ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชูวิทย์ ตามแฉไม่เลิก ล่าสุดบุกร้อง บิ๊กโจ๊ก ตรวจสอบบริษัท แสนสิริ ในยุคเศรษฐา เป็นผู้บริหาร ซื้อขายที่ดินมีพิรุธ
ลามหนัก ! ชูวิทย์ แฉ เศรษฐา-แสนสิริ
ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องตามกันอย่างต่อเนื่อง ภายหลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาแฉบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารในยุคนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่า มีการตั้งบริษัทนอมินีขึ้นมา แล้วนำชื่อของ แม่บ้าน และ รปภ. เป็นกรรมการ เพื่อซื้อที่ดินย่านทองหล่อ ถือว่าเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง
โดย แสนสิริ ออกมาตอบโต้เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยตั้งบริษัทนอมินี ส่วนการซื้อและโอนที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นการทำโดยตรงจากบริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่การซื้อผ่านตัวกลาง หรือรับโอนหุ้นตามที่เป็นข่าว รวมถึงไม่เคยกู้ยืมเงินแก่ผู้ขาย ขณะที่การจดจำนอง เป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งวงเงิน 1,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ครอบคลุมราคาที่ดิน และค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้น
ชูวิทย์ ร้อง บิ๊กโจ๊ก สอบ แสนสิริ ทำนิติกรรมอำพราง
ขณะที่วันนี้ (17 ส.ค.) นายชูวิทย์ ยื่นกล่าวโทษต่อ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเอาผิดคณะกรรมการบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นนอมินีซื้อขายที่ดิน ในข้อหาทำเอกสารอันเป็นเท็จ จัดตั้งบริษัทนอมินี และฟอกเงิน
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า มีการยื่นหลักฐานให้ตรวจสอบ 2 เรื่อง คือ กรณีที่ดินย่านสารสิน มีการหลบเลี่ยงภาษีแบบกลุ่มบุคคลหรือไม่ เพราะมีการแยกโอนที่ดิน 12 คน ใน 12 วัน ส่วนอีกกรณีคือ ที่ดินย่านทองหล่อ ซึ่งมีการตั้งบริษัทนอมินี ฉะนั้นตำรวจต้องเรียกแม่บ้านเข้ามาสอบถามว่า ใครเป็นผู้ทำนิติกรรมซื้อขาย และกู้ยืมเงินจากแสนสิริ โดยวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ จะมีการแถลงข่าวเป็นตอนสุดท้าย เพื่อให้เห็นธาตุแท้ของพวกนายทุน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีการเปิดเผยข้อมูลว่า การขายที่ดินของบริษัทลูกชูวิทย์ มีการขายที่ดินมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และหลบเลี่ยงภาษีกว่า 900 ล้านบาทนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า บริษัทลูกของตนเอง ไม่มีนอมินี แต่หลังจากตนเองได้นำเรื่องมาแฉ ได้มีผู้ใหญ่โทรศัพท์เข้ามาสั่งการให้ขัดขวาง อย่างการเอาเรื่องลูกของตนเองมาพูด
ชูวิทย์ ยื่น กลต.สอบ แสนสิริ
จากนั้นนายชูวิทย์ ยื่นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ตรวจสอบบริษัทแสนสิริ และบริษัทในเครือ โดยนายชูวิทย์ บอกว่า เมื่อนายเศรษฐา อ้างว่าไม่รู้จักแม่บ้าน และ รปภ.ที่เป็นนอมินี จึงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะผู้เสียหายในกรณีนี้ คือผู้ถือหุ้น หากยังทำงานชักช้า ผู้ถือหุ้นก็ยิ่งเสียหาย
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม