ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จับตา พรรคเพื่อไทย เตรียมทาบทามพรรคต่าง ๆ ร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยวันนี้ได้มีความเห็นต่าง ๆ มาจากหลากหลายพรรค ทั้งพรรคตัวเต็งที่พร้อมเข้าร่วมอยู่แล้ว รวมถึงพรรค 2 ลุง อย่าง รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ
ชาติไทยพัฒนา พร้อมคุย เพื่อไทย ร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ยังคงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ภายหลัง พรรคเพื่อไทย ประกาศจับมือ พรรคภูมิใจไทย เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งช่วงนี้เป็นห้วงเวลาที่จะมีการทาบทามพรรคต่าง ๆ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มเติม เริ่มจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า การทาบทามเข้าร่วมรัฐบาลจะเป็นหน้าที่ของ พรรคเพื่อไทย โดยช่วงที่ผ่านมามีการพูดคุยไปแล้วระดับหนึ่ง และก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง คงจะมีการพูดคุยกันอีก โดยทางพรรคมีเงื่อนไขหลัก คือ ต้องไม่แตะเรื่องแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งตอนนี้มีสัญญาณที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ต้องการกระทรวงใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ทางพรรคได้เสียงมา 10 เสียง ซึ่งการพูดคุยจะคุยกันด้วยหลักเหตุผล และคงไม่มีการเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ แต่ต้องการให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง
รวมไทยสร้างชาติ แจงไม่มี บิ๊กตู่ เปิดทางร่วมรัฐบาล
ไปต่อกันที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับการทาบทามใด ๆ แต่หลังจากนี้อาจจะมีก็ได้
โดยช่วงเย็นจะมีการประชุมผู้บริหารพรรค ถ้ามีข้อสรุปในทิศทางใด ก็ต้องเป็นไปในนามพรรค แต่ถ้ามีสมาชิกคิดเป็นอย่างอื่น ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล
นายธนกร ยังกล่าวถึงเรื่องพรรค 2 ลุง ว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วย เพราะวันนี้ไม่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในพรรคแล้ว ฉะนั้นการพูดคุยไม่น่าจะข้ออ้างเรื่องพรรคลุงเข้ามาเกี่ยวข้อง
สุชาติ ปัดแยกตัวเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย
ส่วน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวลือเตรียมแยกตัวออกไปร่วมพรรคเพื่อไทย ว่าตอนนี้ยังคงอยู่กับพลังรวมไทยสร้างชาติ เช่นเดิม แม้จะมีทางออกหลายทาง เพราะมีสูตรคณิตศาสตร์เยอะ แต่อยู่ที่ว่าจะตกผลึกอย่างไร เพราะไม่ใช่เราอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสภาสูง ทั้ง สส.-สว.ด้วย
เมื่อถามย้ำว่าหาก พรรครวมไทยสร้างชาติ มีมติไม่เข้าร่วม พรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล นายสุชาติ ระบุว่า อยากให้รอดูวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้อง กรณียื่นญัตติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีซ้ำได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องรอดูทีละขั้นตอน
ถามว่าหากจำเป็นต้องยกมือให้เพื่อไทย พร้อมจะทำหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ความจริงแล้ว สส. และ สว. มีเอกสิทธิ์ของตนเอง แต่อยู่ที่มุมมองว่าหากไม่เคารพมติพรรค จะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองหรือไม่ แต่ถ้าเราใช้เอกสิทธิ์ของตัวเรา แล้วทำให้บ้านเมืองเกิดความเจริญ ก็ต้องคิดอีกมุมหนึ่งไว้ด้วย
โยน รวมไทยสร้างชาติ ตัดสินใจเอง ร่วมรัฐบาล
ด้านความเคลื่อนไหวของ พลเอกประยุทธ์ วันนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ โดย พลเอกประยุทธ์ ตอบคำถามด้วยรอยยิ้มว่า แล้วแต่ ๆ
เมื่อถูกถามว่าเสถียรภาพทางการเมืองดูเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ หลัง พรรคภูมิใจไทย จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ และตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย เพราะเป็นเรื่องระหว่างพรรคการเมืองที่ต้องเป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ
พลังประชารัฐ ยังไม่ถูกทาบร่วมรัฐบาล
ส่วน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามสั้น ๆ เรื่องพรรคเพื่อไทยชักชวนร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่มีการติดต่อมา เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการติดต่อมา จะไปร่วมรัฐบาลเลยหรือไม่ เพราะเงื่อนไขน่าจะไปด้วยกันได้ ทาง พลเอกประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวก็ต้องดูนะ
เล็งเสนอ ก้าวไกล โหวตสนับสนุน เพื่อไทย
มากันที่คำสัมภาษณ์ของ พลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า ภายในที่ประชุมวันนี้ ตนเองจะเสนอให้พรรคโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าทางพรรคเพื่อไทย จะทำตามสิ่งที่รับปาก ทั้งเรื่องไม่ดึงพรรค 2 ลุง เข้าร่วมรัฐบาล หรือการโหวตปิดสวิตช์ สว. และการโหวตดังกล่าว จะทำให้มีรัฐบาลช่วยแก้วิกฤตประเทศ
เมื่อถูกถามว่า แม้พรรคก้าวไกลจะโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายต้องเป็นฝ่ายค้าน
พลตำรวจตรีสุพิศาล บอกว่า เป็นหน้าที่ที่ชำนาญอยู่แล้ว ถ้าหากเป็นฝ่ายค้าน ก็จะเห็นพรรคก้าวไกล รุ่นที่ 4 โดยส่วนตัวไม่ได้โกรธพรรคเพื่อไทย เพราะเขาต้องหาทางออก และรอไม่ได้ถึง 9 เดือน รวมถึงวันหนึ่งอาจหวนกลับมาร่วมมือกันอีก
สว.สมเจตน์ ยันไม่โหวตให้เพื่อไทย
ขณะที่ความเห็นของบรรดา สว. เริ่มจาก พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม สว.ยืนยันว่า ในการโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตนเองจะงดออกเสียง เพราะไม่สนับสนุน พรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายเร่งด่วน ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร. เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีวาระซ่อนเร้น เพื่อช่วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ที่มีคดีทุจริตติดตัว ซึ่งประเด็นดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ยกเว้นเพื่อไทยอยากจะช่วยเหลือนายทุนพรรคเท่านั้น
สว.เสรี พร้อมตรวจสอบ เศรษฐา ปมภาษีที่ดิน
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง กล่าวถึงเรื่องคุณสมบัติ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยว่า ชื่อของ นายเศรษฐา มีคุณสมบัติพอที่จะพิจารณาได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ไม่แตะมาตรา 112 ไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 หรือต้องดูนโยบายพรรค เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นภาษีที่ดิน จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมาธิการ เพื่อดูว่าเกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของกรรมาธิการหรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องก็จะส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดรามา เศรษฐา ทวิตแซว สส.หญิง
สำหรับ นายเศรษฐา ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร มักจะกลายเป็นประเด็นดรามาเสมอ ล่าสุดเจ้าตัวเข้าไปทวิตแซวในทวิตเตอร์ของ สส.ยิ้ม วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดย นายเศรษฐา เขียนข้อความแซวว่า แต่วันนี้คุณ สส.ยิ้ม เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว พูดน้อยไปนิด คราวหน้าขอความคิดเห็นเยอะหน่อยนะครับ”
หลังข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ สมาชิกโซเชียลเข้ามารุมโจมตีทันทีจน นายเศรษฐา ต้องทวิตขอโทษว่า ขอโทษ คุณยิ้ม ด้วยครับ ไม่ได้จะบอกว่าไม่มีความสามารถในการพูด แต่อย่างที่รู้กัน ที่ประชุมมี สส.หลายท่านอยากพูดเยอะ คุณยิ้ม เลยไม่ได้พูด ผมไม่ควรไปแซวลักษณะนั้น และจะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
ตร.ออกหมายเรียกผู้ชุมนุมม็อบทะลุวัง
พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยถึงกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุวัง ทำกิจกรรมบริเวณหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการพ่นสีสเปรย์บนทางเท้า จุดพลุสี และทำลายทรัพย์สินทางราชการว่า ล่าสุดคดีนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ออกหมายเรียกกลุ่มทะลุวัง ทั้งหมด 18 คน นำโดย นางสาวเนติพร หรือ บุ้ง,น.ส.ทานตะวัน หรือตะวัน และ หยก ธนลภย์
ทั้งหมดมีความผิด ฐานร่วมกันบุกรุก ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ความผิดตามคำสั่ง คสช. กรณีห้ามมิให้ผู้ใดจุดพลุ เว้นแต่ได้รับอนุญาตความผิดตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ และความผิดตาม พรบ.รักษาความสะอาด
ชี้ปมปัญหา ก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรว่าตอนนี้ต้องรอดูความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะผู้นำฝ่ายค้าน ต้องมาจากพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และต้องเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในฝ่ายค้าน
โดยรัฐธรรมนูญระบุว่า ห้ามไม่ให้ สส.ในพรรค มีสมาชิกดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ประธานสภา และรองประธานสภา แม้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน จึงยังแต่งตั้งไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า หาก นายปดิพัทธ์ ยังเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะทำให้พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะขัดแย้งรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น นายปดิพัทธ์ ต้องลาออกจากรองประธานสภาฯ เช่นเดียวกับ นายพิธา ต้องหลุดจาก สส.แล้วก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค จะทำให้ พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้
ชี้ปมปัญหา ก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎรว่า ตอนนี้ต้องรอดูความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะผู้นำฝ่ายค้าน ต้องมาจากพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และต้องเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในฝ่ายค้าน
โดยรัฐธรรมนูญระบุว่า ห้ามไม่ให้ สส.ในพรรค มีสมาชิกดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ประธานสภา และรองประธานสภา แม้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน จึงยังแต่งตั้งไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า หาก นายปดิพัทธ์ ยังเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะทำให้พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะขัดแย้งรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น นายปดิพัทธ์ ต้องลาออกจากรองประธานสภาฯ เช่นเดียวกับ นายพิธา ต้องหลุดจาก สส.แล้วก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค จะทำให้ พรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35