จำคุก “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดี DSI 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ยกฟ้องจำเลยอื่นอีก 3 คน จากการที่นายธาริตแจ้งดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จากการสลายม็อบ นปช. เมื่อปี 2553

 

คดีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพวกรวม 4 คน ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง

 

โดยช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายธาริต เดินทางถึงศาลอาญาและได้แถลงกับสื่อ บอกว่าจะเรียกว่าข้อมูลลับก็ได้ ระบุว่า ทันทีที่มีการรัฐประหาร ได้มีการตั้งชุดพิเศษ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่และพลเรือน เพื่อเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และชุดพิเศษนี้ได้ทำงานอย่างประสบความสำเร็จ คือสร้างความไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง คือไม่สามารถเอาผิดผู้เกี่ยวข้องในคดีได้แม้แต่รายเดียว

 

ต่อมา เวลา 17.30 น. ศาลได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยพิเคราะห์พยานหลักฐาน จำเลยที่ 1 หรือ นายธาริต ทราบอยู่แล้วว่า ตนเองและหน่วยงานไม่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนบุคคลทั้ง 2 ที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจหน้าที่สรุปสำนวนเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่กลับชี้นำให้พนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนหาหลักฐาน และรวบรัดเชิญโจทก์ทั้งสองมารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งอยู่ขั้วตรงข้ามทางการเมืองกับโจทก์ทั้งสอง ฟังได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งให้โจทก์ทั้งสองได้รับโทษทางอาญา เพื่อสนองความต้องต้องการของรัฐบาลใหม่และข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับศาลอุธรณ์ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง การลงโทษตามที่ศาลอุธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาศาลอุธรณ์ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2-4 พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างฟังคำพิพากษา นายธาริต มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายธาริต ไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามคำพิพากษาศาลฎีกา