แต่กว่าจะถึงด่านตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ต้องดูกันที่การเลือกนายกฯ ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ก่อน ซึ่งคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ฟันธงเลยว่า ยังไง คุณพิธา ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ โหวตกันกี่ครั้ง ก็ไม่ถึง 376 เสียง แต่ว่านักวิชาการ มองต่างออกไปว่า การที่ สส. พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็น สส. ส่วนใหญ่ที่งดออกเสียงในการเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 เมื่อวานนี้ ถือเป็นการทอดไมตรีให้กับพรรคก้าวไกล และคุณพิธา
นักวิชาการชี้ “ภูมิใจไทย” ทอดไมตรีร่วมรัฐบาล
รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ให้สัมภาษณ์รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ว่า การประชุมสภาเพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาฯ เมื่อวานนี้ มีจุดที่น่าสังเกต 2 จุด
จุดแรกคือ ความเป็นเอกภาพของฝ่ายว่าที่พรรครัฐบาลที่กำลังจัดตั้งรัฐบาล เพราะว่าก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวรอยร้าวระหว่างพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ที่ต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ แต่เมื่อหาข้อยุติร่วมกันได้ และต่างยอมรับอาจารย์วันนอร์ เป็นประธานสภาฯ ทำให้การตั้งรัฐบาลต่อจากนี้มีความเป็นไปได้
ในขณะเดียวกัน การโหวตรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คุณปดิพัทธ์ สันติภาดา ในซีกของว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล จะเห็นความเป็นเอกภาพชัดเจน 312 เสียง เป็นสัญญาณที่ดีในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต
อีกด้านหนึ่ง ในซีกของพรรคร่วมรัฐบาลเก่า เห็นรอยร้าวเกิดขึ้น มีความไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากโหวตให้คุณวิทยา แก้วภารดัย แค่ 105 เสียง ทั้งที่มีเสียงรวมกัน 188 เสียง เพราะฉะนั้นแปลว่า พรรคว่าที่ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลเดิม อาจไม่ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกต่อไป
จุดที่น่าสังเกต คืองดอีกเสียง 77 เสียง ซึ่งภายหลัง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับว่าปล่อยลูกพรรคฟรีโหวต ก็มีการประเมินคาดการณ์ว่า การงดออกเสียง 77 เสียง มาจาก สส. ภูมิใจไทย ถ้าเป็นเช่นนี้ หมายความว่า พรรคภูมิใจไทยกำลังทอดไมตรีให้กับพรรคว่าที่รัฐบาล ว่าภูมิใจไทยมีความพร้อมร่วมรัฐบาล เพราะถ้าหากจะตัดไมตรี คงไปโหวตให้คุณวิทยา
ส่วน สว. 250 คนนั้น มีหลายกลุ่ม กลุ่มที่ไม่เอาคุณพิธา จะออกมาพูดบ่อย สะท้อนว่าอาจไม่มั่นใจ หรือกังวลว่า สว. จำนวนมากจะไปโหวตให้คุณพิธา ซึ่งนอกจาก สว. กลุ่มนี้ที่ออกมาพูดบ่อย ยังมี สว. อีกหลายกลุ่มที่วิเคราะห์แล้ว น่าจะมีมากถึง 70-80 คน ที่จะโหวตให้คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
“จตุพร” ยังฟันธง “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ
ความเห็นของอาจารย์พิชาย แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับความเห็นของ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน คุณจตุพร มองว่า การเลือกประธานสภาฯ เมื่อวานนี้ ทำให้เห็นว่า ทางฝั่ง 8 พรรคร่วมว่าที่รัฐบาล 312 เสียง ยังผูกติดกันแน่น ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ได้มีเจตนาจะไปต่อสู้อะไร คะแนนที่คุณวิทยาได้มา 105 เสียง และยังมีงดออกเสียง บัตรเสียนั้น แสดงให้เห็นว่า อีกฝั่งไม่ได้มีเจตนาต่อสู้ เป็นเพียงสีสัน จึงวิเคราะห์อะไรไม่ได้
ส่วนตัวเลข 77 ที่งดออกเสียง เชื่อว่าส่วนใหญ่มาจากภูมิใจไทย แต่ถ้าใครจะจินตนาการว่า พรรคภูมิใจไทย จะมาโหวตสนับสนุนคุณพิธา เป็นนายกฯ นั้น เป็นการคิดที่ผิดพลาด เพราะว่าพรรคก้าวไกลประกาศจุดยืนชัดเจน มีลุงไม่มีเรา ไม่เอากัญชาเสรี ไม่เอาทั้งภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ดังนั้น การงดออกเสียง 77 คน เนื่องจากว่า 188 คนในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ไม่ได้พูดคุยตกลงกัน ที่จะเสนอคุณวิทยา แก้วภารดัย ชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 คนเก๋าการเมืองอย่างพรรคภูมิใจไทย จึงงดออกเสียง เพราะโหวตสนับสนุนไปก็ไม่ได้มีความหมายอะไร และไม่มีนัยยะอะไร ที่จะส่งสัญญาณไปถึงการโหวตเลือกนายกฯ
คุณจตุพร ร่ายยาวต่อไปว่า 312 เสียงที่โหวตเลือกคุณปดิพัทธ์ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อวานนี้ พอถึงเวลาเลือกนายกฯ คุณพิธา ก็จะได้เพียงแค่ 312 เสียง เหมือนกับที่คุณปดิพัทธ์ ได้เมื่อวาน ซึ่งยังขาดอีก 64 เสียง จึงจะถึง 376 เสียง ซึ่งเป็นตัวเลขกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ตามกติกาที่จะได้เป็นนายกฯ
แต่ว่า 64 เสียงที่เหลือนั้น พรรคก้าวไกลเอง ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะไปหาตามพรรคการเมืองที่เหลือในฝั่งตรงข้าม เพราะถ้าเอามาได้ เอามาแล้ว เป้าหมายเดียวที่พรรคก้าวไกลพยายามมาตลอดคือเสียงของ สว. แต่จนถึงตอนนี้ ไม่มีทางที่จะได้เสียง สว. ถึง 64 เสียง และที่ผ่านมา การแสดงออกของ สว. มีไม่ถึง 20 เสียงที่จะสนับสนุน และเอาจริง ๆ ใน 20 คน มีแค่ประมาณ 5 คน อีกทั้ง สว. ที่แสดงตัวจะเลือกคุณพิธา ถูกประกบตัวติด จึงกลับหลังหันกันหมด ที่ประกาศตัว 20 คน จะเหลือถึง 5 คนหรือไม่ นี่จึงต้องเป็นที่มาว่า ทำไมประธานสภา จึงต้องมาลงเอยที่อาจารย์วันนอร์ เพราะความขัดแย้งระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย จะได้ไม่เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกประธานสภาฯ
คุณจตุพร บอกว่า เกมนี้เพื่อต้องการลากให้คุณพิธา ไปถึงวันเลือกนายกฯ จะได้สิ้นสงสัยว่า ได้ 312 เสียง บวกลบอีกเล็กน้อยในเสียงของ สว. แต่จะไม่ถึง 376 เสียง และถ้ายังสงสัย ก็ให้โหวตอีกรอบหนึ่ง จากนั้นเป็นคิวของพรรคเพื่อไทย โหวตคุณเศรษฐา ทวีสิน ผลลัพธ์ ก็ไม่ต่างไปจากการโหวตคุณพิธา ดังนั้น ลากไปถึงจุดสิ้นสงสัย ไปจนถึงจุดหักเห ซึ่งเป็นจุดที่จะอธิบายกับประชาชนว่า 312 เสียงไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องสลายขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ แผนการเดิมยังอยู่ อ้างประเทศนี้ต้องมีรัฐบาล เสียสัตย์เพื่อชาติ และในฝั่งรัฐบาลเดิม 188 เสียง ต้องการเพียงแค่ 63 เพื่อได้ 251 เมื่อไปรวมเสียงโหวต สว. หวยจะมาลงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คุณพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ และพรรคก้าวไกล จะต้องไปเป็นฝ่ายค้าน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35