เช้านี้ที่หมอชิต - นักวิชาการ วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ว่าควรเคารพมติของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคก้าวไกล ด้วยการลงมติให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามฉันทามติของประชาชน ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองวุ่นวายแน่
รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง สว. ขอให้ลงมติเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมติของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลถึงกว่า 14 ล้านเสียง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่เกิดความวุ่นวาย ถามว่า ทำไมนักวิชาการอย่างอาจารย์ต้องลุกขึ้นมาเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง สว.ด้วย อาจารย์นันทนา บอกกับทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ว่า เป็นเพราะกติกาในรัฐธรรมนูญปี 2560 มีลักษณะที่วิปริต ผิดปกติ ตรงที่มีบทเฉพาะกาล ที่ให้อำนาจ สว.มาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนานาอารยะประเทศ ที่มีระบบรัฐสภา เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว หัวหน้าพรรคนั้นก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับประเทศไทย ที่ให้ สว.มามีส่วนในการเลือกนายกฯ ทำให้มีลักษณะอำนาจซ้อนอำนาจ แทนที่จะเป็นอำนาจของประชาชนที่ควรเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนาคตของประเทศ
รศ.ดร.นันทนา มองว่า การที่ สว.ส่วนหนึ่งมีท่าทีไม่ยอมรับนายพิธา โดยอ้างข้อกล่าวหาต่าง ๆ ประกอบกับมีขบวนการที่พยายามร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของนายพิธา ว่าไม่เหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรี นั้น ในส่วนของข้อกล่าวหา ขณะนี้ยังไม่มีศาลใดประทับรับฟ้อง ฉะนั้น นายพิธา จึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์ และมีคุณสมบัติพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น สว.จึงสามารถยกมือสนับสนุนนายพิธา ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมีข้อกังวลใด ๆ อีก ส่วนเรื่องการแก้กฎหมายมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ที่ถูก สว.หยิบมาเป็นเหตุผลในการต่อต้านนายพิธา นั้น มองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างในการสกัดดาวรุ่ง มีการสมรู้ร่วมคิดของกลุ่มอำนาจและกลุ่มทุนผูกขาด ที่กลัวจะสูญเสียผลประโยชน์ หากนายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคก้าวไกล มีนโยบายที่ล้ำหน้าในหลาย ๆ เรื่อง จึงมีการนำเรื่องแก้มาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขในการขัดขวางไม่ให้ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
รศ.ดร.นันทนา ยังได้ฝากไปถึงนักวิชาการท่านอื่น ๆ ว่า อยากให้ออกมาเรียกร้อง ออกมารณรงค์ เพื่อให้ สว.ทั้งหลาย ช่วยกันลงมติ ตามฉันทามติของประชาชน ให้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง เพราะนี่คือหลักการสากล ไม่ใช่หลักการเฉพาะในประเทศไทย
รศ.ดร.นันทนา แสดงความเป็นห่วงว่า หากวันที่ 13 กรกฎาคม นี้ สว.มีการลงมติที่สวนทางกับมติของประชาชน คือไม่โหวตให้นายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าประเทศไทยจะกลับไปสู่ความวุ่นวายจากการลงถนนประท้วงตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกกับประเทศไทยในเวลานี้
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม