อ้างว่าเป็นครูโรงเรียนเอกชน ติดต่อเข้ามา เมื่อได้คุยกัน จึงตกลงให้ลูกแก่เขา เนื่องจากเขาเสนอเงื่อนไขว่า ตนและสามีสามารถมาเยี่ยมเยียนลูกได้ตลอดเวลาตามที่ตกลงกัน ผิดจากข้อเสนอของคนอื่นที่ให้ตนตัดความสัมพันธ์กับลูกเลย นอกจากนี้ครูสาว ยังวาดฝัน อยากส่งเสียให้ลูกตนมีอนาคตที่ดี พร้อมอ้างว่ามีบ้านส่วนตัว มีพี่เลี้ยงเด็ก
หลังจากที่รับลูกของตนไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 66 ครูได้ติดต่อมาวันที่ 20 ส.ค. ถามว่า ทำไมน้องร้องเก่งจัง ตนจึงบอกว่าลูบหัว พูดดี ๆ ก็หยุดร้องแล้ว ก่อนที่วันที่ 21 ส.ค. ครูจะติดต่อกลับมาว่า น้องเสียชีวิตแล้วให้รีบมาดูด่วน เมื่อไปถึงพบว่า ตามร่างกายของน้องมีรอยฟกช้ำอยู่ทั่วร่างกาย ซึ่งก่อนที่จะให้ลูกกับเขาไป ลูกตนไม่มีบาดแผลใด ๆ นอกจากนี้ครูสาว บอกกับว่า วันที่เกิดเหตุ เขาออกไปข้างนอกกับลูกของเขา ตอน 16.00 น. กลับมาประมาณ 18.00 น. แต่อีกวันหนึ่งเขากลับบอกว่าทิ้งลูกของเขาทั้ง 2 คน รวมทั้งลูกตนไว้ที่บ้าน และยังบอกกับตนอีกด้วยว่า วันนี้หยุดงาน เลี้ยงลูกอยู่บ้านทั้งวันเนื่องจากพี่เลี้ยงเด็กไม่ว่าง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนไม่ได้ขายลูกกิน ทางครูเป็นคนเสนอจะใช้หนี้ 30,000 บาท ให้ แต่ก็ยังไม่ได้เงินอะไร และที่ตนออกมาร้องเรียน ตนอยากให้การตายของลูกตนได้รับความเป็นธรรม
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า วันที่เด็กเสียชีวิตแม่เด็กถึงกับต้องแปลกใจ เพราะลูกไปอยู่กับครูสาวที่แฟลตย่านรังสิต ผิดกับที่เขาอ้างตอนแรกว่า มีบ้านเป็นบ้านจัดสรร ย่านดอนเมือง ซึ่งสภาพแฟลตก็เป็นห้องเก่า ๆ ไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงเด็กเลย ขณะเดีวกัน เขายังมีการรับเลี้ยงเด็กอยู่แล้ว 2คน ตนก็ไม่เข้าใจว่าจะไปเอาเด็กมาเพิ่มทำไม
ฟาก รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า ศพมีข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง คือ มีรอยสีคล้ำบริเวณหน้าแขนและหน้าขาปะปนกัน โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากการตกลงสู่เบื้องต่ำของเม็ดโลหิตหลังตาย ซึ่งจากตอนพบศพ ศพนอนหงายหน้าอยู่ ควรจะมีรอยคล้ำอยู่ช่วงหลัง ซึ่งตำแหน่งพวกนี้แสดงให้เห็นว่าศพไม่น่าจะเสียชีวิตในท่านี้ ที่สำคัญอีกอย่างคือ บริเวณขอบจมูกมีความขาวขึ้น ซึ่งมันเป็นลักษณะของการกดทับ อย่างไรก็ตามบาดแผลเหล่านี้ อาจจะไม่ได้สื่อถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่จะสื่อถึงพฤติการณ์อะไรบางอย่าง ซึ่งส่วนตัวตนมองว่ามีความผิดปกติ และเชื่อว่ามีการเคลื่อนย้ายศพก่อนตำรวจจะไปพบ
ทางด้าน พ.ต.ท. เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต เผยว่า กรณีนี้ ผู้ต้องหาเป็นคนแจ้งเหตุการตายให้ตำรวจทราบเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 18.00 น. เบื้องต้นหมอมาตรวจที่เกิดเหตุประมาณช่วง 20.00 น. แจ้งว่า ศพน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง มีการพบรอยช้ำรอยถลอกตามตัว แต่ไม่ใช่บาดแผลของการเสียชีวิต
ขณะที่ คำให้การของผู้ต้องหา เขาบอกว่า เขาไปสอนหนังสือตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 21 ส.ค. 66 เวลา 06.00 น. กลับมาถึงบ้านประมาณ 18.00 น. ได้มีการตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องจริง มีการตอกบัตรเข้างาน และจากกล้องบริเวณแฟลต เห็นเขากลับบ้านมาเวลาดังกล่าวจริง ซึ่งตอนนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วตามหลักฐานที่มี โดยแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทปล่อยปละละเลยเด็กจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนประเด็นการค้ามนุษย์ ตรวจสอบไปยังเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติ และลูก ๆ อีก 2 คนของผู้ต้องหา ได้ติดต่อให้ กระทรวงพัฒนาสังคม นำเด็กไปดูแลแล้ว ทั้งนี้เท่าที่ตนเห็นผู้ต้องหามีความเอ็นดูเด็กจริง ๆ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35