logo เช้านี้ที่หมอชิต

เรืองไกร ยื่นยุบ “พรรคเพื่อไทย” หาเสียง “ไล่หนูตีงูเห่า” เข้าข่ายหลอกลวง

เช้านี้ที่หมอชิต : เช้านี้ที่หมอชิต - ควันหลงการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องคนดัง เดินทางไป กกต ข่าว,ช่อง7สี,ช่อง7HD,กด35,ข่าวช่อง7,CH7HD,รายการ,ดูย้อนหลัง,คลิปย้อนหลัง,CH7HDNEWS,ข่าวการเมือง,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวบันเทิง,ข่าวโซเชียล,ข่าวออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวภูมิภาค,ข่าวด่วน,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวสด,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ch7 news,เช้านี้ที่หมอชิต,ข่าวเช้า,ข่าวเช้าช่อง 7,เช้านี้ที่หมอชิตวันนี้,เช้านี้ที่หมอชิต ล่าสุด,เช้านี้ที่หมอชิต ช่อง7,TERO Digital

522 ครั้ง
|
09 ส.ค. 2566
เช้านี้ที่หมอชิต - ควันหลงการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องคนดัง เดินทางไป กกต. ยื่นหนังสือให้สอบ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานตอบสื่อ ไล่หนูตีงูเห่า แค่วาทกรรมหาเสียง ผิด มีโทษหนักอาจถึงจำคุกและถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง
 
เรืองไกร ร้อง กกต.สอบ ชลน่าน ปมหาเสียง ไล่หนูตีงูเห่า
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ทางไปรษณีย์แบบ EMS เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจกรณีที่ นายแพทย์ชลน่าน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวว่า ไล่หนูตีงูเห่า มันเป็นภาพของการรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง กิจกรรมแต่ละครั้งจัดบนวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ มิติทางการเมือง เราไปขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน เราไม่เคยประกาศว่าเราเป็นศัตรูกับใคร เราเป็นคู่แข่งกันจริง เทคนิคการหาเสียง วิธีการหาเสียง ต่างฝ่ายต่างมี อันนี้เรียนด้วยความเคารพว่า เราไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกัน
 
ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของ นายแพทย์ชลน่าน มีการลงข่าวอย่างแพร่หลายรวมทั้งคลิปวิดีโอด้วย จึงเป็นข้อเท็จจริงเพียงพอที่ควรจะขอให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบ ว่าการหาเสียงดังกล่าวเข้าข่ายกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนน ด้วยวิธีการหลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 73(5) ซึ่งอาจต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง รวมไปถึงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หากรู้เห็นเป็นใจด้วย
 
สว.ขวางนายกฯ เพื่อไทย
ไปดูท่าทีจากด่าน สว. บ้าง พบว่ายังดูเหมือนไม่ปลอดโปร่งราบรื่นอย่างที่คิด ดังเช่น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว. ยืนยันจะงดออกเสียง เพราะไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายเร่งด่วน ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีวาระซ่อนเร้น เพื่อช่วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ที่มีคดีทุจริตติดตัว ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ยกเว้นเพื่อไทยอยากจะช่วยเหลือนายทุนพรรคเท่านั้น
 
ส่วน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เองก็ดูเหมือนยังมีข้อกังขาในตัว นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า คุณเศรษฐา มีคุณสมบัติพอที่จะพิจารณาได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ไม่แตะมาตรา 112, ไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 - หมวด 2 หรือต้องดูนโยบายพรรค เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นภาษีที่ดิน จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมาธิการ เพื่อดูว่าเกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของกรรมาธิการหรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องก็จะส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
ศิธา โพสต์ดีลลับ 2 ลุง
ด้าน นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ตัวตึงจากไทยสร้างไทย ได้ออกมาโพสต์แสดงความเห็นภายหลังการแถลงจับขั้วใหม่ของเพื่อไทย โดยตั้งหัวเรื่องว่า เรื่องของลุง 2 คน… เนื้อหาโดยสรุป กล่าวถึง คนที่ 1 ลุงอยากกลับบ้าน กับคนที่ 2 ลุงอยากเป็นนายก ถ้าประชาชนปล่อยให้ 2 ลุง #ดีลลับ ต่างตอบแทนกันเอง ทั้งคู่จะ Happy Ending คน1ได้กลับบ้าน คน1อาจได้เป็นนายก นายทุน, นักการเมือง, เผด็จการ และผู้หากินจากการสูบเงินงบประมาณภาครัฐ ต่างสมประโยชน์ Happy กันถ้วนหน้า แต่ไทยพื้นบ้านอย่างพวกเรา ๆ รวมถึงลูกหลานไทยในอนาคต มีแต่เสียประโยชน์ ถ้าเราทำตัวเป็น #ไทยเฉย ปล่อยให้เป็นแบบที่กล่าวข้างต้น พวกเราจะต้องอยู่ใต้อำนาจ หรือการบงการของลุงกันต่อไป อาจเป็น 4 ปี 8 ปี 16 ปี ไม่มีใครทราบ จนในที่สุดประเทศไทยจะถูกสูบสิ่งดี ๆ จนไม่เหลืออะไรที่มีค่าเพียงพอ ที่จะส่งต่อให้ลูกหลานอีกต่อไป ทั้ง ๆ ที่รออีกไม่เกิน 10 เดือน สว. หมดวาระ พวกเราก็จะขุดรากถอนโคน ให้เผด็จการสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยกันได้อยู่แล้ว มันเหลืออีกแค่นิดเดียวจริง ๆ
 
จากนั้นจึงระบุว่า การสนับสนุนลุงให้ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ทำได้ด้วยการจับมือกันของ 2 พรรคใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย #เพื่อไทย และ #ก้าวไกล แพ็กกันเป็น 292 เสียง ผมจึงได้เสนอให้ทำ #AdvanceMOU 2 พรรคทำสัญญาจับมือกันให้แน่น จะเป็นเกราะเหล็กชนิดเดียว ที่จะป้องกันเผด็จการ ไม่ให้หวนกลับมาทำร้ายประเทศไทยได้อีก พวกเราต้องส่งสัญญาณถึงนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เหลืออีกนิดเดียว ประชาชนที่รักประชาธิปไตย เรากำลังจะชนะอยู่แล้ว ความอยากของนักการเมืองต้องไม่อยู่เหนือเจตนารมณ์ของประชาชน สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าว คือ ผมมีความเชื่อมั่นว่า อดีตนายกทักษิณจะกลับบ้านได้ ต้องกลับมาแบบที่ประชาชนสนับสนุนและชื่นชม แห่กันไปต้อนรับถึงสนามบิน ผมคนนึงที่อยากไปต้อนรับท่านด้วยความยินดีถึงที่ ไม่ใช่กลับมาด้วยกระบวนการที่ผู้บริหารเพื่อไทยกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน จนคนแห่กันไปโห่ขับไล่ แบบที่เกิดขึ้น ณ ที่ทำการพรรคฯ ในทุกวันนี้
 
ในวันเดียวกัน พรรคไทยสร้างไทย ต้นสังกัดของ นาวาตรี ศิธา ก็ได้ออกแถลงการณ์ โปรดฟังอีกครั้ง ยืนยัน ไม่สลับขั้ว-ไม่ย้ายฝั่ง ไม่เป็นนั่งร้านให้เผด็จการ โดยระบุว่า จะทำตามประกาศ 4 สัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้ก่อนเลือกตั้ง ได้แก่
 
1. ยุติการสืบทอดอำนาจของผู้กระทำการรัฐประหารอย่างเด็ดขาด โดยไม่สนับสนุน 2 ลุง และพรรค 2 ลุง ให้ได้บริหารประเทศอีกต่อไป
 
2. เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน โดยไม่แก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2
 
3. เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
 
4. ไม่แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ให้ตรวจสอบการบังคับใช้ ไม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อันอาจจะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสีย
 
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/vKIhLQbk9E4