เกิดเหตุอุกอาจ กลางถนนจ.ปทุมธานี โดยโชเฟอร์รถพ่วง 18 ล้อ ถูกมือดีขับรถหรูมาชี้หน้า ก่อนจะขับตามมาควักปืนสาดกระสุนจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสืบค้นพบพิรุธมากมาย เจ้าของรถเป็นนายกเทศมนตรี จ.โคราช แต่ ผู้ก่อเหตุเข้ามารับสารภาพเป็นลูกน้องชาวเมียนมาร์ ผู้เสียหายหวั่น สลับตัวมือยิง !?
วันที่ 26 ก.ค. 66 อานนท์ พิมพ์โคกแฝก (นนท์) ผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 ระหว่างที่ตนกำลังขับรถพ่วง 18 ล้อ อยู่บนถนนหลวงหมายเลข 9 จ.ปทุมธานี กำลังจะไปส่งดินย่านบางบัวทอง ซึ่งในตอนนั้นตนกำลังจะแซงรถ 6 ล้อที่อยู่ข้างหน้าออกเลนขวา ตนได้ดูแล้วว่าไม่มีรถตามมา ทว่าได้มีรถฟอร์ดสีแดงขับตามหลังมาเปิดไฟขอทางจะแซงออกขวาเช่นกัน ซึ่งเขาไม่พอใจตน เพราะตนแซงออกขวาไปก่อน จากนั้นเมื่อตนแซงรถบรรทุกข้างหน้าเสร็จ ตนก็ขับรถกลับเข้าเลน ฝั่งรถฟอร์ดก็ได้ขับรถมาตีข้าง พร้อมเปิดกระจกชี้หน้าตน ก่อนจะเร่งเครื่องแซงออกไป
หลังจากนั้นตนก็ได้ขับรถไปตามทางสักพักหนึ่ง ก็ได้เห็นว่ารถฟอร์ดคันดังกล่าวจอดรออยู่ข้างทาง ก่อนจะขับรถตามรถตนออกมา และแซงมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะรัวกระสุนเข้ามาที่รถตน โดยยิงมาทั้งหมด 3 นัด โดย 1 นัดยิงเข้าที่กระจกประตูรถทะลุเข้ามาโดนแขนซ้ายตน อีก 1 นัดยิงเข้าประตูรถทะลุมาโดนแผ่นหลังฝั่งซ้าย อีกทั้งใบหูข้างซ้ายก็โดนสะเก็ดกระสุนด้วย ขณะที่อีก 1 นัด กระสุนทะลุประตูขึ้นไปบนหลังคารถ
ขณะเดียวกัน ตนไม่รู้มาก่อนเลยว่าตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว ตนมารู้เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 66 จากเพื่อนของตน ที่บังเอิญไปเห็นตำรวจ และผู้ก่อเหตุกำลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้ติดต่อไปยังตำรวจเพื่อไปขอเจอผู้ต้องหา ทว่าเมื่อตนไปถึงกลับไม่ได้เจอเขา โดยเขาอ้างว่าไม่อยากเจอตนเพราะกลัวตนไปกระทืบเขา ยาวมาจนกระทั่งวันนี้ตนก็ยังไม่เคยเจอตัวเขา นอกจากนี้ ตนยังมารู้อีกว่าคู่กรณีเป็นชาวต่างด้าว เป็นคนเมียนมาร์ โดยบริษัทบอกกับตนมา เพราะเขาเอารถพ่วงคันที่เกิดเหตุ ไปเคลมประกัน แต่ประกันยังไม่สามารถเคลมได้ เพราะคู่กรณีเป็นชาวต่างด้าว
แต่ตนไม่เชื่อว่าคนก่อเหตุจะเป็นชาวต่างด้าว เนื่องจากรถคันคู่กรณีเป็นรถราคาแพง แล้วก็ไม่น่ามีใครกล้าเอารถให้ชาวเมียนมาร์ขับ จึงสงสัยว่าเป็นการจับผิดตัว หรือสลับตัวคนก่อเหตุหรือไม่ ตนจึงได้นำใบแจ้งความไปตรวจเช็กกับกรมขนส่งฯ ก็พบว่าเจ้าของรถตัวจริง เป็นนายกเทศมนตรี ในจ.นครราชสีมา ทั้งนี้ บุคคลในรถฟอร์ดคันก่อเหตุ ตนไม่เห็นหน้า เห็นเพียงแต่นิ้วมือที่เขามาชี้ตน โดยนิ้วมือมีลักษณะอ้วนป้อม สั้น ๆ และมีผิวสีออกดำแดง ขณะที่ชายชาวเมียนมาร์นั้นมีลักษณะสูง ไม่น่าจะมีนิ้วป้อมได้
เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า เคสนี้มันแปลก จะมาบอกว่าให้ชาวเมียนมาร์มาขับรถให้มันก็แปลกแล้ว แล้วยิ่งมีเรื่องการยิงปืนก็คิดได้อีกว่าแล้วเขาเอาปืนมาจากไหนได้ ซึ่งถ้าเป็นลูกน้องชาวเมียนมาร์ยิงจริง เขาต้องกล้าหาญมากที่กล้าไปเอาปืนจากหัวหน้ามายิงคนอื่น โดยปกติแล้ว ตนไม่เคยเจอลูกน้องกล้าทำแบบนี้
ขณะเดียวกัน ได้ติดต่อไปยัง ผกก.สภ.คูบางหลวง แล้ว โดยท่านให้ข้อมูลว่า ข้อเท็จจริงตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพียงแต่ว่าผู้ต้องหาเขาเข้ามามอบตัว ก็ต้องมาดูว่ามารับผิดแทน หรือก่อเหตุจริง ซึ่งรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ หากผลออกมาไม่ตรงกับคำสารภาพเขาจะต้องมีโทษ 2 เด้ง เพราะได้บันทึกทุกอย่างไว้หมดแล้ว
ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความฯ กล่าวว่า ถ้ามีการสลับตัวมือยิงจริง ๆ ชาวเมียนมาร์รายดังกล่าวจะมีความผิดฐานช่วยเหลือให้คนอื่นพ้นผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และยังมีความผิดฐานแจ้งความเป็นเท็จอีกด้วย รวมทั้งยังมีการพกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนในที่สาธารณะ มีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ อีกทั้งยังมีความผิดฐานพยายามฆ่า ต้องรับโทษ 2 ใน 3 ส่วน ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุได้ เพราะเป็นคดีอาญา อีกหนึ่งเรื่องคือ เวลาตำรวจทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ไม่ได้มีหลักการว่าตำรวจต้องมาแจ้งผู้เสียหาย ทว่าโดยปกติตำรวจเขาจะแจ้งกับผู้เสียหาย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า สำหรับสำนวนของคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ของ สภ.คูบางหลวง ได้ส่งมาให้ตนแล้ว แล้วตนได้มีคำสั่งให้ไปสอบสวนเพิ่ม เพราะสงสัยในเรื่องของวิถีการยิง และยังได้สั่งให้สืบสวนฯจ.ปทุมธานี ลงไปตรวจสอบเพิ่มด้วย รวมทั้งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาจำลองเหตุการณ์การยิง เพราะเขาสามารถเช็กได้ว่ามีการยิงมาจากฝั่งคนขับหรือคนนั่ง และการตรวจสอบดีเอ็นเอจากปืนด้วย ทั้งนี้หากผกก. โรงพักกระทำการไม่ดี ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด จะมีความผิดในมาตรา 157
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35