หลังจากการโหวตนายกรัฐมนตรี ผลสรุปว่าคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่ได้รับความเห็นชอบด้วยจำนวนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งสองสภาคือ 376 เสียง จึงต้องมีการนัดโหวตกันอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. นี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะต้องไปเตรียมแก้ไขข้อผิดพลาดในวันนี้ และอาจจะมีบุคคลปริศนา เข้ามาลุ้นตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ ?
วันที่ 13 ก.ค. 66 รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า การไม่มาลงคะแนน งดออกเสียง และไม่เห็นชอบ คือคะแนนในกลุ่มเดียวกัน ตนเห็นว่าไม่มีอะไรที่สำคัญเท่ากับการเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงอ้างว่าติดภารกิจอาจเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะ สว.บางคนที่เคยบอกว่าจะโหวตให้พิธา แต่วันนี้กลับไม่มาลงคะแนน
ส่วนวันที่ 19 ก.ค. จะสามารถเสนอชื่อคุณพิธาได้อีกครั้ง โดยทางพรรคก้าวไกลอาจจะต้องปรับแก้กลยุทธ์ในการหาเสียงโหวตให้พิธาอีกครั้ง รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ให้ความเห็นว่า การเสนอชื่อคุณพิธาไปเรื่อย ๆ อาจไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
รศ.สมชัย ชี้ว่าถ้าหากพรรคก้าวไกลไม่หาพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่ม อาจจะเป็นเรื่องยากที่พิธาจะได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือถ้าหากโหวต 2-3 ครั้งแล้วไม่ผ่าน หรือไม่ได้คะแนนมากกว่าเดิม อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยมาเป็นตัวแทนบ้าง รศ.ดร.เจษฎ์ เชื่อว่าวันที่ 19 ก็ยังไม่สามารถโหวตนายกฯ จบได้เช่นกัน
ส่วนปมถือหุ้นสื่อของคุณพิธา รศ.สมชัย มองว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่าการแก้ไขมาตรา 112 เนื่องจากถ้าหากโหวตให้พิธาเป็นนายกฯ แล้วศาลตัดสินว่าพิธาผิดจริง คนที่โหวตอาจจะมีความผิดด้วยเช่นกัน จึงอาจกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ สว.ไม่โหวตให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งสองท่านเชื่อว่า ถ้าหากเพื่อไทยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลแล้วมีก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย อาจจะไม่ได้รับเสียงโหวตจาก สว.มากพอเช่นกัน อาจจะต้องมีการสลับขั้วรัฐบาล โดยเพื่อไทยจะไม่ปล่อยมือจากก้าวไกล แต่ก้าวไกลจะเป็นฝ่ายที่ปล่อยมือจากเพื่อไทย แล้วกลายเป็นฝ่ายค้าน ถ้าหากยังไม่ผ่อนคลายจุดยืนของตัวเอง
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม