"เปรม" อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ กรรมการผู้จัดการ วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ออกมาชี้แจง กรณีลงดาบ "เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส" หลังจากตรวจพบสารสเตียรอยด์ Metanolone และ Boldenone ในร่างกาย ซึ่งทั้งคู่เป็นสารต้องห้าม โดยลงโทษยึดแชมป์เข็มขัด พร้อมแบนจากรายการ ONE Championship เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่พบสาร คือวันที่ 3 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป
แม้ เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส จะออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมน้ำตาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าตนไม่ได้ตั้งใจใช้สารกระตุ้น แต่ใช้เพื่อรักษาอาการที่ข้อศอกเพียงเท่านั้น ทว่าทาง "วัน แชมเปียนชิพ" นำโดย "เปรม" อริยะวัฏ บุษราบวรวง ออกมาชี้แจงว่า สารกระตุ้นที่ตรวจพบในตัวของ เพชรทนง นั้น ไม่ได้เป็นสารที่ใช้ในการรักษา และหนึ่งในนั้นยังเป็นสารที่มักใช้ในม้า ขณะเดียวกัน การสุ่มตรวจนั้นยังมีนักกีฬาอีกหลายคนที่ถูกตรวจ ซึ่งมีการทำแบบนี้มีมาหลายปีแล้ว
โดยใจความของรายละเอียด ระบุว่า การเรียกเก็บตัวอย่างดังกล่าวเป็นการเก็บนอกเกมการแข่งขัน ซึ่งขั้นตอนเป็นไปอย่างปกติ และตัวอย่างดังกล่าว ได้ถูกส่งต่อไปยังแล็บ Karolinska Doping Control Laboratory หรือ มหาวิทยาลัย Karolinska University Hospital ณ กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพื่อการตรวจสอบผล
หลังจากการตรวจสอบ ได้พบสาร Metenolone และ Boldenone ในตัวอย่างที่เก็บมาจากนักกีฬา ซึ่งสาร 2 ชนิดนี้เป็นสารในกลุ่ม อนาโบลิค สเตียรอยด์ และเป็นหนึ่งในสารต้องห้ามที่ องค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก หรือ WADA ได้กำหนดไว้
ฉะนั้น การพบสารดังกล่าวนั้น ทำให้ทาง ONE ต้องระงับการแข่งขันของนักกีฬาเป็นเวลา 1 ปี นับจากวันที่เก็บตัวอย่าง ซึ่งข้อปฏิบัตินี้ อยู่ภายใต้กฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม (ONE Anti-Doping Program) อยู่แล้ว
ที่ วัน แชมเปียนชิพ เรายึดมั่นในมาตรฐานความถูกต้องและความเป็นสากล ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังต่อไปนี้:
1. ONE ไม่อนุญาตให้ใช้สารเสตียรอยด์ต้องห้ามทุกประเภทในนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อจุดประสงค์ในการแข่งขันหรือการรักษา ซึ่งข้อห้ามนี้
เป็นข้อห้ามมาตรฐานในองค์กรการกีฬาทั่วโลก
อีกทั้งสาร 2 ชนิดที่พบในผลตรวจของเพชรทนงนั้น เป็นสารที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในการรักษาบำบัด (therapeutic use exemptions) โดยอิงจากมาตรฐานของ WADA และในส่วนของสาร Boldenone นั้น ไม่ถือว่าเป็นสารที่ใช้เป็นยา แต่เป็นสารที่มักใช้ในม้า ซึ่งมักเรียกกันเป็นภาษาทั่วไปว่า “horse steroids” ซึ่งสเตียรอยด์ทั้ง 2 ชนิดนี้อยู่ในลิสต์ “ต้องห้ามในการรักษา” ภายใต้ข้อกำหนดของ WADA
2. กระบวนการการสุ่มตรวจสารต้องห้ามใน ONE นั้นมีมาหลายปีแล้ว ซึ่งการตรวจนั้นมีทั้งในช่วงการแข่งขันและนอกเหนือจากการแข่งขัน ซึ่งนักกีฬาทุกคนต้องพร้อมสำหรับการสุ่มตรวจทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีข้อยกเว้น แชมป์โลกปัจุบันอย่างรถถัง จิตรเมืองนนท์, แสตมป์ แฟร์เท็กซ์, นิกี โฮลสเกน และไมกี มูซูเมซี ต่างได้รับการสุ่มตรวจทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้ และผลออกมาผ่านตามมาตรฐาน ส่วนนักกีฬารายอื่นที่ได้รับการสุ่มตรวจเมื่อเร็วๆนี้และไม่ผ่านก็มีเช่นกัน อย่างเช่น จูลี เมซาบาร์บา, ไครัต อักห์เมทอฟ และ Giannis Stoforodis เป็นต้น ซึ่งเหล่านักกีฬาที่ไม่ผ่านผลการสุ่มตรวจ ต่างก็ได้รับบทลงโทษตามกฎกติกาทุกคนตามมาตรฐานข้อกำหนดที่อิงกับ WADA
3. ในสัญญาที่เราทำกับนักกีฬาของ ONE ทุกคน มีระบุไว้อย่างชัดเจนว่า การใช้สารต้องห้ามและสารผิดกฎหมายทุกชนิด ถือเป็นโทษร้ายแรงใน วัน แชมเปียนชิพ นอกจากระบุในสัญญาแล้ว เรายังมีการกำชับให้กับนักกีฬาทราบระหว่างการอธิบายกฎ กติกา ข้อบังคับต่างๆด้วยเช่นกัน อีกทั้งเรามีการอธิบาย แจ้งนักกีฬาผ่านทางอีเมล์ ถึงกระบวนการ สุ่มตรวจให้นักกีฬาทราบ และได้ส่งรายในการหาข้อมูลเกี่ยวกับสารต้องห้ามต่างๆตามมาตรฐาน WADA นั้นให้กับนักกีฬาที่เซ็นสัญญาทุกคน เพื่อแสดงถึงความชัดเจนว่าตัวนักกีฬาเองนั้นต้องรับผิดชอบต่อร่างกายของตัวเอง เพื่อรักษามาตรฐานสูงสุดในฐานะนักกีฬาอาชีพในเวทีระดับโลก
+ อ่านเพิ่มเติม