logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ลามหนัก ! “อนุพงษ์” แจงดรามาเดือด ปมปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : อนุพงษ์ แจงปมดรามาเดือด กรณีปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้าน พิธา ถามย้อนปรับลดงบประมาณส่วนนี้ทำไม ทั้งที่มีง ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

321 ครั้ง
|
15 ส.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อนุพงษ์ แจงปมดรามาเดือด กรณีปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้าน พิธา ถามย้อนปรับลดงบประมาณส่วนนี้ทำไม ทั้งที่มีงบประมาณเทียบเท่าซื้อเรือดำน้ำ แถมยังมีความจำเป็นมากกว่า
 
ลามหนัก ! ดรามาปม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
 
กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง ภายหลังกระทรวงมหาดไทย ออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่มีการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา โดยประเด็นสำคัญ เป็นเรื่องคุณสมบัติ ของผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพฯ ต้องเป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยน จากเดิมให้จ่ายถ้วนหน้า
 
ซึ่งเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีการชี้แจงประเด็นดังกล่าว แต่ที่กลายเป็นไฮไลต์สำคัญ คงเป็นการตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงประเด็นดรามาเรื่องพิสูจน์ความจน โดย พลเอก อนุพงษ์ ย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าคนอย่างผมได้ด้วย คุณว่ายุติธรรมหรือไม่ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า ตนเองเป็นข้าราชการเกษียณแล้ว มีบำนาญ 60,000 กว่าบาท ฉะนั้นเป็นสิ่งที่ต้องมีการพิจารณาว่า หากตนเองได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุ จะเหมาะสมหรือไม่ ฉะนั้นอย่ามองเรื่องนี้แค่ด้านเดียวว่า เป็นการตัดสิทธิ์ เราลองย้อนไปฟังเสียงสัมภาษณ์ของ พลเอก อนุพงษ์ กัน
 
อนุพงษ์ ย้ำหลักเกณฑ์เบี้ยผู้สูงอายุต้องเป็นธรรม
 
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (15 ส.ค.) พลเอก อนุพงษ์ ชี้แจงอีกครั้งว่า เดิมมีการยกร่างระเบียบเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่กรมบัญชีกลางแจ้งว่า ผู้ที่มีรายได้อื่น เช่น เบี้ยบำนาญ จะไม่สามารถรับเบื้ยผู้สูงอายุได้ ฉะนั้นต้องเรียกคืน ทำให้เกิดปัญหา
 
กระทั่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีการส่งระเบียบให้กฤษฎีกาตีความ ซึ่งมีการตีความว่า ระเบียบที่ออกมา ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่า ประชาชนต้องมีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะผู้ยากไร้ ที่รัฐบาลต้องดูแลเป็นหลัก
 
โดยระเบียบใหม่ มีการกำหนดว่าเบี้ยผู้สูงอายุ ต้องทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งทางคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ต้องเป็นผู้กำหนด และไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้ ฉะนั้นถ้าคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ยังไม่ออกกำหนด ประชาชนก็ยังรับเบี้ยผู้สูงอายุตามหลักเกณฑ์เดิมได้
 
พิธา ย้อนถาม อนุพงษ์ ปมเบี้ยผู้สูงอายุ
 
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นว่า ตอนนี้สังคมไทย กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ฉะนั้นรัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่มีแต่จะเพิ่มงบประมาณ ไม่ใช่ตัดงบประมาณดูแลผู้สูงอายุแบบนี้ ซึ่งสำนักข่าวบางแห่ง มีการนำเสนอว่า นโยบายดังกล่าว จะช่วยประหยัดงบประมาณได้ถึง 30,000 ล้านบาท โดยส่วนตัวมองว่างบประมาณที่ลดลงเทียบเท่าได้กับงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ ทั้งที่เรื่องผู้สูงอายุมีความจำเป็นมากกว่า ส่วนตัวอยากฝากไปถึง พลเอก อนุพงษ์ ว่าการเอาความรู้สึกของคนเป็นรัฐมนตรีว่ามีเงินบำนาญเท่าไหร่ แล้วเอาไปตัดสินแทนพี่น้องประชาชน ถือเป็นวิธีกระบวนการความคิด ที่ถูกต้องแล้วหรือไม่
 
ชี้ปรับหลักเกณฑ์ เบี้ยผู้สูงอายุ เหมือนถอยหลังลงคลอง
 
เช่นเดียวกับนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์เบี้ยผู้สูงอายุ โดยมองว่า การเปลี่ยนแนวคิด สวัสดิการถ้วนหน้า มาเป็นระบบ สงเคราะห์อนาถา ถือเป็นวิธีคิดแบบถอยหลังเข้าคลอง เป็นระบบศักดินาแบบเก่า
 
โดยนายสุชาติ ระบุว่า นโยบายดังกล่าว เปรียบเสมือนเอาเงินรัฐบาลมาแจกแบบอุปถัมภ์ เพื่อสร้างบุญคุณแก่ประชาชน และการกล่าวอ้างว่า รัฐต้องใช้เงินกว่า 90,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อดูแลผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน ทำให้รัฐบาลไม่มีเงินนั้น เป็นวิธีคิดแบบรัฐทำตัวเป็นนาย ประชาชนเป็นแค่บ่าว
 
ธนกร ยันปม เบี้ยผู้สูงอายุ ไม่ใช่วางยารัฐบาลชุดใหม่
 
ไปกันที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตอนนี้ต้องรอดูเงื่อนไขต่างๆ จากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ แต่การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นการแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้า ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดว่า ผู้สูงอายุที่มีฐานะดี ก็ไม่ควรที่จะได้รับสิทธิตรงนี้
 
ฉะนั้นไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ เป็นประเด็นทางการเมือง และบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และไม่ใช่การวางยารัฐบาลชุดใหม่ ตามที่บางคนพยายามกล่าวหา และต้องทำความเข้าใจว่า การใช้งบประมาณในส่วนนี้ มีมากถึง 80,000-90,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างมาก
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/UKqFEy9g_sc
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง