logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

จับชาวอุซเบกิสถาน ลวงสาวร่วมชาติ ค้าประเวณี ที่พัทยา | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ตำรวจรวบหนุ่มอุซเบกิสถาน ลวงสาวประเทศเดียวกันค้ากามริมหาดพัทยา ให้ยืนหาลูกค้าตั้งแต่ 18.00-06.00 น.

257 ครั้ง
|
07 ก.ค. 2566
ตำรวจรวบหนุ่มอุซเบกิสถาน ลวงสาวประเทศเดียวกันค้ากามริมหาดพัทยา ให้ยืนหาลูกค้าตั้งแต่ 18.00-06.00 น.
 
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา มูลนิธิไนท์ไลท์และองค์กรโอยูอาร์ ได้พา นางสาวเค (นามสมมุติ) หญิงสาวชาวอุซเบกิสถาน อายุ 19 ปี มาแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายหลอกให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อมาค้าประเวณีที่พื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 โดยถูกบังคับให้ค้าประเวณีจำนวนหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับเงินค้าบริการ และยังถูกกลุ่มคนร้ายทำร้ายร่างกายอีก จึงได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือต่อสถานทูตอุซเบกิสถาน ทางสถานทูตฯ จึงได้ประสานให้ทางมูลนิธิฯเข้าช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจของผู้เสียหาย จากนั้นทางมูลนิธิจึงได้พามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
 
จากการสอบสวนทราบว่า นางสาวเค (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ 1 ในคดีนี้ เล่าว่า ได้มีเป็นสาวที่สนิทกันตั้งแต่เด็ก ชวนตนเองมาทำงานที่ประเทศไทย โดยอ้างว่ามีงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี มีรายได้ดี มีที่พักให้ ซึ่งจะออกค่าเดินทาง และค่าทำวีซ่าในการเดินทางให้ ตนเองจึงได้เดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากต้องการหาเงินไปเป็นค่ารักษามารดาที่ป่วย โดยคิดว่าจะมาทำงานที่ประเทศไทยประมาณ 3 เดือน แล้วจะกลับบ้าน ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าได้รับวีซ่าการทำงานถูกต้องตามกฎหมาย จึงตอบตกลงที่จะเดินทางมา
 
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ตนเองพร้อมกับ นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายอีกคน ได้เดินทางมาที่ประเทศไทย โดยมีเพื่อนสนิทมารับที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นก็พาไปพักอาศัยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ตนเองก็ได้พบกับนางแซมรัตฯ (Ms.Zumrat) อายุประมาณ 42 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นหัวหน้างานอยู่ที่นี่ พอตนเองมาถึงได้บังคับให้ทำงานค้าประเวณี โดยให้ยืนหาลูกค้าที่บริเวณริมชายหาดพัทยา ใกล้กับวอล์กกิ้ง สตรีท และขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าที่ โดยมีนางแซมรัต กับนายนารูส เป็นผู้ติดต่อหาลูกค้ามา และเป็นผู้เก็บเงินจากลูกค้าทั้งหมด
 
เมื่อได้ลูกค้าก็จะไปเปิดโรงแรมเพื่อให้บริการทางเพศแก่ลูกค้าในราคา 3,000-5,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งนางแซมรัต ได้พูดจาข่มขู่ให้ตนเองยอมทำงานขายบริการให้ โดยอ้างว่าตนเองเป็นหนี้ค่าเดินทาง ค่าจัดทำวีซ่า ประมาณ 175,000 บาท โดยเพื่อนสนิทของตนเองได้ค่ารับเงินค่าหัวไป ซึ่งหากไม่เชื่อฟังก็จะถูกทำร้ายร่างกาย, กักขัง และไม่ให้อาหาร ตนเองจึงต้องยอมทำตาม เพราะเคยเห็นคนถูกทำร้ายมาแล้ว ในแต่ละวันตนเองถูกบังคับให้ทำงานขายบริการไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง โดยออกมายืนรอรับแขกที่บริเวณริมชายหาดตั้งแต่ 18.00-06.00 น. ถ้าหาลูกค้าไม่ได้ตามยอดดังกล่าว ก็จะไม่นำอาหารมาให้รับประทาน โดยทุกวันจะได้รับอาหารเพียงวันละ 1 มื้อเท่านั้น
 
ตนเองคิดจะหลบหนีแต่ไม่มีเงินติดตัว และไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จึงไม่กล้าจะหลบหนีออกมา บวกกับนางแซมรัตฯ จะมีลูกน้องเป็นหญิงชาวอุซเบกิสถาน จำนวน 4 คน ทำหน้าที่คอยควบคุมไม่ให้หลบหนีอีกด้วย วันที่ 10 มิถุนายน 2566 นางแซมรัตฯ ได้แจ้งกับพนักงานทุกคนว่าให้เตรียมเอกสาร เพื่อเดินทางไปขายบริการทางเพศที่ประเทศบาห์เรน เนื่องจากจะมีรายได้สูงกว่า และในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 นางแซมรัตฯ ได้เริ่มพาหญิงสาวคนอื่นไปที่ประเทศบาห์เรน ตนเองจึงได้ตัดสินใจหลบหนีออกมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากนางเอ็น ผู้เสียหายอีกราย ให้เงินค่าแท็กซี่เพื่อหลบหนีออกมา แล้วไปขอความช่วยเหลือที่สถานทูตอุซเบกิสถาน
 
หลังสถานทูตได้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย จึงได้ติดต่อ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้ช่วยสอบสวนเรื่องนี้ หลังเจ้าหน้าที่สอบสวน พบข้อมูลสอดคล้องตามคำให้การของผู้เสียหาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน นำกำลังเข้าค้นห้องพักของกลุ่มคนร้าย ที่โรงแรมย่านพัทยา แต่ไม่พบตัวคนร้าย พบเพียงเหยื่อผู้เสียหายที่ถูกหลอกมาขายบริการ 2 ราย จึงช่วยเหลือออกมา
 
ทางด้าน พันตำรวจเอก พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นางแซมรัตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 โดยได้เดินทางประเทศบาห์เรน ส่วนเพื่อนสนิทของนางสาวเค ผู้ต้องหาอีกรายได้เดินทางออกนอกประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 โดยได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย ส่วนนายนารูสฯ ยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนในข้อหาหลัก ๆ คือ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นธุระจัดหา บุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือข่มขืนใจ
 
ต่อมา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ได้สืบจนพบว่านายนารูสฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ที่กำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ จึงสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
 
เบื้องต้นผู้ต้องหาที่ 3 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่าแค่รู้จักกับนางแซมรัตฯ ผู้ต้องหาที่ 1 เท่านั้น เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ตนเองไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือได้รับประโยชน์ใด ๆ จากหญิงขายบริการ
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/JslmL7WasNk

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง