ชื่นมื่น ! “พิธา” โผล่สภา กินไอศกรีม ยังไม่เคาะโหวต “เพื่อไทย” เป็นนายกฯ

เช้านี้ที่หมอชิต - ไปดูฝั่ง ก้าวไกล เมื่อวานนี้ คุณพิธา ปรากฏตัวที่โรงอาหารสภา หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส บอกว่า มาให้กำลังใจเพื่อน สส. อภิปราย จึงแวะมากินไอติมมหาชัยร้านโปรด ส่วนจะยกมือให้ เพื่อไทย หรือไม่ ยังไม่เคาะ บรรยากาศคึกคักชื่นบานมาก

 

ช่วงนี้ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. คุณพิธา เลยต้องใช้บัตรประชาชนแลกบัตรเข้าออกสภาแบบชั่วคราว ระหว่างทางไปซื้อไอติมร้านโปรด มีการชี้บอกนักข่าวถึงร้านอาหารและเมนูที่ชอบ แฟนคลับลิสต์ไว้เลย คุณพิธา บอกว่า ชอบอาหารเผ็ด ๆ เช่น แกงไตปลา คั่วกลิ้ง และ ใบเหลียงผัดไข่ ส่วนเรื่องการเมือง เมื่อสื่อถามว่าหลัง คุณแพทองธาร นำทีมเพื่อไทยเดินทางมาพูดคุยเจรจา จะโหวตให้หรือไม่ คุณพิธา ย้ำหลายครั้งว่า ตอนนี้ต้องรับฟัง และคิดให้รอบคอบ จึงยังบอกไม่ได้ สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่ฟังมากกว่าอย่างอื่น แต่ทางพรรคยังยึดหลักการสำคัญ คือ การยึดมั่นในสิ่งที่เคยให้คำสัญญาตอนหาเสียง เมื่อถามถึงกรณีของ นายปดิพัทธ์ ว่าอาจต้องลาออกจากการเป็นรองประธานสภาหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุห้ามผู้นำฝ่ายค้านนั่งตำแหน่งดังกล่าว ไปฟัง คุณพิธา ตอบเรื่องนี้

 

ฟังหัวหน้าไปแล้ว ไปฟังหัวหมู่ทะลวงฟันของพรรคอย่าง คุณรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคก้าวไกล กันบ้าง คุณโรม พูดชัดเจนว่า ไม่มีความเชื่อใจต่อพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว การบอกว่าถ้าไม่อยากให้มีลุงต้องโหวตให้เพื่อไทย ใครคือเครื่องการันตี และเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าการโหวตให้พรรคเพื่อไทยไปแล้ว จะนำไปสู่การเปิดประตูให้กับลุงหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้น สุดท้ายก็ทำให้ประเทศของเรากลับไปสู่วังวนเดิมอยู่ดี

 

ส่วน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแบบยาว ตั้งหัวเรื่องว่า เราจะโหวตตามเสียงหัวใจของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรค และจะไม่ยอมเปิดประตูให้เผด็จการได้เข้ามาร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจ อย่างแน่นอน สรุปความได้ว่า

 

1) 312 เสียงเดิมมีความชอบธรรมที่จะขอเสียง สส. จากพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลมาโหวตให้ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามฉันทานุมัติของประชาชน ป้องกันไม่ให้ สว. เข้ามาแทรกแซง แต่สำหรับกรณี 212 เสียง หรือ 238 เสียง พรรคก้าวไกลไม่มีความชอบธรรมที่จะโหวตให้ เพราะเท่ากับก้าวไกลกำลังละเลยเสียงของประชาชน และยอมจำนนให้ สว. ที่เผด็จการเลือกมา

 

2) เหตุผลว่าถ้าก้าวไกลไม่โหวตให้ เพื่อไทยจำเป็นที่ต้องดึงลุงมาร่วมรัฐบาลฟังไม่ขึ้น เพราะต่อให้ก้าวไกลโหวตให้ รัฐบาลเสียงข้างน้อย 238 เสียง ก็ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อยู่ดี ถ้าเพื่อไทยเอาประชาธิปัตย์มาร่วมจะมี 263 เสียง แต่จะอธิบายกับคนเสื้อแดงยังไงกับ การกระชับพื้นที่ และ เขตการใช้กระสุนจริง ที่ล้อมปราบจนคนเสื้อแดงล้มตายไป 99 ศพ เพื่อไทยจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเสื้อแดงต่อไปยังไง และต้องยอมรับตรง ๆ ว่า รัฐบาล 263 เสียง ปริ่มน้ำมาก จึงเป็นไปได้สูงที่เพื่อไทยจะต้องไปดึงเอารวมไทยสร้างชาติ กับ พลังประชารัฐ มาร่วม โดยอ้างเสถียรภาพ

 

3) เพื่อไทยมีทางเลือกที่จะกลับมายืนที่ 312 เสียงกับ 8 พรรคร่วมได้เช่นเดิม แต่ถ้าเพื่อไทยอ้างอย่างที่ว่าข้างต้น แสดงว่าเพื่อไทย เขาเลือกที่จะไปร่วมกับ รวมไทยสร้างชาติ หรือ พลังประชารัฐ นั่นเอง ไม่ใช่ว่าไม่มีทางเลือก

 

สำหรับการโหวตของก้าวไกล คิดว่าเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องมาขอขมาอะไรเลย เป็นเพื่อนกันแค่มาพูดคุยกันด้วยความจริงใจก็ดีใจแล้ว แต่ผมคิดว่าคนที่เพื่อไทยควรจะคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ คือ ประชาชน โดยเฉพาะ คนเสื้อแดง ที่เป็นเพื่อนแท้ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อไทยมาเกือบ 20 ปี 

 

ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กยาวเหยียดเช่นกัน เนื้อหาส่งตรงไปถึงก้าวไกลว่า สถานการณ์ชัดเจนขนาดนี้ ทำไมพรรคก้าวไกลยังไม่ประกาศจุดยืนเป็น ฝ่ายค้าน อย่างทระนงองอาจ ไม่ต้องรับคำร้องขอ ไม่ต้องรับคำเจรจา ไม่ต้องหวังว่าจะมีแสงริบหรี่รำไรให้ได้กลับมาร่วมรัฐบาลอีก ไม่ต้องเล่นเกมชักเย่อ ชิงไหวชิงพริบกับพรรคอื่น ๆ ตั้งใจเดินหน้าทำงานในสภาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องยุ่งกับเกมการเมือง ชิงไหวชิงพริบเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลของใครทั้งนั้น ปล่อยให้พวกเขาแย่งเศษเนื้อ ชามข้าว กันต่อไป ขีดเส้นแบ่งชัดเจนระหว่าง เก่า-ใหม่ และ อดีต-อนาคต ต่อสู้ตามแนวทางของตนเองต่อไป

 

พอได้แล้วกับความคลุมเครือ ปล่อยให้ สส. แสดงออกกันเอง โดยไม่มีมติพรรคหรือการแถลงการณ์ทางการของพรรค การเล่นบท เหยื่อ ผู้ถูกรุมกระทำ กระตุ้นให้ประชาชนเห็นใจและเข้าใจในบางช่วงตอน แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนจะเริ่มเบื่อ รำคาญ และรู้สึกว่าอ่อนแอ ไม่ชัด ไม่สู้ ไม่กล้าหาญ กล้าที่จะยอมรับว่าสู้จนสุดทางแล้ว แต่พ่ายแพ้ในเกมนี้ กล้าที่จะยืนกับประชาชน และต่อสู้ต่อไปตามแนวทางของตน การเมืองแบบมวลชนเริ่มต้นแล้ว และจะเด่นชัดมากขึ้น ปล่อยพวกอดีต สู้ในเกมแบบเขาไป แล้ววันหนึ่ง พวกเขาจะถูกกวาดหมดจนตกกระดาน

 

เราคือ พวกอนาคต ต้องเคียงข้างหรือนำมวลชนไปในเกมใหม่ เป็นผู้นำของพลังแบบใหม่ในสังคมไทย วันนี้ ยังแพ้ แต่วันหน้า จะชนะ