โมเดลลิงเก๊ พิสูจน์รักแท้คนเป็นแม่ หลอกให้ตายใจ แค่ 3 ชม. สูบเงิน 1.2 ล้าน !

ใคร ๆ ก็รู้ว่าคนเป็นแม่รักลูกมากเท่าไหร่ มีอะไรก็หามาให้ลูกได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพมาเล่นงานบรรดาแม่ ๆ อย่างเช่นกรณีนี้ ที่มิจฉาชีพได้ปลอมเป็นโมเดลลิง อ้างมาจากบริษัทผลิตการ์ตูนและภาพยนต์เด็กชื่อดังระดับโลก แล้วล่อลวงให้ผู้ปกครองทำกิจกรรมฝ่าด่านต่าง ๆ เพื่อแลกกับการเซ็นสัญญาให้ลูกเป็นศิลปิน แต่กลายเป็นว่ามิจฉาชีพใช้กิจกรรมมาหลอกสูบเงินไป มีผู้เสียหายหลายราย บางรายสูญเงินเป็นล้านบาท !

 

 

            วันที่ 6 ก.ค. 66 แม่ได๋ ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนเล็งเห็นว่าลูกสาวเป็นเด็กกิจกรรม ชอบเล่นเปียโน ร้องเพลง เป็นพิธีกร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีไปเดินแบบกับโมเดลลิง ซึ่งลูกสาวก็ชอบตนเลยไปหางานให้เขาใหม่ จึงได้ไปโพสต์หางานเดินแบบให้ลูก จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพก็ติดต่อเขามาสอบถาม โดยอ้างว่าจะให้เงินเดือนถึง 20,000 - 30,000 บาท อีกทั้ง ค่าแต่งหน้า ค่าถ่ายรูป ค่าอะไรต่าง ๆ ฟรีหมด 

 

            ต่อมาเมื่อตนตกลงเขาก็จัดการดึงตนเข้าไปในกลุ่มไลน์โดยมีสมาชิก 159 คน แล้วเขาก็ได้เริ่มให้ทำกิจกรรม โดยให้กดถูกใจสินค้าให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังในไทย และอีกอันคือบริษัทผลิตการ์ตูนชื่อดังระดับโลก โดยเขาอ้างว่าเป็นมาร์เก็ตติ้งของ 2 บริษัทนี้ จากนั้นก็จะให้สำรองจ่ายเงินค่าสินค้า ยอดน้อย ๆ ก่อน หลักร้อยถึงหลักพันบาท แล้วทางเพจจะโอนเงินคืนให้ พร้อมค่าคอมมิชชันอีก 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ส่งรูปถ่ายลูกไปให้เขา เพื่อเก็บคะแนนกิจกรรม และเขาก็จะได้ เมื่อจบกิจกรรมในห้องนี้จะได้คะแนนมา 70 คะแนน ทั้งนี้ที่ตนเชื่อเพราะแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ตนสามารถเอาบัญชีที่เคยสมัครไว้นานแล้ว ล็อกอินเข้าไปได้ ทำให้ตอนนั้นคิดว่าเป็นเรื่องจริง 

 

            จากนั้นตนต้องเก็บคะแนนเพิ่มอีก 30 คะแนนในกลุ่มไลน์ที่  2 ให้จบภายใน 1-2 ชั่วโมง ทำแล้วห้ามหยุด ถ้าหยุดเงินที่สำรองจ่ายทั้งหมดจะถูกแช่แข็ง 1 ปี หากผ่านด่านนี้ลูกตนจะได้รับการเซ็นสัญญา โดยในด่านนี้กลุ่มมิจฉาชีพให้สำรองเงินจ่ายอ้างว่ากระตุ้นยอดขายให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของห้างดังเหมือนกิจกรรมด่านแรก  แต่ว่ายอดเงินจะสูงขึ้น แต่เมื่อโอนไปมิจฉาชีพบอกว่าทำผิดขั้นตอน ต้องโอนไปใหม่อีก ซึ่งก็มีบรรดาหน้าม้าในกลุ่มที่แสร้งเป็นแม่ ๆ เชียร์ให้โอน รวมแล้วตนโอนเงินไป 7 ครั้ง เป็นจำนวน 427,230 บาท ตอนนี้ มีผู้เสียหายเยอะมาก เฉพาะกลุ่มของตนก็ 22 คน แต่ยังมีกลุ่มอื่นอยู่อีกกว่า 30 คน 

 

            ทั้งนี้หลังจากตนมาออกข่าว กลายเป็นว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลับมาขู่ตน โดยบอกว่า "ที่ไปออกข่าวไม่ถือสา แต่อย่าให้เห็นอีกนะ" พร้อมทั้งพิมพ์ชื่อข้อมูลส่วนตัวของลูกสาวตนมาเพื่อข่มขู่ด้วย ทำให้ตนกลัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเครียดมาก ๆ ถูกหลอกเสียเงินแล้วยังมาถูกสังคมคุยกันสนุกปากว่าตนถูกหลอก   

 

 

            แม่แอน ผู้เสียหาย เล่าเพิ่มว่า ตนก็ถูกหลอกรูปแบบเดียวกับแม่ได๋ มีการให้เก็บคะแนนเหมือนกัน ให้สำรองจ่ายเงิน อ้างกระตุ้นแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ห้างังเหมือนกัน ซึ่งในด่านที่สองตนโอนเงินไป 4 ครั้ง ครั้งแรกโอนเงิน 20,000 บาท, ครั้งที่ 2 โอนเงิน 21,000 บาท, ครั้งที่ 3 โอนเงิน 49,000 บาท, ครั้งที่ 4 119,000 บาท แต่เมื่อจบ 4 ครั้ง  มิจฉาชีพกลับบอกว่าทำผิด ไม่สามารถคืนเงินได้ ต้องโอนใหม่ 310,000 บาท ตอนนั้นตนก็เริ่มเอะใจ แต่พอถามแม่ ๆ ในกลุ่มเขาก็ยืนยันวว่าไม่โดนหลอก สุดท้าย โอนไป 310,000 บาท มิจฉาชีพก็ยังบอกว่าตนโอนเงินผิดอยู่ต้องโอนใหม่อีกครั้ง 310,000 ก็ผิดอีกโอนไปเพิ่มอีก 420,000 บาท รวมแล้ว 1,290,000 บาท ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดไม่นานประมาณ 3 ชั่วโมง ตั้งแต่ 15.00 น. ถึง 18.30 น. 

 

            อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ตนจะเล่นกิจกรรม ตนได้ทำการหาข้อมูลของบริษัทว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ก็มีความสงสัยอยู่ในใจเพราะเบอร์โทรที่เขาให้ กับเบอร์โทรในอินเทอร์เน็ตมันไม่ตรงกัน ซึ่งหลังจากตนเล่นกิจกรรมภายในกลุ่มแรกเสร็จแล้ว ก็ได้ไปสอบถามแม่ ๆ ในกลุ่มไลน์ที่ 2 ว่าได้ติดต่อไปตามเบอร์นี้ไหม ซึ่งแม่ ๆ ก็ได้มายืนยันว่าเป็นเบอร์จริง ซึ่งตนก็มาทราบภายหลังว่าแม่ ๆ ในกลุ่มไลน์เป็นหน้าม้า 

 

            ฟาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในเรื่องคดีตนอยากให้ผู้เสียหายมาพบตนที่สโมสรตำรวจพรุ่งนี้(7 ก.ค. 66) เวลา 10.00 น. ตนจะทำการดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และเร่งออกหมายจับกลุ่มมิจฉาชีพให้ รวมทั้งผู้เปิดบัญชีม้าด้วย และต้องโดนโทษหนักแน่ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนเส้นทางการเงินต้องมาไล่ดูว่าตามกลับมาได้แค่ไหน ตนกังวลว่าเงินจะออกนอกประเทศไปหมดแล้ว ขณะที่การจับกุมนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน 

 

 

            ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า เรื่องที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพข่มขู่นั้น ถ้าตำรวจจับกุมได้เมื่อไหร่ให้คัดค้านการประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล พวกนี้ไม่มีทางได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันแน่นอน สำหรับความผิดนั้น มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ อีกด้วย