พรรคเพื่อไทย เตรียมดัน “เศรษฐา” ชิงนายกฯ นัดถก 8 พรรคร่วมฯ 2 ส.ค. นี้

258 ครั้ง

01 ส.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

เช้านี้ที่หมอชิต - การเมืองไทยยังอยู่ในช่วงหยุดยาว 6 วัน ประกอบกับเลื่อนวันประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกฯ เป็นวันที่ 4 สิงหาคม ทำให้พรรคเพื่อไทย ที่รับไม้ต่อจัดตั้งรัฐบาลจากก้าวไกล มีโอกาสหายใจหายคอ ไม่ว่าเจรจาจัดสูตรตั้งรัฐบาล หรือขยับปรับจังหวะทางการเมืองไม่ให้เพลี่ยงพล้ำในชั่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ได้มีนัดหมายออกมาแล้วว่าจะหารือ 8 พรรคร่วมกันวันไหน

นัด 2 ส.ค. ถก 8 พรรคร่วมดัน เศรษฐา ชิงนายกฯ

ความคืบหน้าการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่เลื่อนมาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เมื่อวานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะนัดประชุมกันในวันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากวันที่ 1 สิงหาคม ยังเป็นวันหยุด หลายคนอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกมาร่วมประชุม

จากการพูดคุยกับทั้ง สว. และ สส. จากพรรคการเมืองต่าง ๆ แสดงความเห็นตรงกันว่า พร้อมยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมจัดตั้งรัฐบาล เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญ และคงต้องนำไปหารือกันในที่ประชุม 8 พรรคร่วม จากนั้นพรรคเพื่อไทยจะนัดประชุม สส. วันที่ 3 สิงหาคมนี้ ที่รัฐสภา ก่อนจะโหวตผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ วันที่ 4 สิงหาคม

มีรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมแจ้งต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า การโหวตนายกฯ จำเป็นต้องดึงเสียง สส. จากพรรคขั้วตรงข้าม เพื่อให้เสียงเกิน 375 เสียง แต่ยืนยันว่าจะรับฟังเสียงของประชาชน ลดการต่อต้าน ด้วยการไม่มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะนำข้อเรียกร้องของ สว. และพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะโหวตนายกฯ ให้ แต่ไม่ยอมรับพรรคก้าวไกล ให้ที่ประชุม 8 พรรคร่วมตัดสินใจ ทั้งนี้ มีรายงานว่า รายชื่อที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอโหวตเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 สิงหาคม คือ นายเศรษฐา ทวีสิน

ส่วนสูตรจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย ที่มีการวิเคราะห์ คาดการณ์กันมากพอสมควร ในเงื่อนไขที่พรรคเพื่อไทยต้องแก้โจทย์คือต้องไม่มีเรื่องแก้มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล ในขณะที่พรรคก้าวไกล ก็มีจุดยืนในรัฐบาลต้องไม่มีพรรคลุงมาร่วมด้วย

สูตรที่ถูกพูดมากที่สุดสูตรหนึ่งในตอนนี้ จึงเป็นสูตรที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และพรรคก้าวไกลเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ช่วยโหวตนายกฯ ให้เพื่อไทย โดยมีพรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง รวมกันเป็น 256 เสียง ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ แต่เสียงถือว่าเกินครึ่งไม่มาก อาจต้องดึงพรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และพรรคเล็กพรรคน้อยเข้ามาเติม เป็น 272 เสียง

ส่วนพรรคก้าวไกล 149 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง รวมแล้ว 228 เสียง เป็นฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ประมาณ 12.00 น. เมื่อวาน นายภูมิธรรม ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เพียงสั้น ๆ ระบุว่า ข่าวลือ ออกมามากเหลือเกินขณะนี้.... ฟังหู ไว้หู..โปรดใช้วิจารณญาณ...

นพดล ไม่ยืนยันสูตรจัดตั้งรัฐบาล ชี้ต้องรอความชัดเจนหลังประชุม 8 พรรค

อีกคนหนึ่งที่ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้ซึ่งให้ข้อมูลสอดคล้องกัน คือ นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก ทุกอย่างยังสับสน จะชัดเจนหลังมีการประชุม 8 พรรคร่วม แล้วเท่านั้น

นอกจากนี้ คุณนพดล ทีมข่าวยังได้ถามเกี่ยวกับกำหนดการกลับบ้านของคุณทักษิณด้วย ว่ายังยืนยันกำหนดเดิม 10 สิงหาคม หรือไม่ ไปฟังคำตอบ.ในเรื่องนี้กันหน่อย

ชูวิทย์ โชว์สูตรใหม่ตั้งรัฐบาล หักหลังถ้วนหน้า

ไปต่อกันที่ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปลี่ยนสูตรอีกแล้ว ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ โพสต์สูตรใหม่ตั้งรัฐบาล

คุณชูวิทย์บอกว่า สูตรนี้คนปรุงคือเพื่อไทย เสมือนยาน้ำที่ต้อง เขย่าก่อนกิน แต่ดันไม่อ่านฉลากข้างขวดยาให้ดีเสียก่อน เพราะสูตรยามีส่วนผสม สารอันตราย ที่เดินสายสลายขั้วเจรจาผสมสูตรใต้ดินจนตกผลึกสัดส่วนได้ที่ มีส่วนผสม ดังนี้

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ชาติพัฒนากล้า เสรีรวมไทย และพรรคเล็ก รวมแล้วได้ 264 เสียง เป็นสูตรคล้ายกับที่มีข่าวลือออกมาตลอดทั้งวัน จะถูกนำเสนอในวันที่ 2 และวันที่ 4 โหวตเศรษฐาเป็นนายกฯ คนที่กินล้วนออกอาการ หลังหัก ทันที เพราะต้องฉีก MOU เก่า บรรดาพรรคที่ขึ้นไปไขว้มือวันประกาศจับขั้วกลายเป็นถูกหักหลัง เพื่อไทยแยกกับก้าวไกล แล้วไปอยู่กับภูมิใจไทยผูกติดกันกลายเป็น ข้าวต้มมัด คู่ใหม่ โดยให้ก้าวไกลเป็น ฝ่ายค้าน ล้านเปอร์เซ็นต์ สมเจตนารมณ์นายทุนใหญ่

ส่วน 2 พรรคลุง พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เป็น ฝ่ายค้าน ถูกหักหลังดังเป๊าะ ได้ไปอยู่ร่วมกันเป็นฝ่ายค้านกับก้าวไกล 228 เสียง กลายเป็นฝ่ายค้านที่อ่อนแอ เพราะเป็น 2 กลุ่ม ค้านกันเอง ที่ไปกันไม่ได้ แต่ต้องไปอยู่ด้วยกัน ถูกหักหลังกลางทาง จึงไม่มีความแข็งแกร่งพอจะไปทำอะไรรัฐบาลในอนาคตได้

นอกจากนี้ สูตรนี้จะเป็นการหักหลัง สว. ปิดสวิตช์อัตโนมัติ เพราะเสียงเกินแล้ว เนื่องจากจะได้ก้าวไกลช่วยอีก 151 เสียง รวมเป็น 415 เสียง ไม่ต้องง้อ สว. แต่ที่หนักสุด คือ หักหลังประชาชนที่ลงคะแนน 26 ล้านเสียง ให้ฝั่งประชาธิปไตย ดังนั้น ขืนมีใครกินเข้าไปก็เสี่ยงเต็มทน เพราะหลังหักหมด ยาสูตรนี้กำลังโพรโมตโฆษณาอยู่ทั่วไป แต่มีฉลากติดไว้ข้างขวดว่า ยาอันตราย หากกินเข้าไปจะเกิดอาการเจ็บหลัง ลำไส้ปั่นป่วน และอาจทำให้คนเดินทางไกลไม่ได้กลับบ้านด้วย

ขอบคุณภาพจาก : Facebook ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์

พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35