logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ทางแพร่งของ “เพื่อไทย” มัดแน่นหรือปล่อยมือ ? ด้าน “ชลน่าน” ยัน ไม่ปล่อยมือ “ก้าวไกล”

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวานนี้ การโหวตนายกฯ รอบที่ 2 จบลงด้วยการลงมติของสมาชิกรัฐสภา ว่าไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

405 ครั้ง
|
20 ก.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวานนี้ การโหวตนายกฯ รอบที่ 2 จบลงด้วยการลงมติของสมาชิกรัฐสภา ว่าไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ซ้ำได้ บทบาทแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมาตกอยู่ที่เพื่อไทย แต่ว่า สว. และพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ประกาศในทิศทางเดียวกันว่า แม้จะเสนอแคนดิเดตนายกจากเพื่อไทย แต่หากมีพรรคก้าวไกล ร่วมด้วย ก็จะไม่โหวตให้ ตอนนี้ถนนทุกสายทางการเมือง จึงไปจับตาอยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่า จะตัดสินใจอย่างไร
 
ชลน่าน ยืนยัน เพื่อไทย ไม่ปล่อยมือ ก้าวไกล
 
ที่รัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรค ว่า มติเสนอชื่อ นายพิธา ซ้ำไม่ได้ ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะจะผูกมัดต่อไปในอนาคต แต่จะเป็นเพียงการผูกมัดแค่มาตรา 272 เมื่อเปลี่ยนไปใช้มาตรา 159 แต่งตั้งนายกฯ ข้อผูกพันนี้จะลดไป อย่างไรก็ตาม ทราบว่าเบื้องต้น เลขาฯ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล พูดคุยกัน ซึ่งก็รอว่าจะมีการนัดหมายเมื่อใด ส่วนความคิดเห็นของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า นายบวรศักดิ์ ไม่เห็นด้วยกับผลการลงมติของรัฐสภา และยังแนะนำว่าใครเห็นว่าถูกละเมิดสิทธิ์ สามารถไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้
 
เมื่อถามว่า วันนี้ใช้คำว่า เพื่อไทย ต้องรอพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรอ ในฐานะที่เป็น 8 พรรคร่วม ซึ่งการตัดสินใจและท่าทีอยู่ที่พรรคก้าวไกลก่อน เมื่อถามย้ำว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ปล่อยมือพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยัง ยังอยู่ ส่วนการเสนอชื่อนายกฯ ครั้งต่อไป จะต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่การหารือที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ โดยรอนัดหมาย อาจเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็แล้วแต่จะนัดหมายกัน
 
ต่อคำถามว่า แกนนำพรรคก้าวไกลหลายคน ไม่พอใจการทำงานของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีใครพอใจ ส่วนตัวก็ไม่พอใจเหมือนกัน จะเสนอญัตติโดยใช้เสียงข้างมากธรรมดา โดยไม่มีช่องทางที่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้ แต่เมื่อออกมาเช่นนั้นก็ต้องยอมรับ เพียงแต่สิ่งหนึ่งที่อาจมีความแคลงใจ คาใจและไม่พอใจ คือเสียงข้างมากไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และจะทำให้ระบบรัฐสภามีปัญหาแน่นอน
 
บทเรียนครั้งนี้ สามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขได้ เมื่อหมดวาระของ สว. ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนำเรื่องการให้ความเห็นชอบนายกฯ มากำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมสภา อะไรที่เป็นข้อจำกัดในข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไปบัญญัติไว้ในข้อบังคับการประชุมสภาฯ แทน และหาก พรรคก้าวไกล จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมติที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า สมควรยื่น อะไรที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็ควรดำเนินการ
 
ต่อข้อถามว่า พรรคเพื่อไทย ห่วงว่าถ้ายังจับกับ พรรคก้าวไกล แล้วเสนอชื่อรอบ 3 หรือรอบต่อ ๆ ไป จะไม่ผ่านเหมือนกันใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เสนอชื่อซ้ำก็ห่วงทุกมิติ ถ้าเขาเห็นว่าเราไม่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย ทุกคนก็ยากมากที่จะฝ่าด่านไปได้ ดังนั้น หลักการคือพรรคแกนนำไม่ว่าพรรคใดต้องแสวงหาความมั่นใจว่าเสนอไปแล้วจะผ่าน ไม่มีใครรบบนสมรภูมิที่แพ้ แล้วจะรบอีก เพราะเราก็จะเสียคนของเราไปด้วย โดยเฉพาะถ้าเรามีเพียงคนเดียว เราเสนอไม่ได้อีก มันก็จบ นี่คือปัญหา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงขั้นพลิกขั้วหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่คิด เมื่อถามยํ้าว่าหลักการที่จะเอาชนะ คือมีพรรคก้าวไกลร่วมด้วยใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีหรือไม่ แต่ขณะนี้ ยังมี 8 พรรคร่วม
 
นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย วิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างดุเดือด นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ความคิดเห็นของแต่ละคนถือเป็นเสรีภาพ ยังถือเป็นความเห็นรวมไม่ได้ หากเป็นความเห็นรวมต้องนั่งปรึกษาหารือกันถึงจะออกมาเป็นความเห็นของ 8 พรรค ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความเห็นว่า ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลไปเลย และให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะอาจจะมองว่า มีความเป็นไปไม่ได้เลยในการจัดตั้งรัฐบาล จึงแสดงความเห็นถึงช่องทางที่จะเป็นไปได้มากกว่า ส่วนตัวคิดว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คงคิดแบบนั้น
 
เศรษฐา รับเกมกำลังบีบให้ข้ามขั้ว แต่ต้องให้เกียรติ 8 พรรคร่ว
 
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไป เรื่องมาตรา 112 ต้องไม่อยู่ในการแก้ไข ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. และอีกหลายพรรค พรรคเพื่อไทย คงมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ เพราะถ้ามีเรื่องแก้มาตรา 112 คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ พรรค ต่อคำถามจะมีการดึงพรรคอื่นมาร่วมกับ 8 พรรคไหม นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องหารือกับ 8 พรรคก่อน ต้องให้เกียรติ 8 พรรคร่วม
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดไหมว่าเกมกำลังบีบให้ข้ามขั้ว นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่าคิด แต่เป็นเรื่องที่กรรมบริหารพรรคเป็นคนตัดสินใจ แต่ทั้ง 8 พรรค ยังอยู่ด้วยกัน การที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ต้องให้เกียรติคนที่เป็นผู้เจรจา และให้เกียรติพรรคร่วม
 
อนุทิน เผย เพื่อไทย ยังไม่ติดต่อมา ย้ำไม่ร่วมงานพรรคแก้  ม.112
 
ขณะที่พรรคอันดับ 3 ที่กำลังถูกจับตามองที่สุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ย้ำว่า ท่าทีของพรรคต่อการร่วมรัฐบาลยังคงเป็นเหมือนเดิม ตามที่ออกแถลงการณ์แล้ว คือไม่สามารถร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และไม่สนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล คงต้องรอให้สถานการณ์เดินต่อไปเรื่อย ๆ เพราะฝั่งที่จัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังอยู่ด้วยกัน
 
เมื่อถามว่า มองหรือว่าการตั้งรัฐบาลนี้มันเป็นทางตันแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามทางพรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ทางพรรคภูมิใจไทยบอกแล้วว่ารักษามารยาท เล่นตามกติกา และมันยังไม่ถึงพรรคเบอร์ 3
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าถึงทางตันแล้วพรรคเบอร์ 3 กับ 4 พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ให้ถึงเวลานั้น ซึ่งการพร้อมไม่พร้อมเป็นนายกฯ มันเป็นไปตามข้อเสนอที่พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้นเลย เมื่อยังไม่ถึงจุดนั้น ก็ต้องรักษามารยาท
 
เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลัวประชารัฐ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย และก็ไม่ได้มีการติดต่อหารือระหว่างพรรคการเมืองเลย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีการลงมติเลือกนายกฯ รอบที่ 3 พรรคภูมิใจไทย จะมีการประชุม สส. ของพรรค 1 วัน ก่อนจะมีการร่วมรัฐสภา พรรคมีการประชุม สส. เป็นประจำอยู่แล้ว
 
อมรัตน์ ตอบ เสรีพิศุทธ์ ด้อมส้มเป็น คนที่ประจักษ์รู้
 
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นหนึ่งใน สส. ที่ไม่ลงมติให้โหวตชื่อ นายพิธา ซ้ำอีกครั้ง เมื่อวานนี้ และต่อมายังให้สัมภาษณ์สื่อพาดพิงถึงผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล หรือที่เรียกกันว่า ด้อมส้ม พร้อมกับคำถามว่า ด้อมส้มเป็นใคร พวกนั้นมีความรู้แค่ไหน เป็นแค่เด็กวานซืน อายุ 18 ปี สมองยังไม่มี ไปปิดสภาจะเอากำลังไปล้อม ไม่มีใครกลัวหรอก พิธา ก้าวไกล เป็นแบบนี้ มันถึงพัง เพราะเชื่อด้อมส้ม
 
ล่าสุดวันนี้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ตอบคำถามว่า ด้อมส้มเป็นใคร ดังนี้ ด้อมส้ม คือ คนที่ประจักษ์รู้ ว่า สู้เป็นไทถอยเป็นทาส ปฎิกริยาของพวกเขาหลากหลาย และใช่ อาจมีที่ดูเกินเลยไปบ้าง เพราะผู้มีอำนาจใช้นิติสงคราม ทำให้พวกเขาไม่เหลือความหวังกับกระบวนการทางกฎหมายอีกแล้ว พวกเขาโกรธแค้นต่อความอยุติธรรมอำมหิต ของผู้มีอำนาจเหนือการเลือกตั้ง
 
ชะตากรรมยังไม่จบ วิบากต่อไปที่ ก้าวไกล ต้องเผชิญ
 
สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น การที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง กกต. กรณีนายพิธาถือหุ้นไอทีวี และสั่ง นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น ถือได้ว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อีกทั้งไม่ได้มีเรื่องเดียวเท่านั้น ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีอีกเรื่อง คือกรณีที่มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่พรรคก้าวไกล หาเสียงว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ด้วย ซึ่งโทษสูงสุดอาจถึงขั้นยุบพรรค
 
คดีนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพุทธอิสระ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยสั่งให้ นายพิธา และ พรรคก้าวไกล เลิกการดำเนินการใด ๆ หรือการกระทำใด ๆ เพื่อยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 รวมไปถึงให้เลิกแสดงความเห็น เลิกพูด เลิกเขียน เลิกพิมพ์ เลิกโฆษณา และสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 และต่อมา 12 กรกฎาคม ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี รอบแรก 1 วัน ศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีมติรับคำร้องไว้วินิจฉัย ซึ่งผลของคดีนี้ อาจมีผลไปถึงขั้นการยุบพรรค และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
 
ส่วนคดี นายพิธา ถือหุ้นไอทีวี หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อวานนี้ และมีคำสั่งให้ นายพิธา ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เป็นแค่การเริ่มต้น นับจากเมื่อวานนี้ นายพิธา มีเวลา 15 วัน ในการยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีนี้ มีแนวโน้มสูงมากที่ นายพิธา จะถูกวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น สส. ซ้ำรอยกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตไกล เมื่อปี 2562 และอาจโดนร้องในคดีอาญาเพิ่มด้วย
 
กรณีคดี 2 คดีของพรรคก้าวไกล ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญนั้น รองศาสตราจารย์ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความเห็นว่า ระบอบรัฐประหารมีเป้าหมายที่จะไม่ให้มีพรรคแบบก้าวไกลอยู่ในสภาอย่างแน่นอน หากมองย้อนประวัติศาสตร์กลับไป สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ไทยรักไทย, พลังประชาชน, ไทยรักษาชาติ, อนาคตใหม หรือเหตุที่เคยเกิดขึ้นกับอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร, สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะให้เกิดขึ้นกับก้าวไกลเช่นกัน
 

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35

 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/0UJ77NTi4mE

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง