แฉเพื่อชาติ ! “ชูวิทย์” ชำแหละ “เศรษฐา” เลี่ยงภาษี 521 ล้านบาท

253 ครั้ง

04 ส.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เช้านี้ที่หมอชิต - ถ้าแค่ 4 เลื่อนยังสะเทือนเพื่อไทยไม่พอ มาต่อกันด้วยคดีสกัดดาวรุ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตหมายเลขหนึ่งจากพรรคเพื่อไทย ที่ถูก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดปฏิบัติการแฉเพื่อชาติ เปิดหลักฐานละเอียดยิบ อ้างทำนิติกรรมอำพราง สมรู้ร่วมคิดคนขายที่ดินทำเลทองย่านสารสิน ใช้สูตรโอน 12 คน 12 วัน เพื่อเปลี่ยนจากการโอนโดยคณะบุคคลจบใน 1 วัน เป็นโอนโดยบุคคลธรรมดา 12 วัน เพื่อเลี่ยงภาษี 521 ล้าน

เมื่อวานนี้ คนเดียวที่ไม่เลื่อน เป็นคนเดียวที่มาตามนัด คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดแถลงข่าว แฉเพื่อชาติ EP 1 12 คน 12 วัน ว่าด้วยการทำธุรกรรมอำพรางในการซื้อที่ดินของ บริษัท แสนสิริ ในช่วงที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้บริหาร โดยระบุว่าจะมีทั้งหมด 10 EP ก่อนเข้าสู่รายละเอียด

นายชูวิทย์ แถลงรายละเอียดว่า ที่ดินแปลงนี้อยู่ในถนนสารสิน ตารางวาละ 4,000,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดินแพงที่สุดในไทย เป็นที่ดินแปลงเดียว โฉนดหมายเลขเดียวกันคือ 16515 เนื้อที่ 1 ไร่ หรือ 399.7 ตารางวา

ประเด็นก็คือ ที่ดินนี้เป็นโฉนดที่ดินแปลงเดียว ในชื่อ 12 คน คือ นางประไพ และลูกหลาน ในการซื้อขายจึงเรียกว่าเป็นคณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ต้องจ่ายภาษีให้ทั้งกรมที่ดิน 59.2 ล้านบาท และภาษีสรรพสามิต อัตราก้าวหน้า 35 จำนวน 521 ล้านบาท

แต่ในการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ กลับใช้วิธีแยกที่ดินเป็นของ 12 คน แยกโอนเป็น 12 วันติดต่อกัน หรือ 1 วันต่อ 1 คน จึงไม่เข้าข่ายเป็นคณะบุคคล แต่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งกรณีนี้จะจ่ายเพียงภาษีให้กรมที่ดิน 59.2 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต 521 ล้านบาท จึงถือเป็นนิติกรรมอำพราง ทำให้รัฐไม่ได้ภาษี

นายชูวิทย์ ยังระบุด้วยว่า จะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ซื้อในนามบริษัทแสนสิริไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องของผู้ขายเสนอวิธีการขายแบบเลี่ยงภาษี เพราะในที่สุดผู้ซื้อก็ยังซื้อที่ดินนี้ในปี 2562 ราคาตารางวาละ 4,000,000 บาท ขณะที่ราคาประเมินในเวลานั้น 1,000,000 ต่อตารางวา ไม่มีทางขายได้ถึง 4,000,000 บาท ถือเป็นการสมรู้ร่วมคิด ส่วนความเกี่ยวข้องกับนายเศรษฐา คือ ในขณะนั้นเป็นกรรมการผู้จัดการ บมจ.แสนสิริ ซื้อที่ดินมาแล้วทั่วประเทศ จะบอกว่าไม่รู้ว่าเขาโอนวิธีนี้ได้อย่างไร

นอกจากนี้ รายการประชุม วันที่ 14 สิงหาคม 2562 ก็มีลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง เป็นรายงานการประชุมวันเดียว ฉบับเดียว แต่แตกออกเป็น 12 วัน 12 คน บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ หากทำแบบนี้ถือว่าไม่มีธรรมาภิบาล การโอน 12 คน ใน 12 วัน ในเวลาติด ๆ กัน โกงทุกวันติดต่อกัน แสดงว่ามีการแบ่งอะไรกัน ซึ่งพบว่ามีการจ่ายมัดจำและเงินสดสูงผิดสังเกตด้วย

ทั้งนี้ คุณชูวิทย์ ยังได้เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ด้วยถาดพิซซ่า 12 ชิ้น บอกว่า 1 ชิ้น ราคาเท่านี้ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าวันพรุ่งนี้ เขาจะขายที่เหลือให้ หรือจะให้ในราคาเดิม ยิ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อที่ดินแบบนี้ มีหวังผู้ถือหุ้นตกใจกันหมด

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า เรื่องแค่นี้ยังจงใจเลี่ยงภาษี แล้วถ้าเป็นนายกฯ จะไม่ช่วยนายทุนเลี่ยงภาษีหรือ 12 กรรม 12 วัน 12 วาระ ถือว่านายเศรษฐา เป็นตัวการและกระทำผิดตามมาตรา 86 ประมวลกฎหมายร่วมสมคบคิดกระทำผิดด้วย และถ้ามาเป็นนายกฯ ก็บ้าไปแล้ว

ขณะที่ทาง บมจ.แสนสิริ ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ตั้งแต่เช้า ก่อนการแถลงของนายชูวิทย์เสียอีก ใจความสำคัญระบุว่า สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงดังกล่าว บริษัทไม่ได้รับรู้ หรือเกี่ยวข้องใด ๆ ในการดำเนินการทางภาษีของผู้ขาย ตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง และไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากการประหยัดภาษี และค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ขาย

ส่วน นายเศรษฐา เมื่อครั้งเป็นผู้บริหารสูงสุดและกรรมการแสนสิริ จะมีส่วนร่วมเฉพาะการอนุมัติราคา และมูลค่าเงินลงทุนเท่านั้น การทำสัญญา ชำระราคา และการโอนฯ เป็นหน้าที่ของทีมสรรหาที่ดินทั้งหมด

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35