ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรืองไกร ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.หวังตั้งเรื่องสอบปม สส.-สว. เตรียมโหวต พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้
จี้สอบ สส.-สว. จ่อโหวต พิธา เป็นนายกฯ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ ถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตั้งเรื่องตรวจสอบ สส.และ สว.ที่กำลังจะโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) เพราะอาจเข้าข่ายพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่
เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) ไต่สวนความผิดตามมาตรา 151 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
โดยมี สว.บางคน เคยเตือนว่า การโหวตนายกรัฐมนตรี มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) อาจจะกระทำมิได้ เพราะจะขัดต่อมาตรา 159 ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นเหตุต้องร้องให้ ป.ป.ช.ตั้งเรื่องตรวจสอบ
เพื่อไทย ยันเลือก พิธา เป็นนายกฯ
ไปต่อกันที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ทางพรรคมีมติชัดเจน คือ สนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ทางพรรคก้าวไกล อาจเดินสายคุยกับ สว. แต่ขณะนี้คงตกผลึกกันหมดแล้ว และรอลงมติในวันพรุ่งนี้
แย้มรอการเมืองนิ่ง ทักษิณ กลับไทย
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าเรื่องเวลากลับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ไม่อยากให้ถูกโยงเป็นปัญหาการเมือง เพราะถ้าการเมืองยังไม่นิ่ง แล้วทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น โดยต้องรอดูว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้ จะจบลงอย่างไร
แชร์สนั่น! ตร.ประชุมซ้อมแผนรับ ทักษิณ กลับบ้าน
ทั้งนี้ สำหรับประเด็นนายทักษิณ เดินทางกลับไทยนั้น สมาชิกโซเชียลมีการแชร์เอกสารวิทยุในราชการ ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ไปถึงกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-4 กองบังคับการตำรวจจราจร กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
โดยมีเนื้อหาสำคัญ คือ การนัดประชุมเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุก เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้วยเครื่องบินโดยสาร ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดเส้นทางของบุคคลสำคัญ หรือผู้ต้องหาตามหมายจำคุก จากสนามบินดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) การเดินทางจากสนามบินดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ ไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมพิเศษ จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ไปยังศาลฎีกา (สนามหลวง) จากศาลฎีกา (สนามหลวง) ไปยังเรือนจำพิเศษ กทม. หลังจากเอกสารเหล่านี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียล หลายคนเข้ามาแสดงความเห็นว่า บุคคลสำคัญ หรือผู้ต้องหาตามหมายจำคุก คือ นายทักษิณ หรือไม่
วิษณุ แจงเรื่องปกติ ตร.ซ้อมรับ ทักษิณ กลับไทย
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า หากตำรวจจะมีการซักซ้อมตามเอกสาร ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อนายทักษิณ พูดเองว่าจะกลับไทย และถ้ากลับจริง เรื่องต้องเกี่ยวข้องกับตำรวจและกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถูกจำคุกมีการกำหนดหรือไม่ ต้องจำคุกกี่วันถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้มีการกำหนด ถูกจำคุก 1 วัน ก็ขออภัยโทษได้
ตร.ประกาศห้ามชุมนุมรอบอาคารรัฐสภา
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย รอบอาคารรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ ทางพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงนามคำสั่งประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะ ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบอาคารรัฐสภา มีผลตั้งแต่เวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดเวลา 24.00 น.ของวันที่ 15 กรกฎาคม โดยมีการจัดวางกำลังตำรวจไว้ 15 กองร้อย หรือประมาณ 2,676 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กทม.เปิดเผยว่า มีประกาศให้ใช้พื้นที่ตรงศูนย์ราชการเกียกกาย บริเวณถนนด้านหน้า เป็นสถานที่จัดชุมนุม คาดว่า รองรับประชาชนได้ประมาณ 500 คน แต่ถ้ามีมวลชนหลักพัน หรือหลักหมื่นคนนั้น จะต้องขอดูก่อนว่า มีพื้นที่ไหนอีกบ้าง ในละแวกใกล้เคียงรัฐสภา จะเปิดให้ใช้สถานที่จัดชุมนุมได้
เปิดขั้นตอนเลือกนายกฯ คนที่ 30
สำหรับขั้นตอนการโหวตเลือกนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 เป็นต้นไป จะเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีสมาชิกรวมกันทั้งหมด 750 คน แบ่งเป็น สส. 500 คน และ สว. 250 คน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกของรัฐสภาชุดแรกนี้ มติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี ให้กระทำในที่ประชุมร่วมรัฐสภา และต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา นี่จึงเป็นที่มาของการที่ สว. มาร่วมโหวตนายกฯ ด้วย
ส่วนขั้นตอนการโหวตนายกฯ จะเริ่มจากพรรคการเมืองที่มี สส. ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป สามารถเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามบัญชีของพรรคได้ แต่ต้องมี สส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ให้การรับรองตามกฎหมายนั้น ไม่มีข้อบังคับให้ต้องแสดงวิสัยทัศน์ แต่ที่ประชุมครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกเสนอชื่อได้แสดงวิสัยทัศน์ และแนวทางการทำงานในอนาคต รวมทั้ง ให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปราย กรอบเวลา 6 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น สส. พรรคละ 1 คน ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ที่เหลืออีก 2 ชั่วโมง เป็นของ สว.
เมื่อถึงขั้นตอนการลงมติ ต้องทำอย่างเปิดเผย เรียงชื่อตามลำดับอักษร พูดชื่อแคนดิเดตที่เลือก แบบเสียงดังฟังชัดทีละคน ซึ่งคาดการลงมติ จะมีขึ้นภายในเวลา 17.00 น.
ถ้าได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไป จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที แต่ถ้าในกรณีที่โหวตรอบแรกไม่จบ ต้องปรึกษาหารือกัน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งตามที่รับรู้ ตัวแปรสำคัญในการโหวตเลือกนายกฯ ก็คือ สว. และการที่ กกต. มีมติส่ง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกสภาพของคุณพิธา กรณีหุ้นสื่อ พร้อมขอสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ พรุ่งนี้ได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35