เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ! สาวผู้เสียหาย ออกมาร้อง 'กัน จอมพลัง' หลังถูกพนุ่มอ้างตัวเป็นพลเมืองดี ช่วยเพราะรถน้ำมันหมด กลับถูกลวนลาม ต้องหนีปีนเข้าบ้านอื่น ซ้ำยังถูกแจ้งความข้อหาบุกรุก ซวยหนักกว่านั้น ตำรวจเจ้าของคดียังไถเงิน 1 แสน พร้อมขอมีเซ็กซ์ แลกกับการช่วยเหลือในการทำคดี !
วันที่ 1 ส.ค. 66 กิ๊ฟ ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุวันที่ 15 ต.ค. 65 ตนไปกินดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งขากลับตนได้ขับมอเตอร์ไซค์กลับคนเดียวซึ่งตอนนั้นโทรศัพท์ก็แบ ตหมด ความซวยอีกอย่างก็คือรถก็มาดันน้ำมันหมด จากนั้นก็มีพลเมืองดีทำทีว่าจะช่วยพาเอารถไปเติมน้ำมัน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่าต้องเข้าไปเอาแกลลอนน้ำมันที่บ้าน ด้วยความที่ตนไม่ใช่คนในพื้นที่และพื้นที่บริเวณนั้นค่อนข้างเปลี่ยว ตนจึงตัดสินใจไปกับเขา เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่า
เมื่อไปถึงบ้านเขา ชายคนดังกล่าวได้เอาน้ำมาให้ตนดื่ม จากนั้นตนก็ขอสายชาร์จโทรศัพท์จากเขาเพื่อจะติดต่อไปหาแฟน ซึ่งชายคนนี้เขาอ้างว่าสายชาร์จอยู่ในห้อง แต่พอตนเข้าไปเอาสายชาร์จเขาก็เข้ามาลวนลาม ทว่าในตอนนั้นตนไม่ได้ขัดขืนเพราะเกรงว่าถ้าขัดขืนจะเป็นอันตราย แต่ตนได้ออกอุบายว่าขอไปเข้าห้องน้ำก่อน เมื่อออกจากห้องได้ ตนก็หนีออกจากบ้านนั้นในทันที และได้วิ่งไปแอบอยู่ในพุ่มไม้ถัดออกมา 100 เมตร ซึ่งชายคนนี้เขาก็ขับรถออกมาตามหา แต่หาตนไม่เจอ ในตอนนั้นตนคิดว่าถ้าไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ก็กลัวว่าชายคนนี้จะกลับมาทำร้าย ตนจึงปีนเข้าไปเคาะประตูบ้านขอความช่วยเหลือจากบ้านในแถวนั้น ทว่ามันกลับเบลอ ไม่รู้ตัวไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็ถูกตำรวจคุมตัวไว้ที่โงพักแล้ว ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าที่เบลอเป็นเพราะแก้วน้ำที่ชายคนดังกล่าวเอาให้ตนดื่มหรือไม่ แต่ตนยืนยันได้ว่าตอนนั้นตนยังมีสติ เพราะตนยังขับรถกลับมาได้ และยังวิ่งหนีออกจากบ้านของชายที่ลวนลามตนได้
เช้าวันถัดมา เจ้าของบ้านเขาได้มาคุยกับตน ก็มาทราบว่าตนหนีตายเข้าไปบ้านเขา เขาเลยไม่ติดใจเอาความ แต่ตำรวจนายหนึ่งเขาบอกว่ามันไม่สามารถถอนแจ้งความได้ เนื่องจากมันเป็นคดีบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน แล้วเขาก็ได้บอกพ่อของตนว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงอัยการ หรือไม่อยากให้สั่งฟ้อง ก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกันหน่อย ซึ่งหลังจากนั้น 2 วัน เขาก็มาเรียกเงินจากพ่อตน 1 แสนบาท พ่อตนก็รับปากว่าจะหามาให้ ต่อมาวันที่ 18 ต.ค. 65 เขาก็นัดตนไปทำคดีอนาจารที่ถูกชายแปลกหน้าลวนลาม โดยพ่อตนสามารถหาเงินมาให้เขาได้แค่ 1 หมื่น ก็มอบให้เขาไป และเขาตอบกลับมาว่า จะไปคุยกับอัยการให้ จากนั้นพ่อตนกลับไป ตนก็อยู่กับเขาแค่ 2 คน ตำรวจนายนี้ก็เริ่มมาโน้มน้าวให้ตนไปเป็นเมียน้อยของเขา โดยพูดประมาณว่า จะมีเงินเดือนให้ และถ้าตนไปทำให้เขามีความสุข เขาก็จะทำคดีให้ วินวินทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้งยังมาขอรูปที่ตนใส่บิกินี่ให้ส่งไปให้เขาทางแชตไลน์ ตนถูกสอบสวนตั้งแต่ 09.00 น. - 19.00 น. แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเกี่ยวกับคดี จะชวนคุยนอกเรื่องเสียมากกว่า หลังจากวันนั้น 2 วัน นายตำรวจคนดังกล่าว โทรมาเรียกขอเงินจากพ่อตนอีก 3-5 หมื่น แต่พ่อตนก็ไม่มีให้เขา ทั้งนี้ตนมีคลิปหลักฐานทั้งหมด ทั้งที่นายตำรวจมาขอมีเซ็กซ์และเคลียร์คดี ทั้งเรียกเงินเคลียร์อัยการ และคลิปที่เขามาขอให้พ่อตนหาเงินมาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คดีผ่านมาแล้วเกือบปี ยังไม่คืบหน้าใด ๆ จนตนต้องไปร้องเรียนกับคุณ กัน จอมพลัง เนื่องจากตนยังกังวลในคดีที่ถูกแจ้งเรื่องบุกรุก
ฟาก กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง) กล่าวว่า ตนเข้าไปช่วยเหลือเคสนี้ ซึ่ง คดีบุกรุกเคหสถานตอนกลางคืน ที่ตัวผู้เสียหายให้เงินเขาไป 1 หมื่น แม้จะให้เงินไม่ครบแต่คดีเดินไวมาก ทว่า คดีอนาจารที่ตัวผู้เสียหายเขาถูกลวนลาม พอตำรวจไม่ได้ตัวเขาไปเป็นเมียน้อยคดีกลับไม่เดินเลย ตนเดินทางไปที่โรงพักเมื่อวาน(31 ก.ค. 66) เรื่องยังอยู่ที่โรงพักอยู่เลย
ทั้งนี้ ตนได้เข้าไปสืบประวัติของตำรวจรายดังกล่าว พบว่าไม่ธรรมดาเลย ชื่อของตำรวจนายนี้ดังมากพบก่อนหน้านี้มีคดีความผิดติดตัวถึง 2 คดี เป็นคดีฉ้อโกงทรัพย์ แล้วครั้งนี้มาก่อเหตุอีกเป็นครั้งที่ 3 ตนไม่เข้าใจว่าตำรวจแบบนี้ทำไมถึงปล่อยไว้ แต่ต้องเข้าใจว่าเรื่องคดีเก่าของตำรวจนายนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยของผู้บังคับการคนเก่า โดยผู้บังคับการ จ.สระบุรี คนปัจจุบันไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย และยังบอกอีกว่าเขาไม่เอาตำรวจเลวแบบนี้ ซึ่งตอนนี้ผู้บังคับการได้มีคำสั่งให้ไล่นายตำรวจคนนี้ออกแล้ว พร้อมทั้งกล่าวว่าจะดำเนินคดีอย่างหนักที่สุด และยิ่งเป็นตำรวจความผิดจะต้องเป็น 2 เท่า
ขณะเดียวกัน อัปเดตล่าสุดในเรื่องของคดีอนาจารที่ตอนแรกคดียังนิ่ง ผู้บังคับการได้ออกหมายจับแล้ว จนตอนนี้ได้ตัวผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว โดยท่านยังบอกอีกว่าถ้าตัวผู้เสียหายเขาขาดเจตนาในคดีบุกรุก เขาจะสั่งไม่ฟ้องให้
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ความผิดเรื่องการบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน มันยอมความไมได้ แต่จริง ๆ แล้วพนักงานสอบสวนสามารถทำความเห็นส่งพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องได้ ทว่าในคดีนี้ตนคาดการณ์ว่าตำรวจน่าจะสั่งฟ้อง แนะนำว่าให้ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังอัยการจังหวัดสระบุรี ใจความว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาที่จะบุกรุก แต่เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเจตนาเพื่อปกป้องความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน จะได้มีความเห็นแย้งกับฝั่งของตำรวจ
สำหรับตัวของนายตำรวจคนนี้ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท แต่ที่หนักกว่าคือ เป็นเจ้าหน้าที่พนักงานใช้ตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจบุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ โทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท อีกทั้งยังยอมความไม่ได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนแนะนำให้คุณกัน จอมพลัง พาผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อ ปปป.(กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) เขาจะมีหน้าที่ดำเนินคดีกับข้าราชการธุจริตโดยตรง
ด้าน พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เผยว่า ตอนนี้ตนได้มีคำสั่งให้ นายตำรวจคนดังกล่าว ออกจากราชการแล้ว เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 66 เวลา 22.00 น. โดยนายตำรวจรายนี้ มีการขอเรียกรับสินบน และมีการพูดจาเชิงชู้สาว เพื่อแลกกับการช่วยคดี ซึ่งก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 149 ตอนนี้กำลังสอบสวนหากแล้วเสร็จ จะเรียกเจ้าตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่ ในคดีของเก่านั้น เราก็กำลังดำเนินการทางวินัยอยู่ ส่วนในคดีที่ผู้เสียหายกังวล คดีอนาจาร ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว ตอนนี้ได้ตัวผู้ต้องแล้ว กำลังสอบสวนอยู่ ซึ่งถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริงมันก็จะมีเหตุผลไปหักล้างกับคดีบุกรุกเคหสถาน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35