เปิดข้อมูล ! ลูกสาววัย 3 ขวบกว่า ถูกอดีตสามีชาวมาเลเซีย ลักพาตัวข้ามแดน

441 ครั้ง

24 ก.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อในมาเลเซีย 2 สำนัก ได้นำเสนอข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับคนไทย นั่นคือ มีคุณแม่ชาวไทยคนหนึ่ง ที่ลูกสาวอายุ 3 ขวบกว่า หายตัวไปตั้งแต่เดือนเมษายน โดยคนที่ลักพาตัวเป็นอดีตสามีชาวมาเลเซีย ที่หย่าร้างกันไปตั้งแต่ปี 2564

พาดหัวข่าวจาก malaysiakini.com ระบุว่า คุณแม่ชาวไทยกำลังพึ่งศาลที่มาเลเซียเพื่อตามหาลูกที่หายไป ส่วนสื่ออีกสำนักข่าว คือ malaymail.com พาดหัวข่าวประมาณว่า ลูกสาวที่ถูกลักพาตัว ถูกนำตัวข้ามพรมแดนด่านปาดังเบซาร์ที่สงขลา ไปมาเลเซียได้อย่างไร ทั้งที่ตัวลูกสาวที่ถูกลักพาตัว ไม่มีหนังสือเดินทางติดตัวไปด้วย

เนื้อความในข่าวของทั้ง 2 สำนัก เขียนบอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ชาวไทยคนหนึ่ง อายุ 38 ปี ที่มีลูกสาวอายุ 3 ขวบกว่า กับสามีชาวมาเลเซีย แต่ทั้งคู่หย่ากันเมื่อปี 2564 จากนั้นเธอพาลูกสาวกลับมาอยู่ที่คอนโดฯ ประเทศไทย ต่อมาปี 2566 อดีตสามีได้ตามมาเช่าคอนโดฯ อยู่ใกล้กัน และขอดูแลลูกด้วย แต่ในเดือนเมษายน ลูกหายไปพร้อมกับอดีตสามี เธอไล่เช็กข้อมูลโดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่า ลูกสาวอายุเพียง 3 ขวบกว่า ถูกอดีตสามีลักพาตัว และพาข้ามแดนที่ด่านปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา

รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ติดต่อไปที่คุณแม่ท่านนี้ ซึ่งได้โพสต์เรื่องราวการตามหาลูกของเธอเองไว้ในเฟซบุ๊กด้วย เธอชื่อ คุณกานต์ อายุ 38 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อปี 2558 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เธอแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับ นายคิม อายุ 37 ปี สามีชาวมาเลเซีย ที่ประเทศสิงคโปร์ กระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน เมื่อปี 2562 แต่ว่าหลังจากมีลูกด้วยกันเพียง 2 ปี ทั้งคู่ก็หย่ากันเมื่อปี 2564

ปลายปีที่หย่ากัน คือ เดือนธันวาคม 2564 คุณกานต์ได้พาลูกสาว ซึ่งตอนนั้นอายุเพียงขวบกว่า กลับมาอยู่ประเทศไทย โดยอาศัยอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ซึ่งตอนนั้น อดีตสามี คือ พ่อของลูก ก็เดินทางจากมาเลเซีย ไป ๆ มา ๆ ประเทศไทย ด้วยเครื่องบิน เพื่อมาหาลูกสาวด้วย

กระทั่งปลายปี 2565 นายคิม ได้มาอยู่ยาวจนถึงต้นปี 2566 โดยได้อาศัยอยู่ในคอนโดฯ เดียวกัน แต่ว่าทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน ทำให้นายคิมย้ายออกไป และต่อมาได้ส่งข้อความถึงคุณกานต์ว่า จะไปจ้างทนายความเพื่อขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว กระทั่งต่อมา ทั้งคู่ได้ไปตกลงกันที่สำนักทะเบียนเขตพระโขนง มีสิทธิ์ดูแลลูกร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อเดือนมกราคม 2566

พอมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นายคิม ได้มาเช่าห้องคอนโดฯ อาคารเดียวกันกับคุณกานต์ แต่ไม่บอกว่าอยู่ห้องไหน และมาขอทำตกลงแบ่งวันที่ลูกจะต้องไปอยู่กับพ่อและแม่ โดยวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ ลูกสาวจะอยู่กับคุณกานต์ ซึ่งจะมีวันพฤหัสบดีวันเดียว ที่นายคิมจะไปรับลูกที่โรงเรียน ส่วนนายคิมจะรับตัวลูกสาวไปดูแลตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ และส่งคืนวันอังคาร เวลา 19.00 น.

ทุกอย่างดำเนินไปแบบนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยที่คุณกานต์ไม่รู้เลยว่า นายคิม อดีตสามี กำลังวางแผนอะไรไว้ และพอถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2566 คุณกานต์ไปส่งลูกสาวให้อดีตสามีเหมือนเดิม ซึ่งตามข้อตกลงที่ทำไว้ด้วยกัน นายคิมจะต้องนำลูกสาวมาส่งให้คุณกานต์ ช่วงค่ำวันอังคารที่ 18 เมษายน

แต่ช่วงเย็นของวันที่ 18 เมษายน นายคิมส่งข้อความมาบอกคุณกานต์ว่า จากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะดูแลลูกอย่างดี คุณไม่ต้องรอเธออีกต่อไป จากนั้น นายคิมก็โทรศัพท์มาบอกเธอว่า ได้พาลูกสาวไปประเทศมาเลเซียแล้ว และจะไม่ให้ลูกเจอกับแม่อีก และให้ไปฟ้องร้องที่ศาลเอาเอง

คุณกานต์ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และรีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ พบว่า วันที่ 16 เมษายน หลังจากที่เธอนำลูกไปส่งให้นายคิมได้ไม่นาน ปรากฏว่า นายคิมได้นำลูกสาวออกจากคอนโดฯ โดยมีกระเป๋าเดินทางด้วย และที่น่าแปลกใจ ยังปรากฏภาพของปู่และย่าลูกสาว หรือพ่อแม่ของนายคิม ออกจากคอนโดฯ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาจมีการวางแผนลักพาตัวลูกสาวไว้ก่อนแล้ว

ด้วยความเป็นห่วงลูก คุณกานต์ พยายามติดตามหาลูกทุกวิถีทาง จนรู้ข้อมูลว่า นายคิมเดินทางเข้าไทยด้วยเครื่องบิน สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 หรือ 12 วันก่อนก่อเหตุลักพาตัวลูก และเดินทางออกจากประเทศไทย วันที่ 17 เมษายน 2566 หรือเดินทางออกไป 1 วัน ก่อนที่นายคิม จะโทรศัพท์หาเธอ ทางด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

ซึ่งเมื่อเธอไปไล่ตรวจสอบตามโรงแรมที่ปาดังเบซาร์ ก็พบว่า นายคิม พร้อมลูกสาว และพ่อแม่ของนายคิม ได้ไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง และออกจากโรงแรมวันที่ 17 เมษายน เพื่อข้ามแดนไปมาเลเซีย แต่ลูกสาวออกจากไทยผ่านด่านไปมาเลเซียได้อย่างไร เนื่องจากหนังสือเดินทางของลูกสาว อยู่กับคุณกานต์ ส่วนการเดินทางจากคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ไปยังด่านปาดังเบซาร์ ก็พบว่า อดีตสามีแอบซื้อรถยนต์ไว้เป็นพาหนะเดินทาง แต่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว ไม่ได้นำข้ามแดนไปด้วย

ไม่เพียงตามหาในประเทศไทยเท่านั้น คุณกานต์ได้บินไปมาเลเซีย ไปตามหาลูกที่บ้านของนายคิม ซึ่งปกติในบ้านหลังนี้ จะมีพ่อแม่ของนายคิม ซึ่งไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านตลอดเวลา แต่ว่าในวันที่เธอเดินทางไปที่บ้านหลังนี้ หลายครั้ง ไม่ปรากฏว่ามีคนอยู่ที่บ้าน พยายามโทรศัพท์หานายคิม ก็ติดต่อไม่ได้ ยิ่งทำให้คุณกานต์รู้สึกวิตกต่อความปลอดภัยของลูกสาวอายุเพียง 3 ขวบกว่า ว่า จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ตอนนี้ คุณกานต์เดินทางเข้าออกมาเลเซียเพื่อตามหาลูก เธอทุ่มทุกอย่าง ทั้งจ้างทนายความ และจ้างนักสืบ เพื่อที่จะตามหาลูกให้เจอ เพราะว่าถ้านับจากวันสุดท้าย 16 เมษายน ที่เจอลูก จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 3 เดือนกว่า แล้ว ซึ่งยังมีความหวังว่าจะได้เจอลูก

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35