ชูวิทย์ แฉ ! ซูเปอร์ดีล “เศรษฐา” นั่งนายกฯ ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหมือนทำหน้าที่แทนโฆษกทีมจัดตั้งรัฐบาล จัดแถลงข่าวเปิดสูตร ซูเปอร์ดีล พา ทักษิณ กลับไทย เผย โหวตเลือกนายกครั้งที่ 3 แค่หลอก ของจริงคือครั้งที่ 4 แกนนำ คือ ภูมิใจไทย จะเชิญพรรคเพื่อไทย และพลังประชารัฐ มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล 279 เสียงดัน นายกตัวสูง เป็นนายกฯ ส่วนพรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน

 

ราวสักบ่าย ๆ วานนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง แถลงข่าวถึงเบื้องหลังเตรียมกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากสื่อมวลชน ดูได้จากเนกไทด์ ได้ใช้งานเต็มที่ ถูกนำไมค์มาติดแน่นไปหมด

 

ส่วนเนื้อหา ชูวิทย์ ระบุว่า หลังการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมฯ ที่นำโดยพรรคก้าวไกล ไม่ลุล่วง จึงบังเกิดซูเปอร์ดีลขึ้น โดยบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคต่าง ๆ บินไปเจรจากับนายทักษิณ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่โรงแรมเพนนินซูเอล่า ฮ่องกง มีเป้าหมายเพื่อจับมือกันล้มพวกสีส้ม

 

คุณชูวิทย์ บอกว่า ส่วนตัวมองว่า การโหวตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม จะเป็นการ โหวตลวง เพื่อให้เห็นภาพว่าพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ไปกันไม่ไหวจริง ๆ จากนั้นจะมีการจัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ โดยมีพรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ เป็นแกนนำ มีนายกรัฐมนตรีตัวสูง ๆ ส่วนฝ่ายค้านจะมีพรรคก้าวไกล รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ ดีลนี้มีข้อแม้ว่า นายทักษิณ ต้องได้กลับไทย และจะเกิดขึ้นจริงก่อนวันที่ 15 สิงหาคม โดยสูตรภูมิใจไทย พรรคอันดับ 3 เป็นแกนนำจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ขอเรียกว่า ปฏิบัติการปล้นคะแนนประชาชน

 

นายชูวิทย์ ระบุต่ออีกว่า ส่วนตัวมั่นใจ 80 เปอร์เซ็นต์ว่า นายทักษิณ จะกลับไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ถือเป็นการยอมแลก 1 เสียงกับ 26 ล้านเสียง โดยสิ่งแรกที่ท่านจะทำคือคุกเข่าก้มกราบพื้นแผ่นดินไทย หลังจากนั้นคงเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครให้ระดับอดีตผู้นำประเทศไปขังหรืออยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรายอื่น ๆ และ นายทักษิณ มีสิทธิในการยื่นขออภัยโทษ คาดว่าคงไม่นานก็น่าจะได้ออกมา ไม่เช่นนั้นคงไม่มี ซูเปอร์ดีล

 

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า การตั้งรัฐบาลน่าจะเสร็จไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ตนเตรียมเปิดข้อมูลแคนดิเดตนายกฯ ตัวสูง เพราะมองว่านายกฯ คนใหม่ต้องมีความสง่างาม มีความซื่อสัตย์ โดยจะอภิปรายนอกสภา และจะเปิดข้อมูลของคนที่ให้ฉายาว่า ขงเบ้ง ผู้อยู่เบื้องหลังว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ซึ่งเป็นคนที่วงการหุ้น และอสังหาริมทรัพย์รู้จักเป็นอย่างดี แต่เป็นคนที่ตามร่องรอยได้ยากมาก โดยจะแฉเป็นซีรีส์เปิดเรื่องจาก นายขงเบ้ง ผู้อยู่เบื้องหลังการทำนิติกรรมอำพรางทั้งหมด

 

ส่วนเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทย ยอมยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับคนตัวสูง นายชูวิทย์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยอาจได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และอาจได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คงไม่รับตำแหน่ง แต่จะส่งต่อให้ พล.ต.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นั่งเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกกระแสข่าวที่เจ้าตัวยังไม่ออกมาเคลียร์แบบชัด ๆ นั่นคือ กรณีที่ว่ากันว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้บินไปพบ คุณทักษิณ ที่เกาะฮ่องกงด้วย แม้ก่อนหน้านี้ ช่อ พรรณณิการ์ วานิช หนึ่งในแกนนำคณะก้าวหน้า จะออกมาปฏิเสธว่า ธนาธร อยู่เมืองไทย แต่ต่อมาได้มีการเปิดเผยของสื่อมวลชนถึงรายละเอียดตั๋วไฟลต์ขาไปและขากลับ โดย ธนาธร เป็นคนแรกที่เข้าพบ คุณทักษิณ เพื่อเจรจาต่อรองว่าจะยอมถอยเป็นฝ่ายค้าน แลกกับเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย คือไม่ร่วมกับพรรค 2 ป. และอีกหนึ่งเงื่อนไขคือจะยอมถอยการแก้ไข ม.112 ในช่วง 4 ปีนี้

 

ซึ่งต่อมา แม้นายธนาธร จะปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก็เพียงยิ้มแทนคำตอบ เมื่อสื่อถามว่าได้บินไปฮ่องกงด้วยหรือไม่ และขณะนี้ก็ยังมีกระแสเรียกร้องให้ ธนาธร ออกมาตอบในเรื่องนี้เช่นกัน

 

ไปต่อกันที่อีกหนึ่งความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดยสภาผู้แทนราษฎรได้นัดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยมีวาระสำคัญในการพิจารณาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 และพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 272 ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ ภายหลัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ได้หารือร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนกรณีที่ต้องรอการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการวินิจฉัยมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ประธานรัฐสภากล่าวว่า หากศาลพิจารณาออกคำสั่งให้รัฐสภาชะลอกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป รัฐสภาก็สามารถเลื่อนวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกล ยื่นไว้ก่อนหน้านี้มาพิจารณาก่อนได้ หรือหากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง ก็สามารถเข้าวาระการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ทันที