เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากนี้ต้องจับตาเกมการเมืองที่คาดว่า ก้าวไกล จะต้องส่งไม้ต่อให้กับพรรคอันดับ 2 คือ เพื่อไทย เสนอชื่อนายกฯ ท่ามกลางการจับตาว่า เพื่อไทย จะทิ้งก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้าน เพื่อแลกกับคะแนนโหวตของ สว.ไปติดตามกับคุณกาย สวิตต์
หลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล หมดสิทธิ์ ชิงเก้าอี้นายกฯอีก เท่ากับว่า เป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอแคนดิเดตนายกฯของพรรคตัวเอง
แต่ท่าทีของ สว. และอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ประกาศชัดเจนว่า จะไม่โหวตให้เพื่อไทย ถ้ายังจับมือกับก้าวไกล จึงต้องจับตา เพื่อไทยว่า จะตัดสินใจอย่างไร
ก่อนการโหวตนายกฯรอบ 2 เพียงหนึ่งวัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ทำนายไว้ว่า นายพิธา จะไม่ได้เป็นนายกฯ และสุดท้าย ก้าวไกล จะต้องไปเป็นฝ่ายค้าน
และเพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่ต้องพลิกขั้วมาจับมือกับอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิม คือ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประธิปัตย์ โดยจะต้องสลัดก้าวไกลทิ้ง เพื่อจะได้เสียงความเห็นชอบจาก สว. เพราะหากมีชื่อก้าวไกลในพรรคร่วมรัฐบาล แม้เสนอชื่อนายกฯ เพื่อไทยไปก็ไม่ผ่าน
มุมมองของนายชูวิทย์ คล้ายกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่มองว่า ต่อไปนี้ สว.และ พันธมิตรสามพรรค คือ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ มีอำนาจต่อรองกับ เพื่อไทยว่า หากครั้งหน้า เสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยมา โดยยังมีก้าวไกลอยู่ ก็จะไม่ลงคะแนนให้
ทำให้เพื่อไทย อาจไม่กล้าเสี่ยงแบกก้าวไกลไว้อีกต่อไป เพราะหากเสนอคนของเพื่อไทยแล้วไม่ผ่าน ก็อาจเป็นญัตติซ้ำ สุดท้ายจะกลายเป็นญัตติซ้ำไปเรื่อยๆ จนแคนดิเดตหมดสต็อก
นายปิยบุตร เชื่อว่า หากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นประธานรัฐสภา มั่นใจว่า จะกล้าใช้อำนาจประธานยืนยันว่า การเสนอชื่อนายกฯ ไม่ใช่ ญัตติ หรือต่อให้ลากไปเป็นญัตติซ้ำ แต่ก็มีข้อยกเว้นในข้อ 41 ตอนท้ายว่า เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เสนอซ้ำได้
แต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลับมองไม่เหมือนกับนายชูวิทย์ และนายปิยบุตร
เชื่อว่า หลังจากนี้จะเป็นโอกาสของเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่คิดว่า เพื่อไทยจะสลัดพรรคก้าวไกลทิ้ง เพราะเพื่อไทย ก็เคยประกาศว่า จะไม่ร่วมกับพรรคของฝ่ายอำนาจเก่า เพื่อไทย จึงไม่น่าจะสลัดก้าวไกล ให้ไปเป็นฝ่ายค้าน
แม้จะมี สว.ฮาร์ดคอร์ส่วนหนึ่งที่ยังไม่ยอมเหมือนเดิมก็ตาม แต่เชื่อว่า จะได้รับเสียง สว.มากขึ้นกว่าเดิมจนเพียงพอได้เป็นรัฐบาล
หลังจากนี้ต้องจับตา การเสนอชื่อโหวตนายกฯในรอบที่ 3 วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ว่า ถ้าเพื่อไทย ได้เสนอชื่อนายกฯ จะยังคงเป็นขั้วเดิม 8 พรรคที่มีก้าวไกล หรือ เป็นขั้วใหม่ที่ไม่มีก้าวไกลแล้ว เติมพรรคอำนาจเก่าเข้าไป หรือ สุดท้ายจะเป็นการสลับขั้ว โดยขั้วเดิมจะมีแค่เพื่อไทย ร่วมรัฐบาล แล้วจะดันพลเอก ประวิตร เป็นนายกฯ เพื่อจะได้เสียงสนับสนุนจาก สว. ก็ต้องติดตามกันต่อไป
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35