เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากที่พรรคเพื่อไทย แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าถอนตัวจากการร่วมมือกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พอเป็นแบบนี้ ทางด้าน สว.ตัวตึงที่ไม่เอาพรรคก้าวไกล ก็แสดงท่าทีชัดเจนเช่นกันว่า พร้อมโหวตให้แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ
โดยสาระสำคัญที่พรรคเพื่อไทยแถลง ระบุชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วมอย่างแน่นอน เรื่องนี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ที่มีท่าทีชัดเจนมาตลอดว่า ไม่เอาพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิตว่า ฟังจากเนื้อหาสาระที่พรรคเพื่อไทยแถลงมา ก็มีเหตุผลเพียงพอที่ตนเองจะโหวตให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนที่บอกว่านี่เป็นการฉีก MOU จริงหรือไม่ วันที่ 4 สิงหาคมนี้ ก็คงจะมีสมาชิกวุฒิสภาหลายคนอภิปรายในเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวนั้นโหวตให้พรรคเพื่อไทยแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สว.กิตติศักดิ์ เคยพูดว่านายกฯ จะไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจ
ในขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา บอกว่า ข้อแรกคงจะต้องรอดูว่า ในการจะร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำ จะสามารถหาเสียงจากพรรคการเมืองได้ถึง 250 เสียงหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องความมีเสถียรภาพของรัฐบาล
ข้อที่สอง ต้องดูกันจนถึงที่สุดว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอใคร คนที่เสนอชื่อมาจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ และพิจารณาว่านโยบายที่นำเสนอไว้จะทำได้จริงหรือไม่ เช่น นโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ข้อที่สาม คือ ในส่วนของมาตรา 112 ที่เพื่อไทยบอกว่าจะไม่แก้ รวมทั้งประเด็นที่พรรคเพื่อไทย บอกว่า จะไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องบอกให้ชัดว่าจะไม่แก้มาตรา 1 และมาตรา 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันและความมั่นคงของประเทศ เรื่องเหล่านี้ต้องแถลงให้ชัดเจนในสภา เพื่อสมาชิกจะได้พิจารณากันได้
สว.เสรี ยังบอกอีกว่า คนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศ ต้องรักษาคำพูด หากหลังจากแต่งตั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว พรรคเพื่อไทยไปดึงพรรคก้าวไกลกลับมาร่วมรัฐบาลอีก เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะต้องรับผิดชอบกับคำพูดของตนเองด้วย
ด้าน นายวันชัย สอนศิริ หนึ่งใน 13 สว. ที่ออกเสียงเห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน โดยส่วนตัวนั้นจะโหวตให้แน่นอน เพราะมีจุดยืนชัดเจนมาตลอดว่าจะโหวตให้กับพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ และเชื่อว่าครั้งนี้เสียงเห็นชอบจาก สว. อาจจะมากขึ้นด้วย เมื่อเปลี่ยนแกนนำมาเป็นพรรคเพื่อไทย หากไม่มีเรื่องมาตรา 112 หรือพรรคก้าวไกล สว.ก็คงไม่มีปัญหา
ทางด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ในส่วนของ สว.มีการผนึกกำลังกันเหนียวแน่น เพื่อกดดันการโหวตนายก ด้วยการทำ CG ส่งทางไลน์กลุ่มถึง สว. 13 คน ที่เคยโหวตเลือกพิธา เป็นนายกคนที่ 30 อ้างว่าเป็นคำพูดของอดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่ง CG ดังกล่าวมีรูปของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 60 พร้อมข้อความว่า ท่านต้องรักษาชาติ ไม่ใช่ประชาธิปไตย ชาติต้องมาก่อน ถ้าสิ้นชาติแล้ว ประชาธิปไตย ก็ไม่มีความหมาย
ซึ่งคุณศิธา ระบุว่า ถ้าเป็นคำพูดอาจารย์มีชัย จริง เท่ากับเป็นประธานร่างรัฐธรรมนูญ แต่กลับมาด้อยค่าประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ แต่ถ้าไม่จริง การที่ สว.อ้างถ้อยคำอันเป็นเท็จ ส่งกันในไลน์กลุ่ม เพื่อสกัดประชาธิปไตยไม่ให้เดินหน้า ก็เป็นเรื่องใหญ่อีกเช่นกัน
ทั้งหมดนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตากันว่า โฉมหน้าพรรคร่วมรัฐบาลใหม่จะออกมาเป็นเช่นไร และใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย วันที่ 4 สิงหาคมนี้ รู้กัน
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม