ประเด็นการเมืองยังคงร้อนแรงเช่นเคย โดย พรรคเพื่อไทยได้ออกมาเคลื่อนไหว จนกลายเป็นประเด็นของสังคมว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร ขณะที่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ถึงกับน้ำตาซึม จะมีความคืบหน้าอย่างไร ติดตามชมด้วยกันใน รายการถกไม่เถียง !?
วันที่ 24 ก.ค. 66 ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ค. 66 ที่มีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคเพื่อไทย และอีกหลาย ๆ พรรค กระทั่งมีประเด็นว่าตนน้ำตาซึม ยืนยันว่า ตนไม่ได้น้ำตาซึม ตนนั่งฟังอยู่เฉย ๆ อาจจะเป็นเงาสะท้อนของแว่น ขณะที่เรื่องของ ท่านเสรีพิศุทธ์ พูดว่าให้พรรคก้าวไกลเสียสละ นั้น จริง ๆ แล้วเขาได้พูดในที่ประชุมมาก่อนแล้ว ตนก็ได้รับฟัง แต่ไม่ได้โต้แย้งอะไร อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลยังคงยืนอยู่จุดเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือการพยายามเต็มที่ที่สุด เพื่อให้มีรัฐบาลที่พลิกขั้วรัฐบาลเดิม นำโดย พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย
สำหรับการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้หัวเรือเป็นทางฝั่งพรรคเพื่อไทย ทางพรรคก้าวไกลคงต้องรอฟังข้อเสนอก่อน ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็คงต้องเลือกว่าแนวทางการทำงานของพรรคเพื่อไทยตรงกับใคร อีกส่วนที่สำคัญ คือการหาเสียงจากสว.เพิ่ม เพราะตนมองว่า เมื่อได้เปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯแล้วนั้น มีโอกาสที่จะหาเสียงจากสว.เพิ่มได้อีก 50-60 เสียง เพราะสว.หลาย ๆ ท่านที่ได้คุยกันตอนแรกนั้น สุดท้ายมาเหลือแค่ 13 เสียง มันเกิดจากแรงกดดัน และมีการเสนอผลประโยชน์ รวมถึงการแบล็กเมล์ อย่างเคสล่าสุดที่มีการยื่นตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของสว. 6 ท่าน มันปรากฎชัดว่ามีการพยายามทำทุกทาง เพื่อไม่ให้สว.โหวตตามเสียงประชาชน จึงอยากชวนให้ประชาชนให้กำลังใจสว.
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยง (24 ก.ค. 66) พรรคก้าวไกลได้ประชุมหารือกันของสส.ในพรรค ในประเด็นที่มีการถกเถียงเรื่องของการดึงพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งก็ได้มีมติออกมาว่าทางพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย ขณะที่พรรคอื่น ๆ นั้นมีโอกาส แต่ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย ต้องมาอธิบายว่ามีความจำเป็นอย่างไร
ส่วนที่คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แถลงไว้ว่า จะให้พรรคก้าวไกลมีอำนาจทางการเมืองมากไปกว่านี้ไม่ได้นั้น ตนมองว่ามันไม่แปลก ที่จะมีแรงต่อต้านเรา เราสัมผัสได้ตั้งแต่เข้าไปทำงานในสภาฯสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เพราะสิ่งที่เราเสนอ วิธีคิดที่เราผลักดัน มันเป็นสิ่งแปลกปลอม ไม่เป็นความต้องการของระบบเศรษฐกิจ ระบบการเมืองไทย แต่สิ่งที่ระบบการเมืองแบบเดิมไม่ต้องการ เราคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดมันเป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่จะมาบอกว่าจัดตั้งไม่ได้เพราะพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ตนมองว่าตรงนี้มันตรรกะวิบัติเกินไปหน่อย
ด้าน รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ตนมองว่า สถานการณ์การเมืองล่าสุด ขั้วอำนาจเก่าเขากำลังฮึกเหิม เพราะว่าเกมกำลังเดินไปตามแผนของพวกเขา เขาทำให้ผู้ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 ลงไปได้ จนต้องให้อันดับ 2 มาจัดตั้งรัฐบาลแทน ซึ่งถ้าเพื่อไทยจะตามใจขั้วอำนาจเดิม แล้วตัดสินใจตัดพรรคก้าวไกลออก ก็คงมีข้อต่อรองให้ขั้วอำนาจเดิมเป็นหัวเรือ ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยนำ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเดินไปตามเกมของเขา ทั้งนี้การที่พรรคเพื่อไทย ส่อจะจับมือกับขั้วอำนาจเดิมมันมีความเป็นไปได้ เพราะ สัจจะไม่มีในหมู่นักการเมือง ขณะเดียวกัน ตนไม่เห็นด้วยกับคำว่า "ตั้งรัฐบาลช้าเสียหายกับบ้านเมือง" ซึ่งถ้ามองดี ๆ ที่มันช้าเพราะเขาไม่เคารพเสียงของประชาชน ทว่ามันก็น่าแปลกที่พรรคก้าวไกลเอาชนะเสียงประชาชนได้เยอะ แต่ไม่สามารถคบหากับนักการเมืองด้วยกันได้เลย
ทั้งนี้ ที่คุณ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกมาแถลงให้พรรคก้าวไกลยอมเสียสละ เพราะว่าเขาอยากเป็นรัฐบาล และมองว่าพรรคก้าวไกลเป็นอุปสรรค ซึ่งการที่เขาพูดแบบนั้น จะเป็นวีรบุรุษนาแกหรืออะไร แต่นั้นไม่ใช่สุภาพบุรุษทางการเมือง ถ้าหากเขาอยากเป็นพระเอก ต้องออกมาพูดว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลเขาจะไม่รับตำแหน่งใด ๆ เลย แล้วพรรคก้าวไกลต้องออกไป ถ้าพูดออกมาแบบนี้ตนถึงจะมองเขาเป็นสุภาพบุรุษ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า ยังไงพรรคก้าวไกลไม่ควรถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเสียงของประชาชนสำคัญมันชัดเจนยิ่งกว่าครั้งใด
สำหรับข่าวลือ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะวางมือมานั้น ตนก็ได้ยินอีกข่าวลือมาก็คือ จะมีว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ นามสกุลวงษ์สุวรรณ แต่ตนก็ไม่ได้อยากให้มันเกิด เพราะเสียงของประชาชนครั้งนี้มันชัดเจนอยู่แล้วว่า เขาไม่เอาขั้วรัฐบาลเก่า
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35