ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ยังคงมีให้เห็นอยู่เป็นประจำสำหรับข่าววิวาทกันบนท้องถนน อย่างข่าวนี้ก็เช่นกัน หนุ่มไรเดอร์ขับรถไปส่งของระหว่างทางถูกรถแท็กซี่ปาดหน้า จึงบีบแตรไป 1 ที ทำให้โชเฟอร์แท็กซี่ไม่พอใจ คว้ามีดไล่ฟันนิ้วเกือบขาด แล้วหลบหนีไป ล่าสุดตำรวจกำลังตามไล่ล่าโชเฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าวมาดำเนินคดีแล้ว
จากกรณีที่หนุ่มไรเดอร์โพสต์รูป ร่องรอยบาดแผลที่มือพร้อมกับ ร่องรอยความเสียหายของรถจักรยานยนต์ พร้อมระบุข้อความ ขอความช่วยเหลือจาก เพจสายไหมต้องรอด ว่า ผมขับไรเดอร์ กำลังขับรถกลับบ้านตอน 22.00 น. ถูกแท็กซี่เขียว-เหลือง ขับรถปาดหน้า โดยไม่เปิดไฟเลี้ยวรถผมเกือบคว่ำ จึงได้บีบแตรเขาไม่พอใจจอดรถกลางถนนลงมาด่าผม ทำให้มีปากเสียงกัน ก่อนคนขับแท็กซี่จะขับรถไปดักผมกลางถนนและเอามีดมาไล่แทงผมโดนที่นิ้วโป้งเกือบขาดและขับรถหลบหนีไป ผมจึงขับรถในสภาพมือเดียวตามไป เกือบ 20 กิโลเมตร แต่ไปต่อไม่ไหวเพราะเลือดออกเป็นจำนวนมาก จึงขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่ตั้งด่านบนถนนศรีนครินทร์ นำส่งไปโรงพยาบาล เหตุเกิดในซอยทองหล่อ แท็กซี่แบบนี้อันตรายมากครับเป็นภัยต่อสังคมจึงอยากขอให้เพจสายไหมช่วยด้วยครับ
โดยนายสิรวัช ภัควรรณ์ หนุ่มไรเดอร์ผู้เสียหาย เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลา 21.30 น. ของคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองอยู่ระหว่างการวิ่งรับออเดอร์ส่งออเดอร์ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าจากแยกพระโขนงไปยังบริเวณแยกเอกมัยก็พบกับทางคู่กรณีที่เป็นรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ป้ายทะเบียนจังหวัดกรุงเทพ และทางคู่กรณีมีการขับรถปาดหน้าตนเองโดยไม่ได้มีการเปิดไฟเลี้ยว ตนเองจึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ทำให้คู่กรณีเกิดความไม่พอใจจอดรถขวางกลางถนนและลงมามีปากเสียงกันเล็กน้อย ตนเองจึงได้บอกให้ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานและตนเองก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จนมาถึงช่วงบริเวณประมาณหน้าขนส่งเอกมัย รถแท็กซี่คันคู่กรณีก็ได้มีการขับรถมาดักด้านหน้ารถตนเอง แล้วลงมาจากรถมาหาตนเอง พร้อมถืออาวุธมีดพับ ขนาดประมาณ 2 นิ้วลงมาด้วย ขณะนั้นตนเองยังคงคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ จากนั้นโชเฟอร์รถแท็กซี่ได้ใช้มีดแทงเข้าบริเวณท้องตนเอง แต่ตนเองใช้มือรับเอาไว้ และซ้ำที่บริเวณช่วงคอ ตนเองก็ใช้มือรับไว้เช่นกัน ทำให้นิ้วโป้ง มือด้านซ้ายถูกคมมีดบาดเกือบจะขาด ก่อนที่คู่กรณีจะขึ้นรถหลบหนีไป ตนเองจึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม
โดยคู่กรณีได้วิ่งหลบหนีไปในทิศทางถนนศรีนครินทร์ ตนเองขับขี่รถติดตามอยู่ด้วยมือเพียงข้างเดียวเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตรก่อนจะพบว่ามีด่านจราจรที่เป็นลักษณะด่านตรวจเมา ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานไหน จึงเข้าขอความช่วยเหลือเพื่อให้สกัดกั้นและติดตามรถแท็กซี่ที่ตนเองพยายามมติดตามอยู่ เพราะขนาดนั้นยอมรับว่าตนเองกำลังจะเป็นลมเพราะเสียเลือดเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ในด่านกลับบอกให้ตนเองขับขี่ติดตามไปด้วยตัวเอง แต่เมื่อตนเองบอกว่าไม่สามารถติดตามได้เพราะกำลังจะเป็นลม เจ้าที่กลับถามถึงป้ายทะเบียนของรถแท็กซี่ว่าจำได้หรือไม่ เมื่อตนเองบอกเจ้าหน้าที่กลับบอกให้ตนเองไปแจ้งความ โดยไม่มีการติดตามหรือสกัดกั้นทางวิทยุแต่อย่างใด แต่ยังคงมีตำรวจนายหนึ่งชื่อดาบกล้วยที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือดูแลเรื่องอาการบาดเจ็บของตนเองและเรียกรถพยาบาลมาให้การช่วยเหลือ ตนเองยืนยันว่า ไม่ได้มีการขับขี่รถตัดหน้าคู่กรณีก่อนเป็นแค่เรื่องบีบแตรจริง ๆ เท่าที่สังเกตโชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคนเมา หรือใช้สารเสพติด เพราะมีอาการคล้ายแบบนั้นเลย
ขณะนี้ตนเองยังไม่สามารถเดินทางไปแจ้งความได้เพราะแพทย์ให้ตนเองเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลอีก 3 วัน เนื่องจากต้องรอการผ่าตัดต่อเส้นเอ็นที่นิ้ว เพราะเส้นเอ็นที่ถูกคมมีดบาดมีการฉีกขาด และแพทย์ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะสามารถต่อเส้นเอ็นดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะหากไม่สามารถต่อเส้นเอ็นได้แพทย์จะต้องตัดนิ้วทิ้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับตนเอง
ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ระบุว่า พฤติกรรมของผู้ขับขี่รถแท็กซี่รายนี้ถือเป็นภัยต่อสังคมรวมถึงเป็นภัยต่อผู้โดยสาร เพราะพฤติการณ์ในการพกพาอาวุธมีดไปในเมืองแบบนี้ ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะก่อเหตุกับใครหรือไม่ ตอนนี้ตนเองได้ประสานไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อให้ช่วยติดตามผู้กระทำความผิดรายนี้มาดำเนินคดีแล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม