ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พิธา เผยแพร่คลิปร่ายยาว ยืนยันวันโหวตนายกรัฐมนตรี 13 กรกฏาคม นี้ ไม่ได้สำคัญเฉพาะแค่ตนเอง หรือพรรคก้าวไกล แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางการเมืองไทย พร้อมจี้ สส.และ สว.ทำหน้าที่
พิธา ปล่อยคลิปชี้ชะตาโหวต นายกฯ
ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในวันที่ 13 กรกฏาคมนี้ ล่าสุดนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีการปล่อยคลิปความยาว 4 นาที 33 วินาที ผ่านทางทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความประกอบว่า จากพิธาถึงทุกคน ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี 13 กรกฏาคมนี้ ให้โอกาสประเทศไทย ได้มีรัฐบาลเสียงข้างมากตามเจตจำนงของประชาชน เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย คืนความปกติสู่การเมือง
ภายในคลิป นายพิธา ระบุตอนหนึ่งว่า จากวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล มากถึง 14,438,851 เสียง ส่งผลให้พรรคก้าวไกล เป็นพรรคอันดับ 1 ในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 152 คน
แต่เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนหลังการเลือกตั้ง เพิ่งจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และยังต้องรอการตัดสินใจของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนหรือไม่ ตรงนี้ชัดเจนว่า การเมืองไทยไม่ปกติ โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่การเลือกตนเอง หรือพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่เป็นการเลือกว่า ไทยต้องเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยแบบปกติ เช่นเดียวกับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
เรืองไกร หวังขอลายเซ็น พิธา
ขณะที่ช่วงเช้า นายพิธา ได้เดินทางไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ เพื่อร่วมประชุมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) โดยจะมีการหารือเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง
โดยช่วงแรกเหมือนจะไม่มีประเด็นอะไร กระทั่งอยู่ดี ๆ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินทางมายื่นหนังสือที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พอดี พยายามเดินเข้าไปหานายพิธา ซึ่งนายเรืองไกร ได้นำหนังสือวิถีก้าวไกลมาด้วย พร้อมระบุว่า จะนำไปให้นายพิธาเซ็น แต่สุดท้ายไม่สามารถเข้าถึงตัวนายพิธาได้
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการประชุมของ กกต.เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เรื่องหุ้นสื่อนายพิธา ยังไม่มีข้อยุตินั้น ตนเองจึงยื่นทักท้วงหนังสือคัดค้านของพรรคก้าวไกล ให้ กกต.ส่งกลับไปแก้ไข เนื่องจากมีการระบุเลขมาตราผิดถึง 3 ครั้ง ที่จะอ้างมาตรา 82 วรรคสี่ แต่ในหนังสือกลับอ้างมาตรา 84 วรรคสี่ จึงเห็นว่า กกต.ควรส่งคำคัดค้านให้พรรคก้าวไกลไปแก้ไข
กดดัน ก้าวไกล โหวตนายกฯ ไม่ผ่าน ควรเปิดทางพรรคอื่น
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี แสดงความเห็นถึงกรณีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ตามหลักการคนที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ ควรมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล แต่บังเอิญว่า ฝ่ายที่รวมเสียงข้างมากได้ครั้งนี้ มีความผิดปกติ คือ เสี่ยงต่อการล้มล้างการปกครอง การแบ่งแยกแผ่นดิน ทาง สว.จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนว่า ผู้ที่เลือกมาจะสร้างปัญหาให้ประเทศหรือไม่ รวมถึงช่วงหลัง มีการนำมาวลชนกดดัน สว.ตรงนี้จะยิ่งทำให้เสียคะแนน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโหวตนายกรัฐมนตรี จะจบตั้งแต่วันแรกหรือไม่ นพ.วรงค์ มองว่า ตามมารยาทควรจบตั้งแต่วันแรก แต่ถ้าไม่จบ ถือว่าตกรอบแล้ว ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามา ตรงนี้ถือว่าเป็นสปิริต
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Pita Limjaroenrat
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35