ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังเสร็จขั้นตอนที่สนามบินดอนเมืองแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายทักษิณ ขึ้นรถ แล้วนำตัวไปที่ศาลฎีกาสนามหลวง เพื่อฟังคำพิพากษาใน 3 คดี ที่ศาลได้เคยพิพากษาแล้ว
คุมตัว ทักษิณ ไปศาลฎีกาฯ สนามหลวง
เจ้าหน้าที่คุมตัว นายทักษิณ ขึ้นรถ แล้วขบวนรถนายทักษิณ ขึ้นทางด่วนโทลเวย์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำเรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สนามหลวง และไปถึงที่ศาลฎีกาในเวลาประมาณ 10.20 น. โดยมีประชาชนและคนเสื้อแดง ไปปักหลักรอบรับอยู่ด้านหน้าศาล พร้อมกับตะโกนต้อนรับนายทักษิณ
จากนั้น นำตัวเข้าสู่ห้องพิจารณาคดี ซึ่งอนุญาตให้เพียงฝ่ายโจทก์ คืออัยการ และญาติของนายทักษิณ เข้าไปเพียงเท่านั้น โดยนำตัวเข้าไปทางประตูฝั่งสนามหลวง ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟัง เนื่องจากมาตรการการรักษาความปลอดภัย เพราะวันนี้ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกายังนัดอ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ คดีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกเป็นจำเลย ซึ่งศาลกำหนดพื้นที่ให้โจทก์และญาติของคดีก่อสร้างโรงพัก ใช้พื้นที่ประตูด้านหลังฝั่งคลองหลอด คนละฝั่งกับคดีของนายทักษิณ
ศาลฎีกาฯ สั่งนับโทษ 2 คดี จำคุก ทักษิณ รวม 8 ปี
สำหรับคดีที่นายทักษิณ ต้องรับโทษ 3 คดี
1. คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงค์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี
2. คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ไม่ได้ขอให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงค์
3. คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 5 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีที่ 1 คือเอ็กซิมแบ็งค์ และคดีที่ 2 คือหวยบนดิน
แต่เนื่องจากคดีที่ 2 หวยบนดิน ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีแรกเอ็กซิมแบงค์ จะส่งผลให้คดีแรกกับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกันจำคุก 3 ปี เมื่อรวมกับคดีสัมปทานเอื้อชินคอร์ปอีก 5 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 8 ปี
นำตัว ทักษิณ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ขบวนรถเจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวนายทักษิณ ออกจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำเรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สนามหลวง มุ่งหน้าไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปถึงเรือนจำในเวลาประมาณ 11.20 น. โดยนายทักษิณ นั่งอยู่ในรถตราโลห์ ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เมื่อขบวนรถเคลื่อนเข้าไปภายในบริเวณเรือนจำ กลุ่มคนเสื้อแดง ที่มารอรับนายทักษิณ แน่นอยู่หน้าเรือนจำ ได้ตะโกนโห่ร้องว่า เรารักนายกฯ ทักษิณ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการนำรั้วเหล็ก ขึงป้ายไวนิล พื้นที่ควบคุม บริเวณหน้าประตู
แยกขัง ทักษิณ พบเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิ สุชีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับมาตรการดูแลนายทักษิณว่า นายทักษิณ ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง อายุเกิน 60 ปี ดูจากประวัติการรักษา และผลการตรวจจากแพทย์ พบว่า มีโรคประจำตัว ต้องติดตามโดยแพทย์เฉพาะทางตลอด
เบื้องต้น แยกขังไว้ที่โซนพิเศษ แดนพยาบาล แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลในเรือนจำ โดยแยกคุมขังเพียงคนเดียว มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าตรวจสอบโรคของนายทักษิณพบว่า มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ตลอดเวลา มีประวัติปอดอักเสบรุนแรงเมื่อครั้งติดโควิด ทำให้เกิดพังผืดในปอด และปอดอักเสบเรื้อรัง
อีกทั้งยังมีเรื่องความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมตลอดเวลา และมีภาวะเสื่อมตามอายุ ทั้งในเรื่องกระดูกสันหลังเสื่อม มีการกดทับเส้นประสาท มีอาการปวดเรื้อรัง มีการทรงตัวผิดปกติ อาการทั้งหมดนี้ จัดว่านายทักษิณ เป็นกลุ่มเปราะบาง ต้องได้รับการดูแลตามหลักการมาตรฐานของเรือนจำทั่วประเทศ
ขณะที่ นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวถึงการปฏิบัติต่อนายทักษิณ ในเรือนจำว่า จะต้องปฏิบัติตามแนวทางเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่น ๆ มีสิทธิ์พบกับทนายความ มีสิทธิ์เยี่ยมญาติได้ตามสิทธิ์ทุกประการ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35