สาวซวยซ้ำซวยซ้อน หลังถูก ชายอ้างเป็นพลเมืองดี แต่กลับลวนลาม จนต้องปีนหนีเข้าบ้านคนอื่น จนถูกแจ้งความบุกรุกเคหสถาน ซ้ำหนักตำรวจเจ้าของคดีกลับมาไถเงิน 1 แสนบาท แถมขอให้ไปเป็นเมียน้อย แลกกับการช่วยเหลือคดี !
วันที่ 1 ส.ค. 66 กิ๊ฟ ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 65 ตนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ขากลับได้ขับมอเตอร์ไซค์กลับ แต่ซวยเพราะน้ำมันหมด ทว่ามีชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นพลเมืองดี หวังเข้ามาช่วย แต่เขาขอเข้าไปเอาแกลลอนน้ำมันที่บ้าน ด้วยความที่บริเวณนั้นเปลี่ยวตนเลยตัดสินใจไปกับเขาดีกว่า คิดว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่า แต่เมื่อไปถึงบ้านของชายคนดังกล่าวเขาได้เอาน้ำมาให้ตนกิน และสักพักเขาก็เข้ามาลวนลามตน ซึ่งตนก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะกลัวจะเป็นอันตราย จากนั้นตนได้ออกอุบายว่าขอไปเข้าห้องน้ำ แล้วตนก็ชิ่งหนีออกจากบ้านเขาทันที
แล้วตนก็ได้ไปหลบที่พุ่มไม้ถัดจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตร ส่วนชายคนดังกล่าวก็ได้ขับรถผ่านไปไม่เห็นตน ในตอนนั้นตนคิดว่าต้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น เพราะเกรงว่าถ้าชายคนดังกล่าววนกลับมาเจอ เขาจะมาทำร้ายตน จึงตัดสินใจปีนบ้านในละแวกนั้นไปเคาะประตูขอความช่วยเหลือ ในจังหวะนั้นตนกลับรู้สึกเบลอไม่รู้สึกอะไรเลย มารู้ตัวอีกทีก็ถูกตำรวจคุมตัวที่โรงพักแล้ว ทั้งนี้ตนยืนยันได้ว่าตอนแรกตนมีสติดี ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะน้ำที่ชายคนนั้นเอาให้ตนกินหรือไม่
เช้าวันถัดมา เจ้าของบ้านได้เข้ามาคุยกับตน เขาถึงรู้ว่าตนหนีตายไปหวังพึ่งเขา เขาจึงไม่เอาเรื่อง แต่นายตำรวจเจ้าของคดีบอกว่าคดีบุกรุกเคหสถานมันไม่สามารถยอมความได้ หลังจากตนประกันตัวออกมาได้ 2 วัน นายตำรวจคนนี้ได้ติดต่อมาหาพ่อตน เรียกเงิน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับการช่วยคดีบุกรุกนี้ ทว่าตนอยากแจ้งความเรื่องที่ถูกชายอ้างตัวเป็นพลเมืองดีตำรวจเลยนัดให้ไปคุยวันที่ 18 ต.ค. 65 ในวันนั้นตนได้เข้าไปคุย พร้อมทั้งพ่อของตนได้เอาเงินไปจ่ายให้เขา 1 หมื่นบาท เพราะสามารถหาได้เท่านี้ ซึ่งเขาก็กลับมาว่าจะคุยกับอัยการให้ หลังจากนั้นตนก็อยู่ตำรวจ 2 คน เขาสอบสวนตนเรื่องคดีอนาจาร แต่ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้เป็นหลัก เพราะตำรวจมาโน้มน้าวให้ตนไปเป็นเมียน้อยเขา บอกว่า "ถ้าตนไปทำให้เขามีความสุข เขาก็จะทำคดีให้ วินวินทั้ง 2 ฝ่าย"
จากนั้นอีก 2 วัน เขาก็โทรมาขอเรียกเงินจากพ่อตนเพิ่มอีกด้วย ทั้งนี้ตนมีคลิปหลักฐานการคุยกับนายตำรวจคนนี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คดีผ่านมาแล้วเกือบปี ยังไม่คืบหน้าใด ๆ จนตนต้องไปร้องเรียนกับคุณ กัน จอมพลัง เนื่องจากตนยังกังวลในคดีที่ถูกแจ้งเรื่องบุกรุก
ฟาก กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง) กล่าวว่า คดีบุกรุกเคหสถานที่ผู้เสียหายจ่ายเงินไป 1 หมื่น แม้จะให้เงินไม่ครบ แต่คดีเดิน ทว่าอีกคดีที่เป็นคดีอนาจาร ที่นายตำรวจมาขอให้ผู้เสียหายเป็นเมียน้อยกลับไม่เดินเลย ทั้งนี้ตนได้สิบประวัตินายตำรวจรายดังกล่าว พบว่า มีประวัติไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้มีความผิดติดตัว 2 คดี เป็นคดีฉ้อโกง ซึ่งตอนนี้ผู้บังคับการจังหวัดสระบุรีได้มีคำสั่งไล่นายตำรวจรายนี้ออกแล้ว พร้อมบอกว่าจะเอาผิด 2 เท่า เพราะเขาใช้อำนาจตำรวจรังแกประชาชน ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาคดีอนาจารที่ไปลวนลามผู้เสียหาย ตอนนี้ก็จับได้แล้วด้วย ซึ่งถ้าหากสอบสวนมาแล้วว่ามีเรื่องราวนี้จริง แล้วตัวผู้เสียหายขาดเจตนา เขาจะสั่งไม่ฟ้อง คดีบุกรุก
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า แม้ความผิดฐานบุกรุกเคหสถานตอนกลางคืนจะยอมความไมได้ แต่พนักงานสอบสวนสามารถทำความเห็นส่งอัยการให้ไม่ฟ้องได้ ซึ่งตนคิดว่าเขาน่าจะทำสั่งฟ้องไป แนะนำให้เขียนคำร้องทุกข์ไปที่ อัยการจังหวัดสระบุรี แจ้งเขาว่าผู้เสียหายไม่ได้มีเจตนาบุกรุกแต่อย่างใด
สำหรับตัวของนายตำรวจรายดังกล่าว มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 อีกทั้งยัง ใช้ตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจบุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ โทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท แถมยังยอมความไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนแนะนำให้คุณกัน จอมพลัง พาผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อ ปปป. เขาจะมีหน้าที่ดำเนินคดีกับข้าราชการธุจริตโดยตรง
ด้าน พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เผยว่า ตอนนี้ตนได้มีคำสั่งให้นายตำรวจนายดังกล่าวออกจากราชการแล้ว ตอนนี้กำลังสอบสวนหากแล้วเสร็จ จะเรียกเจ้าตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่ คดีของเก่านั้น เราก็กำลังดำเนินการทางวินัยอยู่ ส่วนในคดีที่ผู้เสียหายกังวล คดีอนาจาร ตอนนี้ได้ตัวผู้ต้องแล้ว กำลังสอบสวนอยู่ ซึ่งถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริงมันก็จะมีเหตุผลไปหักล้างกับคดีบุกรุกเคหสถาน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35