เช้านี้ที่หมอชิต - 13 กรกฎาคม นี้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกล จะหาอีก 64 เสียงมาเติมเพื่อส่ง คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ได้หรือไม่ คงต้องลุ้นเอาจากเสียง สว. 250 คน ซึ่งขณะนี้มีการแสดงจุดยืนออกมาบ้าง ทั้งฝ่ายโหวตตามเสียงข้างมากของประชาชนหนุนคุณพิธา และฝ่ายค้านหัวชนฝายังไงก็ไม่เอาด้วย
ล่าสุด นายสมชาย แสวงการ สว.คนดัง กล่าวว่า ขณะนี้ สว.ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ทุกคนมีวิจารณญาณอยู่แล้ว เอาให้ชัดเจนว่าต้องไม่แก้ไข มาตรา 112, ไม่ต้องยุ่งกับนิรโทษกรรม ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องร่างใหม่ทุกมาตรา รวมถึงหมวดหนึ่งเรื่องความมั่นคง หมวดสองพระมหากษัตริย์ แถลงว่า ผมจะบวชเป็นพระ ไม่แตะอะไรเลย กล้าหรือไม่ หากทำเช่นนั้นได้ก็น่าจะโอเค เห็นด้วยให้ลดเพดาน ซึ่งหากลดเพดานจริง ตนสนับสนุน แต่ต้องชัดเจน ตรงไปตรงมา ตนสนับสนุนคนรุ่นใหม่ แต่คนรุ่นใหม่นั้นควรมีวุฒิภาวะด้วย ซึ่งวุฒิภาวะต้องแสดงออกให้เห็นว่าคุณจะนำพาประเทศไปแทนคนรุ่นตนได้ ตนก็จะวางมือ
ขณะที่ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สว. อีกท่านโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประกาศท่าทีเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 กรกฎาคม ว่า จะน้อมนำคำกล่าวของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) มาเป็นหลักในการลงคะแนนเสียง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กล่าวคือ จะใช้ท่าทีวางเฉยต่อคน เพื่อรักษาธรรม ไม่เห็นแก่คน-แต่เห็นแก่ธรรม วางตัวเป็นกลางต่อคน ไม่ขวนขวายช่วยคน เชียร์คน เพื่อที่จะได้ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงธรรม หรือเพื่อให้เป็นไปตามธรรม
อย่างไรก็ตาม ในฝั่ง สว.ที่สนับสนุนพิธา ก็มีการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนออกมาหลายท่าน พร้อมอธิบายหลักการยึดหลักเสียงข้างมาก เช่น
นายมณเฑียร บุญตัน ระบุว่า สส.เสียงข้างมากเป็นอย่างไร สว.อย่างผมก็เห็นเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องใช้ดุลยพินิจ ไม่ต้องพูดนโยบาย ถ้าอยู่บนเสียงข้างมากประชาชน ยังไงก็ได้เสียงจากผม ซึ่งก่อนหน้านี้ นายมณเฑียร ระบุว่า เคยปิดสวิตช์ตัวเองไปแล้ว ในการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 แต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในการโหวตครั้งนี้ สว.บางคนบอกว่าใช้วิธีงดออกเสียงเพื่อแสดงความเป็นกลาง ซึ่งความจริง การงด มีค่าเท่ากับไม่เห็นชอบ เพราะไม่ได้ลดองค์ประชุมลงไปด้วย การงดออกเสียงจึงเท่ากับว่าเราไม่เห็นด้วย
ส่วน สว.ประภาศรี สุฉันทบุตร ได้ยืนยันในหลักการเดียวกัน พร้อมโต้แย้งในสิ่งที่ สว.บางคนยกมาเป็นเงื่อไขด้วย ว่า มาตรา 112 เรี่องหุ้นไอทีวี เป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา สว.ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้
ขณะที่ หมออำพล จินดาวัฒนะ กล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ตาม อย่าได้แทรกแซง ไม่ว่าอ้างเหตุผลใด ร่วมกันสานพลังสร้างชาติ ตามบทบาทหน้าที่ของทุกฝ่ายจะดีกว่า ประเทศไทยถึงจะไปต่อได้
นอกจากนี้ก็มีความเห็นคล้าย ๆ กัน จาก สว.วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์, สว.ประยูร เหล่าสายเชื้อ, สว.สถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ หรืออีกคนหนึ่งที่ยืนยันว่า เคยประกาศไว้ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้งว่าใครรวมเสียง สส.ได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง จะเลือกพรรคนั้นคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้แต่ขณะนี้หรือในวันที่ 13 กรกฎาคม ก็ไม่เปลี่ยนแปลง จะเป็นคุณพิธาหรือใคร ผมก็โหวตให้ในหลักการเดิม อันเป็นไปตามหลักประชาธิปไตยและความต้องการของประชาชน ก็คือ สว.วันชัย สอนศิริ
แต่แค่ฟังเสียง สว. คงไม่พอ นาทีต้องฟังเสียงประชาชนด้วย ทีมข่าวของเราลงพื้นที่ไปสอบถามพี่น้องประชาชนหลายจังหวัด ไปทั้งหมอชิต และสายใต้ ฟังกันให้หลากหลาย 13 กรกฎาคมนี้ พี่น้องเชื่อว่าคุณพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 หรือเปล่า ไปฟังพร้อมกัน
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม