"พรรคประชาธิปัตย์" ตอนนี้เรียกได้ว่า เจอทั้งศึกนอกศึกใน การประชุมใหญ่ภายในพรรคหาหัวเรือคนใหม่ ก็ล่ม 2 ครั้งติด อีกทั้งยังต้องออกไปชนศึกนอกกับการ “เลือกตั้งซ่อมระยอง” ที่ไม่รู้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร วันนี้ "ถกไม่เถียง" พาคุยทิศทางของพรรค กับ "สาธิต ปิตุเตชะ" รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ห้ามพลาด
วันที่ 15 ส.ค. 66 สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ส่วนตัวตนมีจุดยืนว่าไม่ขอร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นผลมาจากผลคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้น้อยลงเป็นอย่างมาก ทำให้เรามาถอดบทเรียนคิดกันว่าเป็นเพราะอะไร จึงได้พบว่าการมีจุดยืนที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกันก็มีข้อสรุปว่า พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องมีการฟื้นฟู เรียกความเชื่อมั่นกลับมาอย่างมีคุณภาพ เพราะตนยังเชื่อว่าชื่อเสียงของพรรคประชาชนยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ ซึ่งไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปเป็นรัฐบาล แต่หากเป็นฝ่ายค้านแล้วสร้างผลงานโดยมีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน จะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคนี้มีจุดยืนที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ การเลือกว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ต้องประชุมร่วมกันกับพรรคก่อน
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่ จังหวัดระยอง เขต 3 ตนเตรียมเสนอชื่อ นายแพทย์ บัญญัติ เจตนจันทร์ ให้พรรคพิจารณาส่งลงสมัครเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ซึ่งตนมีความมั่นใจ เนื่องจาก นายแพทย์ บัญญัติ มีผลงานที่เด่นชัดทั้งในสภา อีกทั้งเป็นคนในพื้นที่ เข้าถึงพี่น้องประชาชนได้ง่าย และไม่มีประวัติด่างพร้อยใด ๆ ซึ่งตนมองว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งสส.เขต ดังนั้นการให้คนในพื้นที่ลงสมัครน่าจะเหมาะสมมากกว่า ขณะที่มีชื่อของ ธารา ปิตุเตชะ และ ทักษิณ ปิตุเตชะนั้น พรรคจะเป็นคนเลือกว่าใครเหมาะสมที่สุด ส่วนตัวตนคิดว่า นายบัญญัติ เหมาะสม
ส่วนเรื่องการประชุมใหญ่ 2 ครั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล่มติด ๆ กันเลย เป็นเพราะ มีความไม่เป็นเอกภาพ แบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งอยากเป็นรัฐบาล ส่วนอีกฝ่ายไม่อยากเป็นรัฐบาล และอีกปัญหาหนึ่งคือกฎข้อบังคับของพรรค คือ ที่จะให้สส.พรรค มีคะแนนเสียงโหวตมติได้มากที่สุด ซึ่งแต่ก่อนเรามี สส.เยอะเป็นร้อยคน สัดส่วนมันเลยลงตัว แต่ตอนนี้สส.เราเหลือแค่ 25 คน ทำให้สัดส่วนคะแนนของสส. 1 คน เท่ากับ 25 คน ขององค์ประชุม จึงเกิดการที่องค์ประชุมไม่พอ เพราะบางท่านก็ไม่เดินทางมา เนื่องจากเขาก็คิดว่าเดินทางมาลงคะแนนเสียงก็ไม่เป็นผล ซึ่งตนได้ขอเสนอแก้กฎตรงนี้ให้มีความบาลานซ์ แต่ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน
ขณะเดียวกัน สาธิต ปิตุเตชะ ได้ตอบประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เขาต้องการให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมานำทัพในสถานการณ์แบบนี้ เพราะเขามีความชัดเจนในจุดยืนทางการเมือง อีกทั้งยังมีดีกรีอดีตนายกฯ ซึ่งเราต้องการคนที่ทำเพื่องค์กร และมีความชัดเจนอย่างแท้จริง
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในจุดเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจุดอ่อนของพรรคนั้น ด้วยความที่เป็นสถาบันการเมืองเก่าแก่ มีการทำงานที่คล้ายระบบราชการเสียมากกว่าการทำงานในรูปแบบการเมือง ซึ่งการเมืองทุกวันนี้มีการผันผวนค่อนข้างสูง พรรคประชาธิปัตย์ต้องปรับตรงนี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งเรื่องของคนรุ่นใหม่ จริง ๆ แล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยขาดคนรุ่นใหม่เลยแต่ทำไมคนรุ่นใหม่เหล่านี้ถึงไม่เคยเปลี่ยนพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย อันนี้เป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคต้องมาทบทวนแก้ไขในเชิงโครงสร้าง ขณะเดียวกัน การร่วมรัฐบาลไม่ใช่ทางออกของพรรค เพราะ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่ในฐานะแกนนำ ถ้ามีเรื่องเสีย เขาจะต้องรับด้วยในฐานะรัฐบาล
ส่วนภาพรวมการเมืองในตอนนี้ พรรคเพื่อไทยกำลังตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทยตอบโจทย์เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล การที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล แต่โจทย์วันนี้ของพรรคเพื่อไทยคือการฟื้นฟูความเชื่อมั่น ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลแล้วก็จะขาดความเชื่อถือจากประชาชน จะสัญญาอะไรใหม่ยังไงคนเขาก็ไม่เชื่อ อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ได้นำ โดนพรรคอื่นต่อรองสารพัด ดังนั้นตอนนี้พรรคเพื่อไทยต้องรีบเรียกความเชื่อมั่นคืนมา ไม่มี 2 ลุง หรือ สว. ก็ไม่เป็นไร แต่จุดยืนทางประชาธิปไตยต้องชัดเจน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35