ชี้ชะตา ! วันนี้ กกต. ประชุม “พิธา” ถือหุ้นไอทีวี มีมติพร้อมส่งศาล รธน. ทันที

เช้านี้ที่หมอชิต - ขณะสปอตไลท์ทุกดวง ส่องไปวันที่ 13 กรกฎาคม แต่จู่ ๆ เมื่อวานนี้มีรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กกต. ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังคงลงสมัคร เตรียมเสนอที่ประชุม กกต.วันนี้ เพื่อลงมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และหากเช่นนั้น 12 กรกฎาคม จะเป็นวันชี้ชะตาอีกวันของนายพิธา

 

เมื่อวานนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีมีผู้ยื่นร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าการที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล มีชื่อถือครองหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น เข้าลักษณะต้องห้ามมีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) หรือไม่ ได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่าง ๆ และมีการประสานข้อมูลกับคณะกรรมการไต่สวนกรณีนายพิธากรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังคงลงสมัครตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.

 

มีรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปข้อเท็จจริงต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว เตรียมเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณา ซึ่งปกติ กกต.มีประชุมทุกวันจันทร์และอังคารของสัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันนี้ (10 ก.ค.) คาดว่า กกต.จะมีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันที

 

ก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ของ กกต.จะเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อ กกต.เห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ โดยก่อนมีมติจะเชิญหรือไม่เชิญนายพิธา ผู้ถูกกล่าวหา มาชี้แจงต่อ กกต.ก่อนหรือไม่ก็ได้

 

ซึ่ง หาก กกต.มีมติส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ปกติจะประชุมประจำสัปดาห์ในวันพุธ สัปดาห์นี้ตรงกับวันที่ 12 กรกฎาคม หากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยและมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ย่อมมีผลต่อการโหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 กรกฎาคม นี้