เช้านี้ที่หมอชิต - แม้ว่าศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ จะได้ข้อยุติแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามลึก ๆ คาใจใครหลายคนอยู่ดี โดยเฉพาะ เพื่อไทย ซึ่งยืนยันมาตลอดว่า อยากได้เก้าอี้นี้ เพราะคะแนนเสียง 2 พรรค ไม่ห่างกันมาก ก้าวไกลได้เป็นประมุขฝ่ายบริหาร เพื่อไทยควรเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่อยู่ ๆ เมื่อจะถอยกลับไม่เลือกหลีกทางให้ก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 1 กลายเป็นชื่อของ พรรคลำดับที่ 3 แทน ซึ่งเราจะมาลองถอดรหัสกันหน่อย ว่าทำไมต้อง วันนอร์ เป็นประธานสภาฯ
ในการแถลงที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ เรื่องนี้มีคำชี้แจงจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
คุณภูมิธรรม บอกว่า ถ้าอยากให้ราบรื่น อาจต้องมีคนกลางมาช่วยให้ดีขึ้น ตอนแรกอาจารย์ปฏิเสธ แต่คุณภูมิธรรมย้ำว่า ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า อยากจะเสนออาจารย์เป็นคนกลาง น่าจะเป็นทางออกที่ให้เราเดินหน้าต่อไปได้ เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งประธานสภาฯ เท่านั้น แต่อยู่ที่จับมือกันให้รัฐบาลไปได้ด้วยดี ซึ่งต่อมา อาจารย์วันนอร์ บอกว่า หากความต้องการของประชาชน และ 2 พรรค คือ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ก็ไม่ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เบื้องแรกที่เพื่อไทยยื่นข้อเสนอนี้ ก้าวไกล ยังคงไม่แน่ใจนักและยืนยันในชื่อ หมออ๋อง เหมือนเดิม แต่ก็แบ่งรับแบ่งสู้ส่ง ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ไปหารือกับ อาจารย์วันนอร์ ที่บ้าน โดยยอมรับว่า ได้สนทนากันนานมาก ตั้งแต่หัวค่ำจนเกือบเที่ยงคืน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในหลายประเด็น ซึ่งก็คงเป็นประเด็นที่ปรากฏในแถลงร่วมฉบับล่าสุด ซึ่งมีทั้งเรื่องการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมผู้แสดงออกทางการเมือง หรือกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปกองทัพ หรือแม้แต่ประเด็นสุราก้าวหน้า และสมรสเท่าเทียม ที่เป็นเรื่องอ่อนไหวทางศาสนาสำหรับพรรคประชาชาติ ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่ดีว่าจะดำเนินการเหมือนกฎหมายอื่น ๆ แต่ในส่วนของท่านก็อาจให้รองประธานท่านอื่นทำหน้าที่แทน รวมถึงอาจไม่ร่วมโหวตในเรื่องนี้
ตัดมาเช้าวันที่ 3 กรกฎาคม ในที่ประชุม สส.เพื่อไทย เคาะว่า ควรเสนอชื่อ อาจารย์วันนอร์ ไม่ใช่คนของเพื่อไทย เพราะอาจนำไปสู่ความขัดแย้งแตกหักกับก้าวไกลได้ จึงทำให้มีข่าวว่า ภูมิธรรม, แพทองธาร ชินวัตร และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางข้ามตึกจากพรรคเพื่อไทยไปเจรจากับแกนนำก้าวไกล ที่ตึกไทยซัมมิท อีกครั้ง จนได้ข้อตกลงนำไปสู่การแถลงดังที่ทราบกัน
แต่ในส่วนเบื้องหลังก็ยังมีการวิเคราะห์คาดเดาสาเหตุไปต่าง ๆ นานา เช่นว่า ชื่อของ อาจารย์วันนอร์ ที่ปรากฏขึ้นในช่วงท้ายของศึกชิงประธานน่าจะมาจากคนแดนไกลที่ต้องการเคลียร์ทางกลับบ้าน ซึ่งมีกำหนดการ คือ เดือนกรกฎาคมนี้ หากเก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นของก้าวไกล ก็อาจผลักดันวาระที่ล่อแหลม อำนาจเก่าที่ยังกุมอยู่ในหลาย ๆ เรื่องอยู่ ก็อาจไม่สบายใจทำให้เป็นอุปสรรคได้
ขณะที่ในอีกทางหนึ่งมองว่าที่จริงเป็นเรื่องของเก้าอี้ที่ช่วงชิงกันภายในเพื่อไทยไม่ลงตัว เพราะต้องไม่ลืมว่าเพื่อไทยมีกลุ่มมุ้งมากมาย ไม่ว่าเสนอชื่อคนในเพื่อไทยเองหรือยอมรับคนของก้าวไกลเป็นประธานสภาฯ ย่อมทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค ชื่อของ อาจารย์วันนอร์ จึงมีบารมีเพียงพอที่จะสยบกลุ่มมุ้งต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นชื่อที่ก้าวไกลก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยากจะปฏิเสธได้ นี่จึงอาจเป็นคำตอบที่ว่า นาทีนี้ทำไมเบอร์หนึ่งประธานสภาฯ ต้องเป็นชื่อ วันนอร์ เท่านั้น
ล่าสุด มีรายงานว่า ชื่อของรองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ลงตัวแล้ว ซึ่งก้าวไกลจะเสนอชื่อ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นรองสภาคนที่ 1 ส่วนเพื่อไทย จะเสนอชื่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธานสภาคนที่ 2
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม