ข่าวเย็นประเด็นร้อน - การเมืองจนถึงวันนี้ เหลือเวลาอีก 4 วัน ก็จะถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อวานนี้ มีความชัดเจนจากอีกพรรคของ 1 ลุง คือพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้ก็อยู่ที่การต่อรองตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี ส่วนอีกเรื่องที่มาเกี่ยวพันกันกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งวันนี้ นายเศรษฐา ออกมาตอบโต้นายชูวิทย์ อีกครั้ง
เศรษฐา โต้ ชูวิทย์ บิดเบือน
เริ่มที่ความเดือดสุดของวันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กและโพสต์ในทวิตเตอร์ ข้อความว่า วันนี้ตัดสินใจเอง เข้ามาตรงนี้ เพราะอยากทำให้ประเทศชาติ และเศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ตนตัดสินใจจะทำ จนถึงวันนี้ มั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม ย้ำอีกครั้ง ศัตรูของตน คือความยากจน และความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของตน คือ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน
นอกจากข้อความ ยังมีคลิปนายเศรษฐา พูดเปิดใจความยาว 7 นาที 44 วินาที โดยสรุปว่า วันนี้ออกมาพูดในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทแสนสิริ และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในการทำธุรกิจของแสนสิริ เป็นที่รับทราบและยอมรับของสังคมมาโดยตลอด ผ่านพ้นวิกฤตมาหลากหลายรูปแบบ ทีมงานทุกคนบริหารงานอย่างโปร่งใส ในรูปแบบของคณะกรรมการ ตามข้อบังคับของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ ทำงานตามหลักธรรมาภิบาล ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา หรือแม้กระทั่งตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
ตนออกมาวันนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริง และตอบคำถามของสังคมในกรณีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริและเรื่องนอมินี ในขณะที่ตนเป็นผู้บริหาร ยืนยันว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการบริษัท ดำเนินการด้วยความถูกต้องตามกฎหมายในทุกขั้นตอน ไม่เคยมีวิธีการนอกระบบกฎหมาย เพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือแสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่คุณชูวิทย์นำมากล่าวอ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย
นายเศรษฐา ระบุด้วยว่า ฝั่งผู้ซื้อ ไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย ความจริงเป็นการจดจำนอง เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและห้ามผิดสัญญาของบริษัทผู้ขาย และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน ตนยืนยันไม่มีการทำสัญญากู้ อีกทั้งไม่มีการสมคบคิดใด ๆ และไม่เคยมีเงินทอนใด ๆ กลับมาที่ตน หรือพนักงานแสนสิริคนไหนทั้งสิ้น แปลงโครงการคุณ บาย ยู มูลค่าที่ดินราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา เป็นราคาที่ถือว่าดีมาก ราคานี้ไม่มีเงินทอนให้ใครหรอก ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณชูวิทย์ต้องแยก ผู้ขาย กับ ผู้ซื้อให้ได้ อย่าบิดเบือนและแสนสิริไม่มีนอมินีแน่นอน หลังจากนี้คุณจะพูดเรื่องที่ดินอีกกี่แปลงก็ได้ คุณต้องแยกผู้ขาย กับผู้ซื้อให้ชัดเจน
นายเศรษฐา ยังเปิดเผยข้อมูลอ้างด้วยว่า ที่นายชูวิทย์บิดเบือนความจริง เพราะโกรธที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินนายชูวิทย์ที่ซอยสุขุมวิท 24 ราคา 2,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ผ่านมา 10 เดือน ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว จนมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติพรรคเสนอชื่อตนในสภาเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตนโดนข่มขู่ นายชูวิทย์ ฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดของเขา มาสั่งให้ตนมัดจำเงิน เพื่อซื้อที่ดิน และทำ MOU แบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินกับนายชูวิทย์ ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีสิทธิ์มาข่มขู่ตน
นายเศรษฐา กล่าวว่า นายชูวิทย์บิดเบือนไปถึงเรื่อง Digital Wallet ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านโยบายนี้จะเป็นการฟอกเงินผ่านทาง Coin อะไรเลอะเทอะไปหมด ขอให้นายชูวิทย์ อย่าได้เอาเรื่องนโยบาย Digital Wallet ของพรรคเพื่อไทยมาโจมตีอย่างไม่มีหลักการ การที่ตนพูดความจริงในครั้งนี้ ตนรู้ว่านายชูวิทย์ต้องไม่พอใจและอาจจะไปฟ้องศาล ตนก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้คดีกับนายชูวิทย์ในศาลต่อไป ชีวิตตนตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ลูกมีงานที่ดีทำทุกคน ตนไม่มีอะไรต้องห่วง ทุกคนเตือนว่าอย่าลงการเมือง มันเปลืองตัว ขอบคุณในความหวังดีของทุกคน แต่วันนี้ตัดสินใจเอง เข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติและเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ตัดสินใจจะทำจนถึงวันนี้ มั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม
ชูวิทย์ โพสต์โต้ เศรษฐา vs ชูวิทย์ คุณจะเชื่อใคร ?
ก่อน 16.00 น. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นการตอบโต้ประเด็นต่อประเด็นรวม 10 ข้อ ใจความโดยสรุปสั้น ๆ แต่ละข้อประมาณนี้
1. แสนสิริซื้อที่ดินตามราคาตลาดที่สมเหตุสมผล เดี๋ยวรอดู Ep.3 ว่าคราวนี้จะ สมเหตุสมผล อย่างที่ว่าไหม?
2. ผู้ซื้อไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการบริหารภายในของผู้ขาย นายเศรษฐา โยนให้ ผู้ขาย ทุกที แต่ รปภ. นอมินี มีความเกี่ยวข้องกับแสนสิริอย่างชัดเจน Ep.3 เปิดตัว รปภ. อีกคน มาจากมุกดาหาร
3. แสนสิริไม่เคยปล่อยกู้ แต่ให้จำนองเพื่อเป็นหลักประกัน จะซื้อก็ซื้อ ทำไมต้องให้จำนองไว้ด้วย? แท้จริงแล้ว ต้องการนำเงินออกจากบริษัทมหาชนมากกว่า
4. ไม่มีการสมคบคิด หรือมีเงินทอน ตนมีเอกสารราชการทุกอย่าง แต่นายเศรษฐา กับแสนสิริ พูดปากเปล่า ไว้เอาไปชี้แจงกับบิ๊กโจ๊กแล้วกัน เพราะเดี๋ยวเขาก็เรียก หากใครไม่มา 2 ครั้ง ก็ออกหมายจับ
5. ราคา 1.1 ล้านบาทต่อตารางวา ที่ทองหล่อ เป็นราคาที่เหมาะสม แล้ว 500,00 บาทต่อตารางวา ใจกลางสุขุมวิทเหมาะสมไหม? วันจันทร์รู้กัน
6. ชูวิทย์โกรธ ที่แสนสิริไม่ซื้อที่ดิน ที่ดินตนไม่มีหนี้ ไม่ติดจำนอง โฉนดเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ได้รีบขาย แสนสิริต่างหาก ที่ต้องการที่ดินจำนวนมาก เพื่อจะได้ค่าบวม แล้วดันมาขอเงินบวมจากตนด้วย แสนสิริต้องหาที่ดินมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก เพราะ หนี้เยอะ ถึง 90,000 ล้าน วันจันทร์ ผมจะโชว์ให้ดู
7. ชูวิทย์มีสัญญาซื้อขายที่ดินอยู่กับบริษัทอื่น แสนสิริจึงไม่สามารถซื้อที่ดินของชูวิทย์ได้ ก็นั่นน่ะสิ ที่ดินตนมีสัญญา รับเงินมัดจำมาแล้ว จะไปขายให้ได้ยังไง?
8. ชูวิทย์ข่มขู่ให้ซื้อที่ดิน จ่ายมัดจำ ไม่งั้นจะแฉ โดยให้ผู้ใหญ่มากมายติดต่อมาหา ผู้ใหญ่ที่ว่า ไม่ทราบเป็นใคร? ช่วยเอามายืนยัน
9. ถ้าไม่ซื้อที่ดิน 2,000 ล้านบาท ชูวิทย์จะแฉต่อไป ตนเคยบอกไว้แล้ว ถ้าเพื่อไทยหักหลังประชาชน แล้วเสนอเศรษฐาเป็นนายกฯ จะแฉเรื่องนี้ เพื่อเป็นการโต้กลับของประชาชน
10. ชูวิทย์บิดเบือนเรื่องดิจิตอลวอลเล็ท ทั้งที่นโยบายมีประโยชน์ต่อประชาชน อย่าพูดถึงประโยชน์ต่อประชาชนเลย ขนาดหาเสียงไว้พูดกับปากทั้ง แก้ ม.112, ไม่ร่วมกับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ
เศรษฐา เผย อนุทิน ต่อสายยืนยัน 71 เสียงพร้อมโหวตให้
ต่อมานายเศรษฐา เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ในเวลาประมาณ 13.00 น. โดยก่อนให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนได้แซวว่า ไม่เจอกันนาน หลังห่างหายจากการให้สัมภาษณ์ไประยะหนึ่ง ซึ่งนายเศรษฐา ตอบกลับว่า ก็เพิ่งเจอกันเมื่อศุกร์ที่แล้วเอง พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่โพสต์ตอบโต้นายชูวิทย์ และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ว่า คณะเจรจาได้คุยกับพรรคร่วมหลายพรรค และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี ซึ่งวันนี้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็โทรมาหาตนเอง ยืนยันทั้ง 71 เสียง พร้อมที่จะโหวตให้ ก็ต้องขอขอบคุณ และยังมีอีกหลายพรรคที่แสดงเจตจำนงมาแล้ว หากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อตนในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ตนก็มีความพร้อม และขอวิงวอนว่า ก็ต้องการเสียงจาก สว. ด้วย ซึ่งการกระทำของตนเองเป็นที่ประจักษ์ ว่าตนมีความตั้งใจจริง มีความปรารถนาดีกับประเทศชาติ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุน สว.
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม และมั่นใจในคณะเจรจา ว่าจะตกลงได้กับพรรคร่วมมาเป็นรัฐบาล
วิป 3 ฝ่าย เคาะ เศรษฐา ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์
ส่วนความคืบหน้าในโหวตในวันที่ 22 สิงหาคม วันนี้ มีการประชุมวิป 3 ฝ่าย ซึ่งภายหลังการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา แถลงว่าในวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 10.00 น. จะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อลงมติบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกำหนดเวลา 5 ชั่วโมง แบ่งเป็นของ สว. 2 ชั่วโมง สส. ไม่เกิน 3 ชั่วโมง คาดว่าจะลงมติในเวลา 15.00 น. และเสร็จสิ้นภายในเวลา 17.30 น.
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีความเห็นว่า ผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่จำเป็นต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้กำหนดไว้ ประกอบกับในช่วงที่ยกร่างข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมของรัฐสภา เคยมีมติว่าเห็นชอบให้แสดงวิสัยทัศน์เพียง 47 เสียง และไม่เห็นชอบ 370 เสียงโดยประมาณ
ส่วนญัตติที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เสนอค้างไว้ตั้งแต่การประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา ในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย เห็นว่าให้นายรังสิมันต์ สามารถอภิปรายได้ในการประชุมวันที่ 22 สิงหาคมนี้ แต่มีความเห็นว่า เมื่อมีการวินิจฉัยตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 151 ไม่สามารถนำมาทบทวนได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาว่าเมื่อรัฐสภามีมติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วจะพิจารณาทบทวนได้ตลอดเวลา
ธนกร ย้ำควรคุยโควตารัฐมนตรีให้จบ ก่อนโหวตนายกฯ
ส่วนพรรคที่เพิ่งจะแถลงเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวานนี้ คือพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่สามารถตกลงโควตากับพรรคเพื่อไทยได้ว่า ยังไม่ทราบ แต่ในส่วนของพรรคไม่มีปัญหา ตนได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรค ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
36 เสียงของ รทสช. ช่วย เพื่อไทย รวมได้ 314 เสียง
ผลจากการที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นำ สส. 36 เสียง ประกาศจับมือกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล ทำให้มีเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 314 เสียง โดยเสียงที่รวบรวมได้ก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง, ภูมิใจไทย 71 เสียง, ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง, ประชาชาติ 9 เสียง, เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง, ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง, เสรีรวมไทย 1 เสียง, ท้องที่ไทย 1 เสียง และพรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง
ชลน่านลาออกกี่โมง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
และผลสะเทือนจากที่พรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงข่าวจับมือร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง ซึ่งใน 314 เสียง ยังมีพรรคพลังประชารัฐรวมอยู่ด้วย คือมีครบทั้งพรรค 2 ลุง นั่นก็ทำให้ ในโซเชียลโดยเฉพาะทวิตเตอร์ มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายต่อประเด็นดังกล่าว ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน จนถึงวันนี้ โดยมีการตั้งคำถามต่อ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลาออกกี่โมง เพราะเคยพูดไว้ตอนหาเสียง ว่าจะลาออกหากพรรคเพื่อไทย ไปจับมือกับ 2 ลุง ส่งผลให้แฮชแท็ก ชลน่านลาออกกี่โมง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ไผ่ ลิกค์ ปัดตอบกระแส บิ๊กป้อม ต่อคิว เศรษฐา
ไปที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพร้อมให้ 40 เสียงในการโหวตฯ นายกฯ ของเพื่อไทย วันนี้ผู้สื่อข่าวถามนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ระหว่างให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่าวันที่ 22 สิงหาคมนี้ จบแน่ใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวหาก นายเศรษฐา ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ พลเอก ประวิตร รอต่อคิว นายไผ่ กล่าวว่า ใจเย็น ๆ อย่าเปิดประเด็น ผมเชื่อว่าลุงป้อมน่ารักกว่าที่คิดเยอะ ลุงป้อมไม่ได้จะมาสร้างข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น เอาแค่ตรงนี้ก่อน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35