ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับ สองสามีภรรยา เจ้าของโกดังเก็บพลุมรณะ ซึ่งเกิดระเบิดขึ้น จนสร้างความสูญเสียรุนแรง หลังยังไม่เข้าพบตามนัด
ไร้เงา สามีภรรยา เจ้าของโกดังพลุมรณะมอบตัว จ.นราธิวาส
ความคืบหน้าเหตุโศกนาฏกรรม โกดังพลุระเบิด ในพื้นที่ตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้เสียชีวิตนับสิบคน และบาดเจ็บเป็นร้อยคน ซึ่งจุดเกิดเหตุ นอกจากซากปรักหักพังของบ้านเรือนแล้ว ยังพบหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุม โดยภายในหลุมมีดินประสิว และดินดำ จำนวนมาก ที่มีปริมาณมากถึง 5 ตัน หรือ ราว 5,000 กิโลกรัม
ขณะที่ พลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการคำนวนว่า ความรุนแรงจากการระเบิดครั้งนี้ น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป และคาดว่า มีการเก็บดอกไม้ไฟไว้ในโกดัง มากถึง 3-5 ตัน
ส่วนวันนี้ (1 ส.ค.) ตำรวจกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานแวดล้อม ทราบว่า วันเกิดเหตุมีคนงานกำลังเชื่อมเหล็ก เพื่อทำเป็นชั้นวางของ จากนั้นได้เกิดประกายไฟกระเด็นใส่ภายในโกดังเก็บประทัด ที่คาดว่า เป็นสาเหตุให้เกิดระเบิดขึ้น
ด้านความเคลื่อนไหวของ นายสมปอง และ นางสาวปิยะนุช สองสามีภรรยาเจ้าของโกดังที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกตำรวจออกหมายเรียก เลื่อนขอเข้าพบพนักงานสอบสวน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย กลับไร้เงาทั้งคู่เข้าพบตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้ หากยังไม่เข้าพบเจ้าหน้าที่อีก จะมีการยื่นศาลขอออกหมายจับทันที
โดยมีรายงานว่า ทั้งคู่เดินทางออกจากไทย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เพื่อไปเที่ยวที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ก่อนโกดังจะเกิดระเบิดขึ้น ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ซึ่งตอนนี้มีกระแสข่าวว่า ทั้ง 2 คน ได้เดินกลับเข้าประเทศไทยแล้ว แต่อยู่ระหว่างหารือทนายความ ก่อนเข้าพบตำรวจ
จากโกดังพลุมรณะ สู่ขบวนการลักลอบค้าประทัด
ทีมข่าว 7HD ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง จนได้รับข้อมูลว่า เมื่อปี 2559 เจ้าหน้าที่เคยสนธิกำลังจับกุมเจ้าของโกดังรายนี้มาแล้ว หลังพบว่า มีการลักลอบนำประทัด และดอกไม้เพลิง ซุกซ่อนไว้ในโกดังแห่งแรก ที่อยู่ติดกับแม่น้ำโก-ลก ครั้งนั้นยึดของกลางน้ำหนักมากกว่า 60 ตัน โดยของกลางจะถูกลำเลียงมาจากประเทศจีน และส่งต่อมายังพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่เคยถูกจับกุม เพื่อนำไปเก็บรอลักลอบขายในประเทศมาเลเซีย
โดยการจับกุมครั้งนั้น เป็นการนำเข้าโดยมิชอบ ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารที่เจ้าของนำมาสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ ไม่มีเอกสารฉบับจริง แต่เป็นสำเนาทั้งหมด รวมทั้งวันและเวลานำเข้า ก็ไม่ตรงข้อเท็จจริง แต่ปรากฎว่า มีการนำเอกสารหลักฐานไปแก้ข้อกล่าวหาในชั้นอัยการ จนอัยการสั่งไม่ฟ้อง
นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการแกะเอาดินเทา หรือ ดินดำ ออกไป ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ส่วนแนวทางการสืบสวนของตำรวจ พบข้อมูลว่า เจ้าของโกดังรายนี้ เชื่อมโยงกับเจ้าของโกดังเก็บประทัดในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่เมื่อมีพฤติกรรมลักลอบส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องตรวจสอบว่า เข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่
จี้เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เหตุโกดังพลุระเบิด
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปล่อยให้โกดังพลุขนาด 5 ตัน ตั้งอยู่กลางชุมชนขนาดใหญ่ได้อย่างไร โดยไม่รู้เรื่องเลย จึงขอตั้งคำถามว่า เงินมันไปบังตาใครหรือไม่
และที่สำคัญคือ เจ้าของโกดังรายนี้ เคยถูกจับกุมมาแล้วเมื่อปี 2559 ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ และฝ่ายปกครอง จะบอกว่าไม่รู้ว่า มีโกดังเก็บพลุตั้งอยู่ใจกลางชุมชนไม่ได้ ทุกคนรู้ดีว่า พื้นที่มูโนะ มีธุรกิจสีเทาชุกชุม และมีระบบส่วยเยอะ จึงขอถามไปยัง ผบ.ตร. ว่า จะปล่อยให้ จ่า ฟ. เป็นแม่บ้านเก็บส่วยส่งนาย โดยที่ไม่ทำอะไรเลยหรืออย่างไร และบทสรุปเรื่องนี้ จะจับแค่เจ้าของโกดังไม่ได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35