หัวอกแม่แทบสลาย หลังอดีตสามีชาวมาเลฯ แสบแอบอุ้มลูกสาววัย 3 ขวบ หายปริศนา โดยที่เอกสารเดินทางของลูกยังอยู่ครบ ทว่าที่ร้ายแรงคือ สืบพบอดีตสามีข้ามชายแดนมาเลฯ แต่ไร้เงาลูกสาว !?
วันที่ 25 ก.ค. 66 กานต์ ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอกับอดีตสามีชาวมาเลเซียมีปัญหาหย่าร้างกันเมื่อปี 64 แต่ได้มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันมีอายุ 3 ขวบ ซึ่งหลังจากหย่ากันได้มีการแบ่งสิทธิ์เลี้ยงลูกกันคนละครึ่ง กระทั่งช่วงเดือน เม.ย. 66 ลูกสาวได้หายไปพร้อมกับสามี โดยที่พาสปอร์ต และบัตรประชาชนของลูกก็ยังอยู่ที่ตน จนกระทั่งได้ไปเช็กกล้องวงจรปิดจึงทราบว่า อดีตสามีลักพาตัว และพาข้ามแดนที่ด่านปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา
กานต์ เล่าต่อว่า เมื่อ ก.พ. ปี 66 อดีตสามีได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดฯที่ประเทศไทยโครงการเดียวกับตน เพื่อใช้เวลาอยู่กับลูก ซึ่งตนก็ไม่เคยกีดกัน มีการแบ่งวันกันชัดเจน โดยวันพุธ-วันเสาร์ ลูกจะอยู่กับตน ส่วนวันอาทิตย์-อังคาร ลูกจะอยู่กับอดีตสามี และทุกวันอังคารเขาจะมาส่งลูกคืนตนเวลา 19.00 น. ทว่าเขากลับมาบอกว่าจ้างทนายแล้ว และอยากได้สิทธิ์ดูแลลูกสาวแต่เพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ อดีตสามีได้ปฏิบัติตัวดีมาตลอดกระทั่ง วันอาทิตย์ที่ 16 เม.ย. 66 ตนได้นำลูกไปส่งให้เขา และเขามีกำหนดการส่งลูกคืนตนวันที่ 18 เม.ย. 66 แต่เมื่อถึงวันดังกล่าว อดีตสามีได้ส่งข้อความมาว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี ไม่ต้องรอเธอ(ลูกสาว)แล้วนะ" ตนช็อกมากจึงโทรไปคุยกับเขา ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าจะไม่ให้ตนเจอลูกอีก ถ้าอยากฟ้องร้องก็เชิญได้เลย หลังจากนั้นตนก็ทำทุกอย่างเพื่อหาตัวลูกสาว จนมาเห็นภาพวงจรปิดว่าเขาและปู่ย่าของลูก นำตัวลูกออกไปจริง ๆ และได้ข้อมูลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ว่าพวกเขาเดินทางออกนอกประเทศด้วยช่องทางนี้ แต่ไร้เงาลูกสาว ทำให้ตนร้อนรนจนต้องบินไปที่บ้านของอดีตสามีที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ไม่พบเจอใครเลย บ้านปิดเงียบ
สิ่งที่ตนคาใจคือ เอกสารการเดินทางของลูก ทั้ง ใบเกิด บัตรประชาชน และพาสปอร์ต ของลูกสาวอยู่ที่ตนหมด แล้วเขาจะเอาลูกตนไปที่ไหน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นปริศนาว่าลูกของตนอยู่ที่ไหน ฝั่งอดีตสามี ญาติอดีตสามี เพื่อน ๆ ของเขาก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนอยากคุยกับฝั่งคุณแม่เด็กโดยตรงเพื่อทราบรายละเอียดทั้งหมดของคดี แล้วนำไปตรวจสอบดำเนินการตามหาตัวลูกสาวเผื่อว่าจะยังอยู่ฝั่งไทย จึงอยากให้คุณแม่เข้ามาพบตนที่สโมสรตำรวจ วันที่ 26 ก.ค. 66 ทั้งนี้โดยส่วนตัวตนสนิทสนมกับผู้บัญชาการตำรวจของมาเลเซียอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องการประสานงานเลย
ฟาก นิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้มันเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนสิทธิ์ของอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่ก็ยังมีอำนาจปกครองร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามอดีตสามีก็มีความผิดเพราะเป็นการเอาเด็กออกนอกราชอาณาจักร เพราะเอกสารประจำตัวลูกยังอยู่ที่คุณแม่อยู่ รวมทั้งผิดกฎหมายทางฝั่งมาเลเซีย เพราะเป็นการนำเด็กเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากนำลูกออกนอกประเทศ ต้องมีลายเซ็นยินยอมจากอีกฝั่งที่หย่าร้างกันด้วย ทั้งนี้ ฝั่งอดีตสามีอาจจะเดินทางข้ามไปมาเลเซียเพื่อเป็นหลักฐาน โดยที่เด็กอยู่ประเทศไทย และเขาจะกลับมาโดยช่องทางธรรมชาติเพื่อกลับมาอยู่กับลูก
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35