ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โชเฟอร์ 18 ล้อ ถูกคนขับรถหรูคันละเกือบ 2,000,000 บาท ขับรถตามประกบยิงได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ อ้างผู้ก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาร์ ผู้เสียหายเชื่อว่า น่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุ พบเจ้าของรถหรูเป็นถึงนายกเทศมนตรี
นี่คือกล้องข้างรถ 18 ล้อ ของนายอานนท์ พิมพ์โคกแฝก อายุ 44 ปี ผู้เสียหายที่ถูกยิงจะเห็นได้ว่า มีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดขับแซงซ้ายมา จากนั้นก็มีลูกกระสุนทะลุเข้ามาลัยกระจกรถด้านข้างคนขับรถ 18 ล้อ
นายอานนท์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ที่ผ่านมา ตนเองขับรถพ่วง 18 ล้อ กำลังจะไปส่งดินย่านบางบัวทอง ระหว่างทางบริเวณถนนหมายเลข 9 จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ตนเองแซงรถบรรทุกขึ้นไปเลนขวา ได้มีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดสีแดงขับตามหลังมา กำลังจะแซงขวารถตนเองเช่นกัน แต่ตนเองออกขวาแซงรถคันหน้าก่อน ทำให้คนขับรถยนต์ฟอร์ดไม่พอใจ บีบแตรรถใส่ตนเอง หลังตนเองแซงรถบรรทุกเสร็จ ตนเองก็รีบเข้าเลนซ้ายทันที จากนั้นคนขับรถยนต์ฟอร์ดได้แซงขวาตนเองขึ้นมา แล้วเปิดกระจกรถฝั่งซ้ายชี้หน้าให้ตนเอง บอกให้ตนเองจอดรถ ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงไม่จอดรถ ทำให้คนขับรถยนต์ฟอร์ดขับรถแซงไปแล้วไปจอดรถดักรอตนเองข้างหน้า ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถออกเลนขวา แต่แล้วรถยนต์ฟอร์ดก็ขับแซงซ้ายขึ้นมา จากนั้นก็ใช้ปืนยิงใส่รถตนเอง 3 นัด ลูกกระสุนทะลุกระจกมาเข้าแขนตนเอง 1 นัด และทะลุประตูเข้ามาถูกด้านหลังอีก 1 นัด ส่วนอีก 1 นัด กระสุนทะลุประตูรถแฉลบขึ้นหลังคารถ แล้วคนขับรถยนต์ฟอร์ดได้ขับหลบหนีไปทันที หลังจากตนเองถูกยิง ตนเองได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ และกู้ภัยได้นำตนเองส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ตนเองออกจากโรงพยาบาลได้ไปที่ สภ.คูบางหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ปากคำ
ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม ตนเองได้รับข่าวจากเพื่อนร่วมอาชีพว่า เห็นตำรวจนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนตรงที่เกิดเหตุแล้ว ตนเองจึงรู้สึกแปลกใจว่า ตำรวจจับผู้ต้องหาได้แล้วทำไมไม่บอก ตนเองจึงได้เดินทางไปที่โรงพักเพื่อขอดูหน้าคนร้าย แต่ตำรวจบอกว่า คนร้ายไม่อยากเจอหน้าตนเองและไม่ให้ตนเองพบ โดนตำรวจก็ตกใจว่าตนเองรู้เรื่องทำแผนคนร้ายได้ไง
ต่อมาทางประกันรถ 18 ล้อ ได้แจ้งมาว่าประกันไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือหรือเยี่ยวยาอะไรได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาร์ เรื่องนี้ตนเองไม่เชื่อว่าชาวผู้ก่อเหตุเมียนมาร์ อายุ 41 ปี จะเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะไม่น่าจะยิงปืนได้แม่นขนาดนี้ เพราะขณะเกิดเหตุรถวิ่งด้วยความเร็ว การที่จะยิงปืนด้วยมือข้างเดียว แล้วกระสุนเข้าเป้ามาในรถทั้ง 3 นัดซ้อน เป็นไปได้ยากมาก ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ต่อมาตนเองได้นำทะเบียนรถคันที่มาก่อเหตุไปค้นหาทางอินเตอร์เน็ต พบว่าเจ้าของรถมีตำแหน่งเป็นถึงนายกเทศมนตรี ในจังหวัดนครราชสีมา และมีลูกชายเป็นรองนายกฯ เทศมนตรี เป็นผู้ใช้รถคันที่ก่อเหตุ สิ่งนี้ทำให้ตนเองเชื่อมั่นว่า น่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา เพราะตนเองเห็นรูปพรรณของคนร้ายตอนที่ชี้หน้าตนเองเพื่อบอกให้ตนเองจอดรถ ตนเองจำได้ว่าเป็นคนลักษณะอ้วน นิ้วมือมีลักษณะใหญ่และมือสั้น แต่คนต่างด้าวที่ถูกจับ มีลักษณะผอม ไม่ใช่คนที่ก่อเหตุแน่นอน และสิ่งที่ตนเองเข้าไปเจอใน Facebook ของผู้ใช้รถคันนี้พบว่ามีการซ้อมยิงปืนมาอย่างดี
ตอนนี้ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคดีก็ไม่มีตำรวจคนไหนออกมาชี้แจงอะไรเลย ส่วนประกันก็ไม่ได้เยียวยาตนเอง ตนเองจึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงเดินทางมาร้องเพจสายไหมต้องรอด
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดกล่าวว่า คดีนี้มีข้อพิรุธหลายอย่าง ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ถึงความจริง จากตนเองได้ฟังเรื่องราว ตนเองก็ไม่เชื่อว่ารถหรูคันละเกือบ 2,000,000 บาท จะมีเจ้านายคนไหนปล่อยให้ลูกน้องที่เป็นชาวต่างด้าวขับรถ และพกปืนติดตัวตอนขับรถ ต่อจากนี้ตนเองจะนำผู้เสียหายเข้าพบกับผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคูบางหลวง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม