ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ เผยสาเหตุหลักเหตุสะพานถล่ม สอดคล้องกับผลการแถลงจากท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ แต่ต้องไปตรวจลึกในรายละเอียดโดยเฉพาะเรื่องขั้นตอนการก่อสร้าง ระบุ หลังจากนี้ทางทีมวิศกรจะตรวจสอบโครงการดังกล่าวละเอียดกว่าทุกโครงการที่เคยตรวจมา
วสท. วิเคราะห์สาเหตุสะพานถล่ม
รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงเหตุที่เกิดขึ้น หลังช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุกับทีมวิศกร รศ.เอนก เปิดเผยว่าการพิจารณาสาเหตุหลัก ๆ มี 3 ประเด็น คือ การออกแบบ, วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง และการก่อสร้าง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ตอนนี้มุ่งไปที่การตรวจสอบขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งหลังจากนี้จะระดมทีมวิศกรหาสาเหตุแบบรอบด้าน และตรวจลึกกว่าทุก ๆ โครงการที่เคยตรวจสอบมา เนื่องจากเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางเมือง และไม่น่าที่จะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
ต่อตระกูล จี้สอบวิศกร ชี้เป็นความประมาทเลินเล่อ
ด้านรองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โครงการทางยกระดับ เขตลาดกระบัง ของ กทม. มูลค่าเกือบ 2,000 ล้าน ยาวถึง 3 กิโลเมตร ได้ถล่มลงมาในระหว่างการก่อสร้าง เหลือเป็นเศษคอนกรีต ขอเสนอในฐานะที่เป็นวิศวกรด้วยกัน ว่าต้องเริ่มสอบสวนที่วิศวกรก่อน สอบจากวิศวกรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน วิศวกรโครงการของผู้รับเหมา และสอบผู้จัดการประมูล ที่ได้มาซึ่งผู้รับเหมารายนี้ด้วย
โครงการก่อสร้างทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 1,938.3 ล้านบาท เป็นของสำนักงานกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน กทม.) 1,664.5 ล้านบาท และงานของการไฟฟ้านครหลวง 273.75 ล้านบาท สัญญาสิ้นสุดต้องเสร็จภายในสิงหาคม 2566 นี้ฝาก วสท. ช่วยส่งทีมวิศวกรจากหลาย ๆ ฝ่าย ให้ความยุติธรรม และให้เหตุผลทางหลักวิชาการวิศวกรรม เพื่อเป็นบทเรียน ไว้ใช้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอีกต่อไป ไม่ใช่อุบัติเหตุ แน่นอน และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
นาทีชีวิต รถเครื่องดับ รอดชีวิตทางยกระดับถล่ม
เหตุการณ์ทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่มเมื่อช่วงค่ำวานนี้ มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 17 คน แต่ว่ายังมีผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายคนที่รอดชีวิตกันอย่างหวุดหวิด ชีวิตบนเส้นด้ายแห่งความเป็นความตาย
คุณเผชิญ ซาวคำ อายุ 46 ปี เป็นหนึ่งในคนที่ขับรถอยู่บนถนนหลวงแพ่งในขณะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คุณเผชิญ เล่าว่า ช่วงเย็นได้มาซื้อของที่ห้างโลตัสกับภรรยา จากนั้นช่วงค่ำ ขับรถกระบะออกจากโลตัส ผ่านหน้าปั๊ม ปตท. ยังคุยกับภรรยาว่า ผ่านบริเวณก่อสร้างนี้น่ากลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นได้ยินเสียงดังมากอยู่ด้านหลัง และเกิดเสียงดังอีกหลายครั้ง เหมือนกำลังมีอะไรถล่มลงมา ภรรยาจึงให้รีบขับรถออกไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางยกระดับที่กำลังก่อสร้างพังลงมา
แต่จังหวะที่พยายามขับรถไปข้างหน้า เครื่องยนต์เกิดดับลง รถหยุดอยู่กับที่ และเสี้ยววินาทีนั้น เสาปูนขนาดใหญ่ ล้มลงเฉี่ยวกระโปรงหน้ารถแบบเส้นยาแดงผ่าแปด จากนั้นโครงเหล็กขนาดใหญ่ ล้มลงมาบนถนนด้านหลัง แต่โชคดีที่ไม่โดนรถยนต์ ลักษณะรถยนต์ถูกทั้งโครงเหล็กและเสาปูนดักหน้าดักด้านหลัง ตอนนั้นมองไปรอบด้านฝุ่นคลุ้งกระจาย จึงเปิดประตูรถ พาภรรยา วิ่งหนีเข้าปั๊ม ปตท. ซึ่งช่วงที่วิ่งหนี ก็เห็นรถคันด้านหลังที่ถูกโครงเหล็กทับ เป็นชาวต่างชาติ เปิดประตูรถวิ่งหนีออกมาเช่นกัน
เมื่อเข้ามาถึงในปั๊มเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เหตุการณ์ตอนนั้นน่ากลัวมาก ไม่คิดว่าจะรอดชีวิตมาได้ ที่ห้อยคอไว้ มีหลวงพ่อทวดองค์เดียว ซึ่งถ้าเครื่องยนต์รถไม่ดับ คงถูกเสาที่ล้มลงมาทับทั้งรถทั้งคนแล้ว
ผู้รอดชีวิต เผยไม่เคยอยากผ่านทางก่อสร้าง
ขณะที่ผู้เป็นภรรยา คือคุณจำเนียร จีนวัง ซึ่งนั่งรถมาด้วยกัน บอกว่า ทำงานอยู่ใกล้บริเวณนี้ และเคยผ่านตรงจุดก่อสร้างแถวนี้ แต่รู้สึกว่ามันน่ากลัว ดูไม่ปลอดภัย ถ้าไม่จำเป็น เธอกับสามี ก็จะไม่ผ่านมาบริเวณนี้ แต่ว่าเมื่อวานต้องมาซื้อของที่โลตัส จึงต้องผ่านเข้ามา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ช่างซ่อม จยย. กับลูก รอดหวุดหวิด โครงเหล็กทับบ้าน
อีกคนที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด คือคุณอภิสิทธิ์ เหล่าสีนาท อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยถ้าคุณผู้ชมสังเกตภาพในข่าว จะเห็นมีอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นหลังหนึ่ง ถูกปลายโครงเหล็กทับบริเวณชั้น 3 ของบ้าน ซึ่งนั่นเป็นบ้านเช่าของคุณอภิสิทธิ์และครอบครัว โดย 2 ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ส่วนชั้นล่าง เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่อภิสิทธิ์กับพ่อทำด้วยกัน
เมื่อวานนี้ ช่วงเย็น อภิสิทธิ์ นั่งซ่อมรถจักรยานยนต์คนเดียวอยู่หน้าบ้าน ลูกสาวคนเล็กวัยขวบครึ่งนอนอยู่ชั้น 2 กับพี่ชายและแฟนของพี่ชาย ส่วนพ่อพาลูกสาวอีกคนวัย 3 ขวบออกไปซื้อของข้างนอก ระหว่างที่เขานั่งซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่ ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากโครงเหล็กก่อสร้าง จากนั้นเหล็กก็ถล่มลงมา และส่วนของปลายโครงเหล็กฟาดลงไปที่ชั้น 3 ของบ้าน ฝุ่นตลบไปทั่วบริเวณ ด้วยความตกใจ เขาวิ่งหนีไปที่ปั๊ม ปตท. ที่อยู่ติดกัน แต่คิดได้ว่าลูกสาวนอนอยู้ข้างบน จึงวิ่งย้อนกลับมา ขึ้นไปชั้น 2 เห็นโครงเหล็กทะลุพื้นชั้น 3 ลงมากลางชั้น 2 เหลืออีกเพียงราว 1 เมตร จะโดนตัวลูกสาว จึงรีบอุ้มลูกวิ่งออกจากบ้าน
ระทึก น้ำมันในปั๊มแสนกว่าลิตร ปิดเสาระบายไอทัน
อีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์แบบใกล้ชิดเลย คือคุณเฉลิมพร เกณเกษกรณ์ เป็นผู้จัดการปั๊ม ปตท. หัวตะเข้ คุณเฉลิมพร บอกว่า ช่วงเกิดเหตุ รถน้ำมัน เพิ่งมาลงน้ำมันในถังใต้ดิน ทำให้มีน้ำมันในปั๊มแสนกว่าลิตร ระหว่างเกิดเหตุมีรถเข้ามาเติมน้ำมันประมาณ 5-6 คัน พอเกิดเหตุโครงสะพานถล่ม โครงเหล็กถล่ม มาโดนเสาไฟ ทำให้เกิดประกายไฟ ซึ่งห่างจากเสาระบายไอน้ำมันประมาณ 20 เมตร ตอนนั้นทุกคนกลัวว่าจะเกิดเหตุระเบิดขึ้น เนื่องจากหากประกายไฟ หรือสะเก็ดไฟ ไปโดนไอน้ำมัน ที่เสาระบายไอ อาจทำให้เกิดระเบิดได้ จึงรีบเปิดสวิชท์หยุดการทำงานของเสาระบายไอ ซึ่งตอนนี้ แม้เหตุการณ์สงบ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่ เนื่องจากยังมีน้ำมันอยู่แสนกว่าลิตร
ตร. เร่งสอบปมโครงการก่อสร้างสะพายถล่ม
ขณะที่ พ.ต.อ.พรรณลบ สำราญสม ผู้กำกับการ สน.จรเข้น้อย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 7 ปาก มีทั้งพยานที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้างไปให้ปากคำที่โรงพัก
ส่วนภาพรวมการจราจร ต้องขอความร่วมมืองดใช้เส้นทางถนนหลวงแพ่ง จุดเกิดเหตุ โดยอาจจะปิดนาน และต้องปิดแบบ 100 ในบางช่วงเวลา หากไม่มีความจำเป็น ไม่ธุรสำคัญเร่งด่วน ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35