logo ถกไม่เถียง

“อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้างเป็นการไฟฟ้าฯ คุย 30 นาที ดูดเงิน 2 แสน !

ถกไม่เถียง : ดาราสาวช่อง 7 อ้อม อังคณา เสียท่า ถูกมิจฉาชีพหลอกดูดเงิน 2 แสน อ้างเป็นเจ้าหน้าการไฟฟ้าฯ หว่านล้อมสารพัด พร้อมรู้ข้อมูลส่วนตัวครบ ทำ ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,ch7hd,ถกไม่เถียง,ทิน โชคกมลกิจ,ch7hd,อ้อม อังคณา,ดาราช่อง 7,ดาราถูกหลอก,นักแสดงถูกต้ม,มิจฉาชีพ,การไฟฟ้า,เจ้าหน้าที่ปลอม,การไฟฟ้าปลอม,ดูดเงิน 2 แสน,วิธีให้ธนาคารดึงเงินคืน,ดึงเงินคืน,หลอกดูดเงิน,มิจฉาชีพออนไลน์,คุย 30 นาที,ดาราสาว,เตือนภัย,ธนาคาร,อ้างเป็นการไฟฟ้า

34,085 ครั้ง
|
14 ส.ค. 2566
ดาราสาวช่อง 7 'อ้อม อังคณา' เสียท่า ถูกมิจฉาชีพหลอกดูดเงิน 2 แสน อ้างเป็นเจ้าหน้าการไฟฟ้าฯ หว่านล้อมสารพัด พร้อมรู้ข้อมูลส่วนตัวครบ ทำหลงเชื่อไม่ทันตั้งตัว !
 
ถกไม่เถียง : “อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้า
 
            วันที่ 14 ส.ค. 66 อ้อม อังคณา อึ๊งเจริญ ดารานักแสดง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า มิจฉาชีพติดต่อมาทางพ่อของตนผ่านไลน์ โดยสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ อ้างว่าจะมาดำเนินการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าที่พ่อของตนเคยทำเรื่องไว้เมื่อปี 63 ซึ่งเขายังบอกข้อมูลได้ตรงทุกอย่าง ทั้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เลขมิเตอร์ไฟฟ้า ทำให้พ่อของตนเชื่อ แต่พ่อตนดำเนินการไม่เป็น จึงบอกเจ้าหน้าที่ปลอมคนดังกล่าวว่าให้รอลูกสาวมาทำให้ 
 
            จากนั้น เมื่อตนได้เข้ามาเป็นคนดำเนินการ มิจฉาชีพได้บอกว่าชื่อของพ่อตนเป็นผู้พิการ ออกอุบายว่าถ้าชื่อของพ่อตนเป็นผู้พิการอาจะทำให้การดำเนินการธุรกรรมต่าง ๆ มันลำบาก แนะนำให้เปลี่ยนชื่อมิเตอร์เป็นของตนเพื่อความสะดวก ซึ่งข้อมูลที่พ่อของตนเป็นผู้พิการมันก็ถูกต้องอย่างที่เขาบอก อีกทั้งยังเป็นข้อมูลใหม่ เพราะพ่อของตนเพิ่งป่วยและเปลี่ยนสถานะเป็นผู้พิการเมื่อปี 64 ทำให้ตนหลงเชื่อและทำตามที่เขาแนะนำ 
 
ถกไม่เถียง : “อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้า
 
            ต่อมา มิจฉาชีพได้หว่านล้อมให้ตนเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ของตน ไปทำธุรกรรมในโทรศัพท์ของพ่อ เนื่องจาก ตนใช้โทรศัพท์ระบบไอโอเอส แต่ของพ่อเป็นระบบแอนดรอยด์ หว่านล้อมให้ตนทำจนได้ ซึ่งในมือถือของพ่อ มีการโหลดแอปฯจากลิงก์ที่มิจฉาชีพส่งมาอยู่ก่อนแล้ว โดยเป็นแอปฯที่หน้าตาคล้ายกับของการไฟฟ้าฯทุกอย่าง จากนั้นในแอปฯก็ให้ใส่ชื่อนามสกุล เบอร์โทร แล้วทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพบอกประมาณ 30 นาที ก็มีการให้แสกนหน้า 1 ครั้ง พอแสกนเสร็จก็มีข้อความจากธนาคารว่ามีคนพยายามจะเปลี่ยนรหัสแอปฯธนาคารของตน จากนั้นไม่นานทุกอย่างในเครื่องหายไปหมดเลย ทั้งแอปฯการไฟฟ้าฯปลอมที่ตั้งไว้ ทั้งแชตไลน์ที่เคยคุยกับมิจฉาชีพ ซึ่งแอปฯธนาคารของตนไม่สามารถเข้าได้เลย สันนิษฐานว่าคงเปลี่ยนรหัสไปแล้ว เมื่อรู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงรีบอายัดบัญชีธนาคารทุกบัญชีที่มี แต่ว่าไม่ทัน โดนโอนเงินออกจากบัญชี จำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 49,850 บาท รวม 199,400 บาท
 
ถกไม่เถียง : “อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้า
 
            ทั้งนี้ ระหว่างที่ตนกำลังอายัดบัญชีปลายทางนั้น บัญชีดังกล่าวก็ได้ถูกอายัดไปก่อนแล้ว ซึ่งมาจากเคสผู้เสียหายคนอื่น ทำให้ตนสงสัยว่าเงินของตนอาจจะรอดถูกอายัดทันหรือไม่หรือไม่ นอกจากนี้ หลังจากอายัดบัญชีตัวเองไว้แล้ว ตนได้เห็นว่ามีการพยายามโอนเงินออกไปอีก โดยตั้งเวลาไว้ล่วงหน้า 3 ยอด แต่ไม่สำเร็จเพราะอายัดบัญชีตัวเองไว้แล้ว ทำให้ตนเป็นห่วงว่าถ้ากลับไปใช้บัญชีเดิมจะโดนดูดเงินไปอีกหรือไม่ 
 
            สำหรับตอนนี้ตนเป็นห่วงสภาพจิตใจคุณพ่อ เพราะเขาค่อนข้างเครียด ส่วนเรื่องเงิน ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินคืนเท่าไหร่ แต่ที่มาออกสื่อเพราะอยากเตือนภัยสังคม ใครจะคิดว่าข้อมูลส่วนตัวจะไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ จนมากระทำแบบนี้ทำให้ไม่รู้เลยว่าคนพวกนี้เป็นมิจฉาชีพ เพราะข้อมูลมันควรอยู่กับหน่วยงานรัฐฯ จึงอยากออกมาให้เป็นอุทาหรณ์ว่าข้อมูลส่วนตัวมันไม่ส่วนตัวแล้ว อีกทั้งยังอยากให้หน่วยงานต่าง ๆ ออกมาแก้ไขอุดรอยรั่วการทำแบบนี้ของมิจฉาชีพ
 
ถกไม่เถียง : “อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้า
 
            ฟาก พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ความเห็นว่า หลังจากที่ผู้เสียหายถูกอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถที่จะโทรหาธนาคารด้วยตัวเองและอายัดบัญชีได้เลย ซึ่งธนาคารก็ต้องอายัดบัญชีไว้ แต่ในระหว่างนี้ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความภายใน 72 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นการอายัดดังกล่าวก็จะถูกปลดไป ทั้งนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยี มันไม่ได้มีบัญชีม้าบัญชีเดียว มันจะส่งต่อไปเป็นทอด ๆ ซึ่งธนาคารก็มีหน้าที่ประสานต่อไปอายัดเป็นทอด ๆ อีกด้วย
 
ถกไม่เถียง : “อ้อม อังคณา” ดาราสาว ถูกคนร้าย อ้า
 
            สำหรับเคสคุณอ้อม อาจจะได้เงินคืนค่อนข้างยาก ต้องไปตามดูเงินที่เขาอายัดไว้ได้ มันอาจจะไปสะดุดอยู่ตรงนั้นอาจทำให้ได้เงินคืน ขณะที่การดึงเงินคืนของธนาคารนั้น จะเกิดขึ้นในกรณีที่โอนเงินผิด ประชาชนสามารถแจ้งคืนได้เลย แต่ถ้าถูกมิจฉาชีพหลอก มันอาจจะโอนเงินออกไปแล้วทำให้ไม่สามารถดึงเงินคืนได้ ส่วนเรื่องข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมา มันเกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง ทั้งแฮกเกอร์ หรือช่องโหว่ต่าง ๆ รวมทั้งหลุดมาจากตัวเจ้าหน้าที่เองก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม มันสามารถตรวจสอบย้อนหลังดำเนินคดีได้
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/W2-5whoMbF4