เมื่อไม่กี่วันก่อน เราอาจจะเห็นโพสต์ตามหัวตัว "นักธุรกิจชาวเยอรมัน" ที่หายตัวไปอย่างปริศนา โดยให้ค่าเบาะแสหลักล้าน จนนำมาสู่การพบร่างไร้วิญญาณของเขาในตู้แช่เย็น พร้อมถูกหั่นร่างกายอยู่ในนั้น โดยพบว่าก่อนหน้านั้นมีนางนกต่อ และชาวต่างชาติเกี่ยวข้อง วันนี้เราจะมาไขคดี ใครเป็นคนทำกันแน่ !
วันที่ 11 ก.ค. 66 ชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนได้รับเรื่องราวการสูญหายของนายฮันส์ ปีเตอร์ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 66 จากตัวแทนของครอบครัวเขา โดยตัววนายปีเตอร์ก่อนจะหายไปได้บอกแค่ว่าไปคุยธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายที่ ซึ่งเขาได้พบความผิดปกติหลายอย่าง อาทิ การส่งข้อความ sms หา นางสาวแพท ภรรยาของนายฮันส์ ที่ปกติแล้วนายปีเตอร์ไม่ใช้วิธีนี้ แต่จะส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันแทน อีกทั้งเขายังมีงานต่อจากการคุยธุรกิจครั้งนี้ แต่เขาก็หายตัวไปทั้งที่เขาเป็นคนตรงต่อเวลา ขณะเดียวกัน ทางครอบครัวก็พยายามหาตัวนายปีเตอร์ มีการไปไล่กล้องวงจรปิดตามหาตัวเองอยู่ก่อนแล้ว
ทางด้านครอบครัวของนายปีเตอร์ ยังบอกอีกว่า นายปีเตอร์ ไม่ได้ความบาดหมางกับใคร แต่อาจจะเป็นพวกแก๊งมาเฟียที่พัทยาที่เบื้องหลังทำธุรกิจสีเมา มักจะมีพฤติกรรมข่มขู่ชาวต่างชาติ อุ้มรีดไถเงิน ไม่ได้ความบาดหมางส่วนตัว ซึ่งในตอนแรกทางครอบครัว อยากออกมาร้องสื่อเพื่อตามหาตัว เขาบอกว่า ถ้าคนที่จับตัวไปอยากได้เงินค่าไถ่ก็ให้บอกกับเขา แต่ขอให้ยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ลูกชายบิ๊กโจ๊กได้บอกกับตนว่า ผู้ก่อเหตุมีการเตรียมการที่ล่อลวงผู้เสียชีวิตออกมาก่อเหตุ เขาเตรียมการไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว ขณะเดียวกัน ลูกชายของนายปีเตอร์ ที่เป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน เล่าให้ตนฟังว่า วันที่นายโอลาฟ ถูกเรียกไปสอบปากคำ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 66 ขณะที่เขาออกมาสูบบุหรี่ข้างนอก ลูกชายบังเอิญได้ยินนายโอลาฟพูดกับเพื่อนของเขาเป็นภาษาเยอรมันว่า "ถ้าตำรวจไม่เจอร่างก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้" ซึ่งลูกชายนายปีเตอร์เขาฟังออก โชคดีว่านายโอลาฟไม่รู้จักลูกชาย
ดลชนก บุญโยทยาน (ต้อย) รองประธานมูลนิธิวินวิน กล่าวว่า เราพบสัญญาณโทรศัพท์ของนายปีเตอร์ ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่เมื่อเราไปตรวจสอบก็ไม่พบอะไรที่เป็นเบาะแสสำคัญ สำหรับนายโอลาฟ เป็นคนที่หาอสังหาริมทรัพย์มาขายให้กับนายปีเตอร์ โดยผ่านนางเพธา เป็นคนกลางคอยคุยให้ ซึ่งเท่าที่ครอบครัวนายปีเตอร์บอกมา เขาก็ไม่ได้มีการบาดหมางกับใครมาก่อน แต่นายโอลาฟทางครอบครัวไม่ได้รู้จัก
ด้าน ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากกรณีที่นางเพธา นำรถส่วนตัวของเขาเข้าไปเปลี่ยนล้อและยาง ตนมีความเห็นว่า ปกติแล้วผู้กระทำความผิดที่เป็นผู้หญิงจะมีวิธีการคิดที่ละเอียดซับซ้อนกว่าผู้ชาย ดังนั้นความกลัววิตกกังวลก็จะสูงกว่าด้วย และด้วยความที่เป็นชาวยุโรป เขาจะคุ้นชินกับการตามร่องรอยล้อรถ ซึ่งคนไทยจะไม่ค่อยคุ้นชินกัน เขาจึงให้ความสำคัญกับยางรถของเขา อาจจะเป็นไปได้ว่าสถานที่ก่อเหตุ หรือสถานที่ที่รถเขาขับไป มันอาจสาวมาถึงตัวเขาได้ จึงพยายามเปลี่ยนแปลงข้อมูลของตัวรถตัวเอง นอกจากนี้เขายังให้คนอื่นมารับยางของเขาต่อไปอีก
สำหรับเรื่องที่รถของนายปีเตอร์ถูกเอาน้ำยามาล้างภายใน เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างนั้น ดร.ตฤณห์ ได้วิเคราะห์ว่า เวลาที่คนตกใจหลังจากก่อเหตุฆ่าคนตายไปแล้วนั้น เขาจะทำลายหลักฐานอาวุธที่ก่อเหตุก่อนเลย ดังนั้นอาวุธจะเป็นอย่างแรกที่ถูกทำลาย ซึ่งในกรณีนี้สันนิษฐานได้ว่า อาจจะเกิดเหตุฆาตรกรรมในรถ แต่ตนมองว่าที่เขาทำความสะอาดรถ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเช็ดคราบเลือด แต่ทำเพื่อทำลายร่องรอยของตนเอง เพราะว่า หากจะก่อเหตุในรถคงจะเป็นการรัดคอมากกว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องมาดูด้วยว่าตู้แช่นั้นมีการสั่งซื้อมาก่อนหรือไม่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการเตรียมการมาก่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เขาขับรถวนกว่า 160 กม. นั้น ตนมองว่าทำเพื่อเป็นการบันทึกเส้นทางบน GPS หรือ เพื่อให้เห็นว่าไมล์รถเยอะ แล้วอ้างว่าไปที่อื่นมา ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วผู้ก่อเหตุก็จะเป็นคนที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย เกือบทุกคดี
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า หลังจากที่ตนได้เห็นศพ พบว่า ศพเสียชีวิตมาก่อนแล้วถึงได้หั่นศพ และเป็นการแช่แข็งก่อนที่จะเอามาตัด ขณะเดียวกัน ลักษณะของการหั่นก็ไม่ได้มีเจตนาหั่นเพื่อนำชิ้นส่วนไปกระจาย แต่หั่นเพื่อให้เข้ากับตู้ได้ และลักษณะของรอยแผล ชี้ว่าอุปกรณ์ในการตัดอาจจะเป็นเลื่อยไฟฟ้า ทั้งนี้ในตัวชิ้นส่วนของศพ เราแทบไม่พบเลือดเลย คาดว่า อาจจะมีการพยายามทำให้เลือดออกจากร่างกายก่อนจะลงมือหั่น ซึ่งตนก็ได้บังเอิญเห็นว่าบริเวณขาหนีบข้างขวามีรอยแผลที่มีเลือดออก ซึ่งเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนการเสียชีวิต หรือหลังเสียชีวิตไม่นาน ตนเลยสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นจุดนี้ที่มีการเอาเลือดออกจากร่างกาย
ส่วนเรื่องการทำความสะอาดภายในรถนั้น ตนอยากบอกว่า สารทำความสะอาดต่าง ๆ ที่ขายตามท้องตลาดนั้นไม่สามารถทำลายดีเอ็นเอได้ ขณะเดียวกัน ต่อให้ทำความสะอาดอย่างไรก็ตาม ถ้าหากเก็บตัวอย่างดีเอ็นอย่างไรละเอียดยังไงก็เจอ ตามซอก ตามมุม ต่าง ๆ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม