logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

“สว. กิตติศักดิ์” แย้ม ! โหวตนายกฯ รอบ 2 วันที่ 19 ก.ค. นี้ เกมอาจเปลี่ยน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ที่ประกาศตัวมาตั้งแต่ต้นว่า จะไม่โหวตให้นายพิธ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

369 ครั้ง
|
14 ก.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ที่ประกาศตัวมาตั้งแต่ต้นว่า จะไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ และในการโหวตเมื่อวานนี้ ก็เป็นหนึ่งใน สว.34 คน ที่โหวตไม่เห็นด้วย ซึ่งวันนี้ นายกิตติศักดิ์ ก็ยืนยันว่า จากการสำรวจเสียง สว. ด้วยกันเอง ในการโหวตวันที่ 19 นี้ ถ้ายังเสนอชื่อนายพิธา น่าจะได้เสียง สว. น้อยกว่าเมื่อวานนี้อีก พร้อมกับแย้มว่า จับตาดูวันที่ 19 นี้ ใน 8 พรรคร่วม อาจมีบางพรรคพลิกขั้ว และเสนอชื่อนายกฯ แข่งกับนายพิธา
 
สว. กิตติศักดิ์ แย้มโหวตนายกฯ 19 ก.ค.นี้ เกมอาจเปลี่ยน
 
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ที่โหวตไม่เห็นด้วย กับการให้นายพิธา เป็นนายกฯ ให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน อธิบายถึงการงดออกเสียงของเพื่อนสมาชิก สว. ที่มีมากถึง 159 เสียง ว่าการงดออกเสียงคือการไม่เห็นด้วย ดังนั้นก็เป็น สว.ที่ไม่ให้คะแนนนายพิธา ส่วน สว. ที่ไม่เดินทางมาร่วมโหวตเมื่อวาน ทราบจากหลายคนว่า บางคนกังวลเรื่องม็อบ บางคนไม่สบายใจที่มีการต่อว่า บุลลี สว. ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่มาร่วมโหวต
 
ส่วนวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ สว. ไม่ได้เตรียมการอะไร อยู่ที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเสนอใครเป็นนายก แต่ในมุมของตนเอง 8 พรรคร่วมควรเสนอคนใหม่ ไม่ใช่นายพิธา เพราะนายพิธา ได้เสียงไม่ใกล้เคียง 376 เสียง จึงไม่ควรเสนอชื่อมาอีก เปรียบเสมือนสินค้ามีตำหนิแล้ว
 
ต่อคำถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลยอมถอยการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สว. จะเปลี่ยนใจโหวตให้หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า ถ้าเห็นเมื่อวาน สว. หลายคนพยายามบอกนายพิธาแล้วว่ายอมถอยสักก้าวไม่ได้หรือ แต่ผลลัพธ์ก็คือนายพิธา และพรรคก้าวไกล ไม่สามารถถอยได้ แม้ว่าวันที่ 19 พรรคก้าวไกลจะมาบอกว่า ไม่แก้มาตรา 112 แล้ว ก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว หรือแม้หากยืนยันเด็ดขาดว่าไม่แก้แน่ ๆ ในส่วนตัว ไม่โหวตให้อย่างแน่นอน เพราะดูจากพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลที่ปรากฏในอดีต
 
ส่วนที่ตนเองให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 19 นี้ อาจได้เห็นเลือดท่วมจอนั้น เป็นการสัมภาษณ์ให้ดูสนุก ๆ เหมือนการดูละคร ถ้าหากว่าพรรคร่วมยังเสนอชื่อนายพิธา ก็คิดว่าจะมีคนแข่ง จับสัญญาณหลังจากโหวตเมื่อวานนี้ เห็นว่าพรรคเพื่อไทยเอง ก็คงคิดว่าไม่น่าจะไปต่อได้แล้ว สิ่งที่จะเป็นไปได้ คือจูงมือกันไปอำเภอเพื่อไปหย่า
 
นายกิตติศักดิ์ บอกว่า เหตุการณ์วันที่ 19 อาจจะเกิดเหตุการณ์ประมาณเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด มีการชิงไหวชิงพริบกัน สนุกตื่นเต้น แต่ตนไม่ก้าวก่าย ดูอยู่ห่าง ๆ แล้วแต่ว่า 8 พรรคร่วมจะเสนอใครมา และถ้า 8 พรรคร่วมดึงดันเสนอชื่อนายพิธา อีก คะแนนจาก สว. ไม่น่าจะแตกต่างจากเมื่อวาน และค่อนข้างแน่นอนว่าอาจมีพรรคอื่นเสนอแคนดิเดตนายกฯ มาแข่ง พรรคเพื่อไทย ควรรวบรวม สส. ให้เกิน 250 และต้องไม่มีก้าวไกลรวมอยู่ด้วย แล้วเสนอแคนดิเดตมา สว.จะโหวตให้ ส่วน สว. ถ้ามีการเสนอชื่อนายพิธา มาอีก จะมี สว.หลายคน ปวดหัวปวดท้อง ลาป่วยกันพอสมควร และคะแนนจาก สว. อาจจะได้น้อยกว่าเดิม
 
จรุงวิทย์ เผยโหวตเห็นชอบ พิธา เพราะเคารพเสียงประชาชน
 
ด้านพันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา สมาชิกวุฒิสภา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ซึ่งเป็น 1 ใน 13 สว. ที่ลงมติเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วานนี้ (13 ก.ค.66) เปิดเผยว่า การโหวตเห็นชอบของตนนั้น มีเหตุที่ใกล้เคียงกับนายพีระศักดิ์ พอจิต สว. ซึ่งโหวตเห็นชอบ เพราะคิดถึงความคาดหวังของประชาชนเป็นหลัก
 
พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ในฐานะอดีตเลขาธิการ กกต. ผมจัดเลือกตั้งมา หลักการคือจับขั้วกันได้ข้างมากสุดต้องยอมรับ หลักคือเป็นการเคารพเสียงประชาชน
 
สำหรับข้อกังวลใจเกี่ยวกับการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ชี้ว่า ในการโหวตเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เป็นการพิจารณาผู้สมควรรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การพิจารณากฎหมาย ขณะที่ในบันทึกความเข้าใจร่วมกันหรือ MOU ของ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้กล่าวถึงการแก้ไขมาตรา 112 แต่อย่างใด
 
ทั้งนี้ คำร้องเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้นำเข้าสู่กระบวนการแล้ว ไม่ควรนำมาปะปน เพราะเป็นเรื่องพรรคต้องเสนอร่างแก้ไขเข้าสู่สภาฯ ไม่ใช่ในนามของคณะรัฐมนตรี เป็นคนละสนามกัน ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ระบุต่อว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไรหลังลงมติเห็นชอบ เพราะทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง ก็มีความเห็นของตัวเอง ต่างคนต่างมีหลักการที่ตนเองเชื่อ จะไปว่าใครผิดใครถูกไม่ได้
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/MBOGL3fWSBs

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง