ตำรวจออกเตือนประชาชนให้ระวังแก๊งหลอกโอนเงิน อ้างเพื่อนสนิทยืมเงินพบผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 10,000 คน มูลค่าความเสียหายสูงถึง 370 ล้าน
พล.ต.อ. สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมคณะ ออกแถลงเตือนภัยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สถิติได้รับการแจ้งความคดีออนไลน์สูงที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น คือ คดีการแอบอ้างของคนร้ายเป็นคนรู้จักเพื่อยืมเงิน เพียงสัปดาห์เดียวพบการเข้าแจ้งความเพิ่มสูงขึ้น
รูปแบบการทำงานของคนร้าย ใช้วิธีการโทรศัพท์หาเหยื่อ หลังจากแกล้งถามว่า "ทำอะไรอยู่ และจำได้หรือไม่ว่าเป็นใคร" ทำให้เหยื่อพยายามคิดว่าเสียงปลายทางเหมือนกับคนสนิท โดยพูดชื่ออกไปเพื่อทวนให้แน่ชัด ซึ่งคนร้ายจะสวมรอยทันที โดยอ้างว่าเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ วันถัดมาคนร้ายจะโทรศัพท์มาหาอีกครั้ง โดยอ้างว่าต้องใช้เงิน แต่ลืมบัตรเอทีเอ็ม หรือแอปพลิเคชันธนาคารใช้งานไม่ได้ โดยรับปากว่าจะคืนเงินให้ตอนเย็นเพื่อให้เหยื่อวางใจ
ตำรวจนำแนะวิธีป้องกัน คือ การสอบถามข้อมูลเชิงลึกของบุคคลที่เรารู้จักเพื่อทดสอบกับมิจฉาชีพ โดยให้ติดต่อไปยังบุคคลที่รู้จักในช่องทางอื่น หากต้องการโอนเงินไปยังบุคคลที่เราไม่รู้จัก ให้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพไว้ก่อน
ตำรวจได้เชิญชวนประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงและวิธีการหลอกลวงของคนร้าย โดยเข้าไปทำแบบทดสอบ 40 ข้อ ซึ่งจะทำให้เรารู้วิธีการรับมือกับมิจฉาชีพ ได้ที่ "เว็บไซต์ไซเบอร์วัคซีน" จาก Google form หรือ www.เตือนภัยออนไลน์.com หากทำครบ 40 ข้อ จะได้รับรางวัลโดยใช้ฟรีแอปพลิเคชัน Whoscall Premium Feature 1 ปี หากทำได้คะแนนตั้งแต่ 35 ข้อขึ้นไป มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14